ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3938 ความแข็งแกร่งเหนือจินตนาการ
ว่านพั่วจวินมองไปที่ปืนพกเบเร็ตต้าในมือและส่ายหัวอย่างดูถูก เขาจับกระบอกปืนเอาไว้ด้วยมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งจับที่ลำกล้อง จากนั้นทั้งสองมือก็ออกแรงเล็กน้อยและหักบิดปืนพกที่ทำด้วยเหล็กจนบิดเบี้ยว
อังเดรที่เห็นภาพนี้ ทั้งตัวก็ตะลึงไปจนแทบจะฉี่ราด!
เขาเคยได้ยินมาว่าคนของสำนักว่านหลงล้วนเป็นยอดฝีมือในแต่ละด้าน แต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าร่างกายของว่านพั่วจวินก็จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ แม้กระทั่งปืนพกที่ทำจากเหล็กก็สามารถบิดจนเป็นเกลียวได้อย่างง่ายดาย ความแข็งแกร่งนี้ ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ทั่วไปสามารถมีได้
ในเวลานี้ เขาเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าเช่นกันว่า ชายตรงหน้าเขาคนนี้ ก็คือว่านพั่วจวิน ประมุขของสำนักว่านหลงผู้โด่งดังคนนั้น!
คนอื่นๆ เมื่อเห็นภาพนี้ก็ล้วนตกใจจนตัวสั่น พวกเขารู้ว่าตนไม่มีโอกาสชนะเลยสักนิด เวลาแบบนี้หากยังกล้าเสนอหน้าออกไปก็คงจะต้องตายเท่านั้น
ดังนั้นผู้คนจำนวนมากจึงนั่งยองๆ ลงกับพื้นพร้อมเอามือกุมหัวไว้ แม้แต่คนที่ยังแออัดอยู่บนบันไดก็ยังนั่งยองๆลงเช่นกัน
อังเดรเองก็หน้าซีดด้วยความกลัว เขามองไปที่เย่เฉินและถามตะกุกตะกัก “เย่… คุณเย่… นี่…นี่เกิดอะไรขึ้น…ที่นี่เกิดความเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า…”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆและพูดว่า “ไม่มีความเข้าใจผิดอะไรนี่ นายไม่ได้ชนะได้เรือของฉันไปลำหนึ่งหรือไง? ตอนนั้นฉันจะมอบเรือให้นาย”
แม้ว่าอังเดรจะโง่ แต่ตอนนี้เขาก็รู้ว่าเย่เฉินแกล้งทำเป็นคนอ่อนแอ
แม้แต่ว่านพั่วจวินประมุขของสำนักว่านหลง ยังเรียกตัวเองเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา เกรงว่าความแข็งแกร่งของเขาจะอยู่เหนือเกินจินตนาการของเขาไปแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ยกมือขึ้นทันทีและตบหน้าตัวเอง ก่อนจะเอ่ยอย่างละลักละล่ำ “คุณเย่ ขอโทษจริงๆ…ผมไม่ควรเล่นตุกติกกับคุณบนโต๊ะพนัน…ได้โปรดคุณช่วยเห็นแก่ที่ทุกคนไม่ได้มีเรื่องเข้าใจผิดอะไรอื่น….ขอโอกาสให้ผมได้ชดใช้ความผิด…”
เย่เฉินยิ้มด้วยความสนใจและถามว่า “ไหน ลองว่ามา นายจะชดใช้ให้ฉันได้อย่างไร”
อังเดรรีบพูดทันที “ผมไม่ต้องการเรือลำนี้แล้ว… นอกจากนี้ ผมจะคืนเงินทั้งหมดที่คุณสูญเสียให้กับผมในคาสิโน! นอกจากนี้ ผมยังจะให้เงินชดเชยอีกหนึ่งล้านดอลลาร์แคนาดาแก่คุณ หวังว่าคุณจะไม่คิดแค้นกับผม…”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “อังเดร เคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักว่านหลังมาก่อน อย่างนั้นนายก็ควรรู้ว่า ค่าธรรมเนียมในการปรากฏตัวของทหารสำนักว่านหลงนั้นสูงมาก ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ก็ถึงขนาดที่ประมุขสำนักว่านหลงมาด้วยตัวเอง เงินหนึ่งล้านของนายยังไม่เพียงพอแม้แต่ “1 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ หากนายมีความจริงใจแค่นี้ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องคุยกันแล้ว”
ขาทั้งสองข้างของอังเดรอ่อนยวบ เขาคุกเข่าลงตุบกับพื้นและเอ่ยร้องไห้ “คุณเย่…เมื่อครู่คุณว่านก็พูดแล้ว แก๊งอิตาลีของเราตอนนี้มีแต่แย่ลงไปเรื่อยๆ อีกทั้งทรัพยากรทางการเงินก็ไม่แข็งแกร่งพอ ถ้าคุณให้ผมจ่ายเงิน 100 ล้านแคนาดาจริงๆ ต่อให้คุณฆ่าผมไปแล้ว ผมก็ไม่มีเงินมากขนาดนั้น…”
เย่เฉินโบกมือและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ฉันไม่เอาเงินนายแม้แต่แดงเดียว”
อังเดร给ได้ยินดังนั้นก็โล่งใจเล็กน้อย แต่ในใจของเขาก็ยังคงประหม่าอย่างยิ่งและความอย่างอกสั่นขวัญแขวนว่า “คุณเย่… อย่างนั้นเรื่องวันนี้… ต้องทำอย่างไรคุณถึงจะพอใจ…”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อังเดร ฉันเห็นนายอยู่ที่แวนคูเวอร์ต่อไปก็ได้แต่ทำเรื่องเล็กๆน้อยๆ แก๊งมากมายล้วนรุมล้อมพวกนายจนหืดขึ้นคอแล้ว พวกนายถูกพวกเขากดเอาไว้แบบนี้ ไม่รู้สึกอึดอัดบ้างเลยหรือไง?”
อังเดรไม่เข้าใจเจตนาของเย่เฉิน แต่เขาก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมา: “คุณเย่…เรียนตามตรง…พวกเราค่อนข้างอึดอัดอยู่บ้างจริงๆ ในแวนคูเวอร์ พื้นที่ของเรามีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ รายได้ของเราก็น้อยลงเรื่อยๆ เงินรายสัปดาห์ของลูกน้องก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ ชีวิตอยู่ยากจริงๆ…”