ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3851 งานการกุศล
ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “หมายเลข 016 ในเมื่อคุณยอมรับข้อกำหนดด้านการจัดจำหน่ายของเราโดยสมัครใจ อย่างนั้นคุณก็ต้องจ่ายเงิน แปดหมื่นล้านดอลลาร์มาก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะปฏิบัติตามสัญญา และพวกเราต้องลงนามในเอกสารทางกฎหมายอีกชุดหนึ่งด้วย ยาอายุวัฒนะจะถูกจัดส่งให้คุณหลังจากที่มีการลงนามในเอกสารทางกฎหมายแล้ว คุณมีข้อคัดค้านอะไรหรือไม่?
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ส่ายหัวและพูดอย่างเศร้าใจ “ไม่… ฉันไม่มีข้อโต้แย้ง…”
ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ อย่างนั้นพวกเราก็ถือว่าบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายยาอายุวัฒนะบนพื้นฐานที่เท่าเทียมและสมัครใจโดยยึดหลักความเป็นธรรมและความยุติธรรม คุณแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่?”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์พูดด้วยสีหน้าอยากจะร้องไห้ “แน่ใจ… ฉันแน่ใจ…”
“ดี” ซ่งหวั่นถิงยิ้มและพูดต่อ “แต่ว่า มีสองเงื่อนไขที่ฉันต้องการเน้นต่อหน้า 016 และผู้เสนอราคาทั้งหมดในวันนี้สักหน่อย”
“ก่อนอื่น ทุกท่านโปรดวางใจ ระบบการจัดจำหน่ายของเราใช้กับแค่คุณเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ผู้เดียวเท่านั้น ยกเว้นเขา ใครก็ตามที่ประสบความสำเร็จในการประมูลยาอายุวัฒนะ ล้วนไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมใดๆ ดังที่ยาอายุวัฒนะทั้งสี่ที่พวกคุณเห็นก่อนหน้านี้ พวกเราล้วนปฏิบัติตามหลักความเป็นธรรมและยุติธรรมอย่างเคร่งครัด จะไม่มีการบังคับค่าใช้จ่ายใดๆกับผู้ร่วมการประมูลทั้งสี่ท่าน ดังนั้นทุกท่านได้โปรดอย่ากังวล!”
ทันทีที่เอ่ยออกไป ทุกคนในที่งานก็ส่งเสียงเชียร์ขึ้นมาทันที
เนื่องจากมันมุ่งเป้าไปที่เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์เท่านั้น ทุกคนจึงย่อมมองดูเรื่องน่าตลกของเขาด้วยความสนุกสนาน
ดังนั้นทุกคนจึงปรบมือและเชียร์อย่างมีความสุข มีเพียงเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์เท่านั้นที่สีหน้าดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง
จากนั้น ซ่งหวั่นถิงก็เอ่ยอีก “ประการที่สอง เงื่อนไขในการจัดจำหน่ายของพวกเราไม่เหมือนกับองค์กรภายนอกพวกนั้น รายได้ที่เกิดขึ้นจากการจัดจำหน่ายทั้งหมด เราจะแจกจ่ายเพื่อการกุศลทั้งหมด ไม่เก็บเอาไว้แม้แต่แดงเดียว!”
“และครึ่งหนึ่งในนั้นจะนำไปบริจาคให้กับพื้นที่ยากจนในหัวเซี่ย เพื่อแก้ปัญหาทั้งในด้านการเรียน ชีวิต และสุขภาพแก่เด็กในพื้นที่ เด็กวัยรุ่น และเด็กที่ขาดการศึกษา ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียงค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ ค่าอาหารกลางวัน ทุนการศึกษา เงินช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรักษาโรคเมื่อเจ็บป่วยด้วย”
“ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะนำไปบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สถานสงเคราะห์ และสถาบันสวัสดิการเด็กอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อปรับปรุงระดับความเป็นอยู่และการศึกษาของเด็กกำพร้าในสถาบันสวัสดิการ”
“ดังนั้นที่มาที่ไปของกองทุนทั้งหมดจะถูกแบ่งออกอย่างชัดเจน และเผยแพร่สู่สังคมทั้งหมด และยินดีให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการกำกับดูแล!”
ทันทีที่คำพูดนี้เอ่ยออกมา ทุกคนในงานก็เกิดความโกลาหลอีกครั้ง
นี่คือเงินสิบปี มูลค่าสามหมื่นหกพันล้านดอลลาร์เชียวนะ!
บอกว่าบริจาคทั้งหมด?!
เงินไม่ใช่เงินหรือไง?
มีกี่กลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดแสนล้าน แต่ก็ยังไม่สามารถทำกำไรได้มากเท่าจำนวนนี้ในสิบปี แต่เจ้าของยาอายุวัฒนะ กลับไม่สนใจมันเลยสักนิด!
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนล้วนเป็นมหาเศรษฐีระดับท็อปและเข้าใจเกี่ยวกับงานการกุศลเป็นอย่างดี
ต่อให้คิดจะทำการกุศลเล่นๆ ก็ยังไม่ถึงขั้นนี้!
มหาเศรษฐีทั่วโลก โดยเฉพาะชาวตะวันตก มองแล้วเหมือนจะสนใจเรื่องงานการกุศลอย่างมาก และมีการก่อตั้งมูลนิธิการกุศลต่างๆ จากนั้นก็ทุ่มเงินหลายร้อยล้านหรือกระทั่งพันล้านดอลลาร์เข้ามูลนิธิ
แต่ในความเป็นจริง มูลนิธิเพื่อการกุศลพวกนั้นส่วนใหญ่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
มหาเศรษฐีชาวตะวันตกมักบริจาคเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อก่อตั้งมูลนิธิ แต่ในความเป็นจริงพวกเขากำลังทำมันให้กลายเป็นกองทุนทรัสต์และหลีกเลี่ยงภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่สูงถึง 50% จากนั้นก็ปล่อยให้เงินส่วนมากไปสู่คนรุ่นต่อไปในอนาคต
ตามระบบของตะวันตก เงินกองทุนจำนวน 5% จะต้องใช้เพื่อการกุศล และอีก 95% ที่เหลือนั้นถือว่าเทียบเท่ากับกองทุนทรัสต์ของตระกูลไปแล้ว อีกทั้งยังไม่ต้องเสียภาษี
ดังนั้นมหาเศรษฐีในตะวันตกจึงทำการกุศล โดยนำเงินเพียงเล็กน้อยไปทำบุญ และเงินส่วนมากก็จะใช้วิธีนี้เหลือให้ตระกูลของพวกตน
มหาเศรษฐีชาวตะวันตกหลายคนยังให้คำมั่นว่าจะบริจาคต่อไปหลังจากตายไปแล้ว แต่อันที่จริง คนส่วนใหญ่เองก็ใช้วิธีนี้เพื่อเปลี่ยนห่อความมั่งคั่งของตนเอาไว้และส่งต่อไปยังคนรุ่นหลังต่อไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าของยาอายุวัฒนะ บริจาคเงินทั้งหมดสามหมื่นหกพันล้านเหรียญไปเปล่าๆทั้งหมด อีกทั้งยังยอมรับการกำกับดูแลจากทั้งสังคม ซึ่งนี่หมายความว่าเป็นการบริจาคจริงๆ อีกทั้งยังเป็นการบริจาคอย่างสูญเปล่า ไม่เหลือไว้ให้ตัวเองเลยสักนิด..
นี่มันช่าง…น่าตกใจมากจริงๆ!