ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3901 รู้สึกประทับใจมากขึ้น
“ถ้าพวกเขารู้เรื่องพวกนี้ คงจะไม่ปล่อยให้ฉันมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน”
หลี่เสี่ยวเฟินอดไม่ได้ที่จะถามว่า “แล้วทำไมคุณถึงกลับมา ในเมื่อพวกคุณก็ได้หนีไปแล้ว?”
คลอเดียพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ถ้าฉันไม่กลับมาแล้วจะทำอย่างไรล่ะ? ถ้าฉันไม่กลับมา พวกเขาก็คงเดาได้ว่าฉันต้องรู้อะไรบางอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะกลับมา หากเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็จะตามหาฉันไปทุกที่อย่างแน่นอน และฆ่าฉันให้สิ้นเรื่อง………”
“ในทางกลับกัน เมื่อฉันกลับมาแล้ว ถึงจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าทุกอย่างราบรื่น คิดว่าฉันต้องไม่รู้อะไรอย่างแน่นอน”
“อีกอย่าง พวกเขาก็ไม่สงสัยในคำพูดของฉัน ฉันบอกพวกเขาว่า เหตุผลที่ฉันหายตัวไปชั่วขณะหนึ่ง เป็นเพราะสมาชิกในครอบครัวของฉันเสียชีวิต และใบหน้าของฉันก็ถูกเผาไหม้ มันกระทบจิตใจอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่อยากเจอคนเลย จนกระทั่งรอจนกว่าตัวเองจะยอมรับความจริงนี้ได้ ฉันถึงตัดสินใจกลับมา”
หลี่เสี่ยวเฟินถามอีกครั้งว่า “แล้วถ้าเกิดว่าพวกเขาไม่วางใจ และอยากจะตัดเรื่องให้สิ้นล่ะ?”
“ไม่” คลอเดียส่ายหัวและพูดว่า “การตายของพ่อแม่และน้องชายของฉัน มันถูกพวกเขาปลอมแปลงให้เป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่อยู่แล้ว ฉันกลับมาแล้วในตอนนี้ อยู่ในสายตาของทุกคน ฉันก็เป็นเพียงคนที่น่าส่งสารคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้”
“หากวันหนึ่งฉันก็ตายไปอย่างกะทันหัน อยู่ในสายตาของคนภายนอกอาจดูจงใจเกินไป ตราบใดที่พวกเขาแน่ใจว่าฉันไม่รู้เรื่องภายใน พวกเขาจะไม่เสี่ยงที่จะฆ่าฉันหรอก”
“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าฉันอยากจะแก้แค้นให้กับพ่อแม่และน้องชายอีกสองคน ฉันก็ต้องกลับมาที่แวนคูเวอร์ถึงจะมีโอกาส!”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ น้ำตาของคลอเดียก็ได้เอ่อล้นลงมาอีกครั้ง “เพียงแต่ตอนที่ฉันกลับมา พ่อแม่และน้องชายสองคนของฉันก็ถูกฌาปนกิจและฝังอย่างลวกๆ ไปแล้วในฐานะที่เป็นญาติคนเดียวของพวกเขา ฉันไม่สามารถมาส่งพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย…….”
หลังจากฟังเรื่องนี้ หลี่เสี่ยวเฟินก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอค่อยๆ กอดคลอเดียไว้ในอ้อมแขน และสำลักพูดว่า “ทำไมคุณก่อนหน้านี้คุณไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้กับฉันบ้างเลย……”
คลอเดียพูดทั้งน้ำตาว่า “ก่อนหน้านี้ฉันไม่กล้าพูด ฉันกลัวว่าถ้าพูดออกไป ฉันจะตาย…….”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะชื่นชมคลอเดียในเวลานี้
เด็กผู้หญิงคนนี้อายุเพียงสิบแปดปี แต่เมื่อเผชิญกับความทุกข์ครั้งใหญ่ขนาดนี้ ยังจะสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ของตัวเองได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนเช่นนี้
อีกอย่าง เธอยังได้ตัดสินใจอย่างใจเย็นที่สุด ซึ่งน่ายกย่องมากจริงๆ
แม้กระทั่งเธอจะรู้ว่า กัวเหล่ยคนนั้นเป็นผู้ร้ายที่ฆ่าครอบครัวของเธอ แต่เธอก็ยังมีความกล้าแบบไม่กลัวความตายที่จะกลับมาที่นี่ ซึ่งจุดนี้มันน่ายกย่องมากจริงๆ
ในเวลานี้ เย่เฉินที่ไม่พูดมาโดยตลอด เอ่ยปากกล่าวว่า “เสี่ยวเฟิน คุณไปที่ตลาด และซื้อเครปจีนให้ผมหนึ่งอัน”
หลี่เสี่ยวเฟินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และเกิดความสงสัยว่า ทำไมจู่ๆ เย่เฉินจึงให้ตัวเองไปซื้อเครปจีนในเวลานี้
ในขณะที่กำลังจะถามเหตุผลจากเย่เฉิน เย่เฉินก็ไม่ได้แสร้งทำเป็นอีกต่อไป เอ่ยปากพูดว่า “ผมมีเรื่องบางอย่าง ที่อยากจะคุยกับคลอเดียเป็นการส่วนตัว”
หลี่เสี่ยวเฟินดีใจมากในทันที เมื่อได้ยินเรื่องนี้
เธอรู้ว่าเย่เฉินมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม และต้องมีวิธีช่วยคลอเดียแก้แค้นได้อย่างแน่นอน!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นางก็ปาดน้ำตาทันที และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ได้คะพี่เย่เฉิน ฉันจะไปซื้อให้เดี๋ยวนี้เลย!”
หลังจากพูดจบ เธอรีบพูดกับคลอเดียอีกครั้งว่า “คลอเดีย ถ้าคุณมีข้อข้องใจอะไรก็บอกพี่เย่เฉินไป เขาจะต้องช่วยคุณหาทางอย่างแน่นอน!”
คลอเดียรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในทันใด เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เย่เฉินก็อยากจะคุยกับตัวเองแบบส่วนตัวเพราะเรื่องอะไร
ในเวลานี้ หลี่เสี่ยวเฟินรีบวิ่งออกจากประตู และพลิกป้ายเปิดประตูที่ประตูไปด้วย และกลายเป็นปิดร้านชั่วคราว
เย่เฉินมองไปที่คลอเดียในเวลานี้ และถามตรงประเด็นว่า “ลองพูดมาสิ สองสามวันที่ผ่านมานี้คุณส่งข้อความหาผมไม่หยุดเลย อยากให้ผมมารับและพาเสี่ยวเฟินออกไป ตกลงเธอจะมีอันตรายอะไรกันแน่?”
คลอเดียมองไปที่เย่เฉิน และถามด้วยความตื่นตระหนกว่า “คุณ……คุณรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฉัน……..”
เย่เฉินพูดอย่างจริงจังว่า “ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณ เมื่อผมเข้ามาในร้าน ผมก็รู้แล้วว่าเป็นคุณ”
คลอเดียยิ่งรู้สึกงงเข้าไปใหญ่ และถามโดยจิตสำนึกว่า “ทำไมเหรอ??!”
เย่เฉินชี้ไปที่รอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอ และพูดเบาๆ ว่า “เพราะรอยแผลเป็นบนใบหน้าของคุณ มันเป็นของปลอมทั้งหมด!”