ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3925 เอาอะไรมาเล่นกับฉัน
เมื่อกัวเหล่ยได้รับข้อความ ก็แอบมองดู แล้วก็แอบพยักหน้าให้กับ อังเดร
ทั้งสองคนนี้ล้วนเป็นพวกเดียวกัน ให้ความสำคัญแก่เงินอย่างหนัก จะปล่อยให้ผู้หญิงสองคนนี้เอาเงินสี่หมื่นดอลลาร์แคนาดาออกไปจากคาสิโนได้ยังไง?
ยิ่งไปกว่านั้น ในนั้นยังมีเงินสองหมื่นดอลลาร์แคนาดาของ อังเดร อีกด้วย อย่างนั้นก็ยิ่งห้ามให้พวกเธอเอากลับไปแม้แต่แดงเดียว
เวลานี้ คนแจกไพ่ก็เดินเข้ามา อังเดรจุดซิการ์ตัวหนึ่ง หลังจากพ่นควันออกมาแล้ว ก็หันไปถามเย่เฉินว่า “คุณเย่ครับ คืนนี้กะจะเล่นอะไรครับ?”
เย่เฉินนึกคิด แล้วพูดว่า “เล่นไพ่เทกซัสแล้วกัน อันนั้นเร็วที่สุด”
อังเดร หัวเราะออกมา แล้วตอบตกลงอย่างง่ายดายว่า “ดี!งั้นก็เล่นไพ่เทกซัสกัน!”
จากนั้นเขาก็พูดกับคนแจกไพ่ที่อยู่ตรงกลางว่า “แจกไพ่เลย!”
กัวเหล่ยรีบพูดกับทั้งสองคนว่า “เจ้านายครับ คุณเย่ครับ พวกคุณเล่นกันให้สนุก ผมออกไปแล้วนะครับ ต้องการอะไรสามารถสั่งมาได้ตลอดเลยนะครับ”
พูดจบ กัวเหล่ยก็หันหลังเดินออกไปจากห้อง ด้านในเหลือเพียงเย่เฉิน อังเดร รวมทั้งคนแจกไพ่และสาวกระต่ายสองคน
ครั้งนี้ เย่เฉินไม่ได้ทำการทำอะไรทางจิตวิทยากับคนแจกไพ่เลย
เขาคิดจะแพ้เงินสองล้านนี้ให้หมดก่อน จากนั้นก็รวดแพ้เรือลำนั้นที่เพิ่งซื้อมาเข้าไปด้วย
ในเกมการพนันที่ไม่ยุติธรรมนี้ ดวงโชคของเย่เฉินและอังเดรนั้นเอียงไปเพียงข้างเดียวจนหมด
ผ่านไปแค่เพียงยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ชิปเกือบสองล้านของเย่เฉินก็แพ้ไปจนเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียวแล้ว
สีหน้าของอังเดรมีความสุขอย่างมาก คืนนี้ เป็นครั้งที่เขาหาเงินได้เร็วมากที่สุดแล้ว ความเร็วอย่างหนึ่งชั่วโมงได้เงินมาหนึ่งล้านดอลลาร์แคนาดา ทำให้เขารู้สึกล่องลอยอย่างเทวดา
ในเวลานี้ ลูกน้องคนหนึ่งของกัวเหล่ยเข้ามาหาเขา พูดเสียงเบาที่ข้างหูเขาว่า “คุณกัวครับ เหยื่อคนอื่นๆของเราตอนนี้อยู่ในมือหมดแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ท่าเรือรอช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ส่งไปแลกเปลี่ยนที่ทะเลหลวงครับ หลี่เสี่ยวเฟินที่ไชน่าทาวน์คนนั้น คืนนี้ยังจะลงมืออยู่มั้ยครับ?”
กัวเหล่ยลูบคาง เริ่มคิดพิจารณาอยู่ในใจ คิดว่า “ในเมื่อวันพรุ่งนี้เจ้าคนแซ่เย่คนนี้ก็จะออกไปจากแคนาดาแล้ว งั้นทางหลี่เสี่ยวเฟินก็ไม่มีความจำเป็นที่จะยืดเยื้ออยู่อีก…”
“อีกอย่าง คืนนี้ลงมือกับหลี่เสี่ยวเฟิน หลังจากได้มาแล้วก็ส่งไปที่ท่าเรือ ก่อนฟ้าสางก็สามารถส่งออกไปแลกเปลี่ยนที่ทะเลหลวงแล้ว ไม่อย่างนั้น ก็ต้องรออาทิตย์หน้าอีก”
คิดถึงนี่ กัวเหล่ยก็ออกคำสั่งออกไปเสียงเบาว่า “คืนนี้ทำตามแผน พวกนายจะต้องทำให้คล่องแคล่วรวดเร็ว หลังจากได้ตัวมาแล้วก็ส่งไปที่ท่าเรือเลย!”
“ครับ!” อีกฝ่ายตอบรับทันที “คุณกัววางใจได้ครับ คืนนี้ทำให้ดีแน่นอนครับ!”
กัวเหล่ยพยักหน้าอย่างพอใจ คิดว่า “คืนนี้เจ้าแซ่เย่แพ้มาก่อนสองล้าน จากนั้นถ้าหากหลี่เสี่ยวเฟินสามารถถูกเลือกไปงานประมูล ไม่แน่อาจจะได้มาอีกล้านสองล้าน ถ้าเป็นเช่นนั้น มาถึงมือฉัน อย่างน้อยก็สามสี่แสน ถึงตอนนั้นฉันเองแม่งก็สามารถเปลี่ยนรถโรลส์รอยซ์มาขับได้บ้างแล้ว!”
เมื่อนึกถึงนี่ บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มตื่นเต้นดีใจขึ้นมา พึมพำกับตัวเองว่า “แม่งว่ากันแล้วคนเราต้องมีโชคลาภถึงจะรวย ม้าต้องมีหญ้ากินถึงจะอ้วน คำพูดนี้แม่งมีหลักเหตุผลจริงๆเลย!ถ้าไม่ทำให้ครอบครัวของคลอเดียตาย ชาติไหนฉันถึงจะได้มีชีวิตมาจนถึงจุดนี้? ถ้าหลังจากนี้อีกหลายปีฉันสามารถเก็บเกี่ยวอำนาจของตัวเองได้บ้าง จากนั้นก็หาโอกาสกำจัดไอ้เลวอังเดรทิ้งซะ!”
ขณะที่กำลังดีใจอยู่ จู่ๆเขาก็ได้ยินอังเดรที่อยู่ด้านในตะโกนเสียงดังว่า “คุณเย่ครับ ชิปของคุณแพ้จนหมดแล้ว แล้วยังจะเอาอะไรมาเล่นกับผมต่ออีกละครับ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ กัวเหล่ยอดพูดไม่ได้ว่า “เหี้ย แพ้เร็วขนาดนี้เชียว?!”
พูดแล้ว เขาก็ผลักประตูเข้าไปในห้อง แล้วสอบถามอย่างห่วงใยว่า “เจ้านายครับ คุณเย่ครับ พวกคุณเป็นอะไรครับ?”