ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3881 ห้องเพรสซิเดนสูท
พูดจบ ก็รีบพูดกับเย่เฉินว่า:”เย่เฉิน คนนี้คือเคลลี่ เวสท์ ไอดอลที่ฉันบอกกับคุณมาโดยตลอด”
เย่เฉินมองเคลลี่ เวสท์ และพูดอย่างสุภาพว่า:”สวัสดีครับ คุณเวสท์ ผมได้ยินชื่อเสียงคุณมานานแล้วครับ”
เคลลี่ เวสท์รีบเอื้อมมือออกไป และพูดว่า:”คุณเย่คุณสุภาพเกินไปแล้ว ตอนฉันอยู่ที่จินหลิง ฉันก็ชื่นชมชื่อเสียงของคุณมานานแล้วค่ะ”
แม้ว่าเคลลี่ เวสท์จะไม่รู้ว่าเย่เฉินเป็นใครมาจากไหน และมีภูมิหลังอย่างไรกันแน่ แต่เธอรู้ว่า นี่คือผู้ชายที่แม้แต่เฟ่ยเข่อซินก็อยากจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อประจบ เพียงข้อนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าคนๆ นี้ไม่ธรรมดา
ทั้งสองจับมือกัน และหลังจากคุยตามมารยาทอีกสองสามคำ เย่เฉินก็พูดอย่างสุภาพกับทั้งสองคนว่า:”พวกคุณคุยกันก่อน ผมจะไปทำเอกสารการเช็คอิน”
ทั้งสองพยักหน้าเล็กน้อย และเคลลี่ เวสท์ก็ถามเซียวชูหรันเสียงเบา:”ชูหรัน ทำไมช่วงสองวันนี้ถึงติดต่อเฟยเอ๋อร์ไม่ได้เลยล่ะ?”
เซียวชูหรันยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเฟ่ยเข่อซิน และคิดว่าเพื่อนที่ดีของตนก็คือจานเฟยเอ๋อร์ที่เป็นเชื้อจีนชาวฝรั่งเศส
อันที่จริง ช่วงสองวันนี้เซียวชูหรันก็พยายามติดต่อเฟ่ยเข่อซิน แต่ก็เหมือนเคลลี่ เวสท์ โทรศัพท์ติดต่อของเฟ่ยเข่อซินปิดเครื่องและ และดูเหมือนจะหากไปจากโลก ไม่มีข่าวคราวเลย
ดังนั้นเธอจึงบอกกับเคลลี่ เวสท์อย่างตรงไปตรงมาว่า:”ความจริงแล้ว ช่วงสองวันนี้ฉันก็ติดต่อหล่อนไม่ได้เลย หรือว่าจะมีเรื่องด่วนอะไรจึงออกจากหัวเซี่ยไปแล้ว”
เคลลี่ เวสท์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดว่า:”มันก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน”
เคลลี่ เวสท์ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเฟ่ยเลย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเฟ่ยเข่อซินและปู่ของเธอ ได้เริ่มต้นการเดินทางเพื่อหลบหนีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อไม่ให้ทิ้งร่องรอยให้ลุงใหญ่ ตอนไปเฟ่ยเข่อซินจึงไม่กล้าติดต่อทั้งสองคน
แต่ว่า เคลลี่ เวสท์ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ยังไงซะ เฟ่ยเข่อซินเป็นคุณหนูของตระกูลเฟ่ย และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับตน มีเรื่องอะไรที่ต้องจัดการก่อน ก็ไม่จำเป็นต้องบอกตน
ดังนั้น เธอจึงทิ้งเรื่องนี้ไว้ข้างหลัง และยิ้มพูดว่า:”ช่างมันก่อน บางทีสักวันหลังจากที่เธอทำธุระเสร็จ ก็มาหาพวกเรา”
ทันใดนั้น เย่เฉินก็ทำขั้นตอนเอกสารการเช็คอินเสร็จ เอาสัมภาระให้พนักงานพาขึ้นไปชั้นบนก่อน จากนั้นจึงมาหาทั้งสองคนและพูดว่า:”ทำเอกสารการเช็คอินเสร็จแล้ว คุณเวสท์จะขึ้นไปนั่งด้วยกันก่อนไหม?”
เคลลี่ เวสท์ส่ายหัว และยิ้มพูดว่า:”ฉันไม่ไปล่ะ พวกคุณกลับไปเก็บห้องก่อนเถอะ ฉันจะรอพวกคุณที่ร้านอาหาร แต่พวกคุณไม่ต้องรีบ เราจะไปทานอาหารเย็นหนึ่งทุ่มนั้นพอดีเลย”
จากนั้น เย่เฉินและภรรยาบอกลาเคลลี่ เวสท์ และขึ้นลิฟต์ไปห้องเพรสซิเดนสูทที่ชั้นบนสุด
ทันทีที่เข้าไปในลิฟต์ เซียวชูหรันก็พูดกับเย่เฉินว่า:”ที่รักคะ ช่วงสองวันนี้เคลลี่ก็ติดต่อคุณจานไม่ได้ หล่อนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า?”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า:”คงจะไม่ ทายาทเศรษฐีอย่างหล่อน วันๆ สนุกกับชีวิตในรูปแบบ จะมีเรื่องอะไรได้?”
เซียวชูหรันพูดว่า:”แต่ก็ไม่น่าจะติดต่อไม่ได้สิ โทรไปปิดเครื่อง ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ และทักวีแชทก็ไม่มีการตอบสนองอะไรเลย”
เย่เฉินโพล่งออกมา:”ผมคิดว่ามีโอกาสสูงที่เธอหล่อนมีธุระด่วนจึงกลับฝรั่งเศส และอีกสักพักอาจจะกลับจินหลิง”
“ค่ะ”เซียวชูหรันพยักหน้าเบา ๆ และไม่คิดอะไรมาก
เย่เฉินพาเซียวชูหรันไปที่ห้องเพรสซิเดนสูทชั้นบนสุด ทันทีที่เปิดประตูออก สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือ ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร
และเนื่องจากตึกสูงมาก อีกด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยหน้าต่างกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน จึงสามารถมองเห็นวิวมุมกว้างของเมืองพรอวิเดนซ์ทั้งเมืองได้ และยังสามารถเห็นทั้งโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์จากที่นี่ได้
ทันทีที่เห็นห้องนั่งเล่นนี้ เซียวชูหรันถึงกับอึ้งพูดไม่ออก และโพล่งออกมาว่า:”ที่รัก……คุณ……คุณจองห้องแบบไหนเนี่ย? ทำไมถึงใหญ่ขนาดนี้……”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า:”นี่คือห้องเพรสซิเดนสูทของพวกเขา ใต้สุดของชั้นบนสุดทั้งหมด มีความเป็นส่วนตัวและสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า”
เซียวชูหรันถามด้วยความประหลาดใจ:”คุณคงไม่ได้จองห้องเพรสซิเดนสูทนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนสินะ……”