ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3941 สัตว์เนรคุณ
คำพูดนี้กระตุ้นความไม่พอใจของสมาชิกแก๊งเหล่านี้ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์
ทุกคนรู้สึกว่าอังเดรไม่ใช่ผู้นำที่มีคุณสมบัติพอจริงๆและต้องการให้เขาลงจากตำแหน่งทันที
ในเวลานี้ เย่เฉินมองไปที่ฝูงชนและถามว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้กัวเหล่ยเป็นหัวหน้าของพวกนาย พวกนายมีความเห็นยังไง?”
ทุกคนมองหน้ากันครู่หนึ่ง
แม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจกับอังเดร แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับให้กัวเหล่ยซึ่งเป็นชาวหัวเซี่ยขึ้นมาเป็นหัวหน้าของพวกเขาในทันที
ท้ายที่สุดแล้วนี่คือแก๊งอิตาลี ต่อให้ทุกคนจะไม่ได้มาจากซิซิลี แต่อย่างน้อยเลือดของลูกหลานชาวอิตาลีก็หลั่งไหลอยู่ในตัว
ถ้าต่อจากนี้ไปแก๊งอิตาลีนี้นำโดยชาวหัวเซี่ย เรื่องนี้หากแพร่ออกไปเกรงว่าจะมีแต่ถูกหัวเราะเยาะ
อย่างไรก็ตาม ในเวลาแบบนี้ แม้ว่าทุกคนจะมีความคิดเห็นอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมาในที่สาธารณะ นั่นเพราะดูเหมือนว่ากัวเหล่ยจะได้รับการสนับสนุนจากคุณเย่ไปแล้ว
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้แน่ชัดว่าคุณเย่มาจากไหน แม้แต่ว่านพั่วจวินก็ยังออกตัวเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา นี่เพียงพอที่จะเห็นแล้วว่าชายผู้นี้ต้องมีพลังอำนาจอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ กัวเหล่ยก็ยังได้รับการอนุมัติจากเขาไปแล้ว เวลานี้หากมีใครลุกขึ้นมาคัดค้าน จะต้องเป็นการหาเรื่องเดือดร้อนแน่
ดังนั้น ทุกคนจึงไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นโต้แย้ง
เมื่อเห็นดังนั้น เย่เฉินก็มองไปที่อังเดรและพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ : “อังเดร ในเมื่อนายสูญเสียการสนับสนุนจากทุกคนไปแล้ว อย่างนั้นนับจากนี้ไป นายกับแก๊งอิตาลี่ถือว่าไม่มีความสัมพันธ์ใดต่อกันอีก”
อังเดรที่เห็นตัวเองสูญเสียฐานมวลชนไปอย่างรวดเร็ว ในใจย่อมรู้สึกไม่ยินยอมอย่างยิ่ง เขาชี้ไปที่กัวเหล่ยอย่างโมโหและพูดกับเย่เฉินว่า “คุณเย่! คุณอย่าได้ถูกไอ้นี่หลอกเป็นอันขาด! กัวเหล่ยเจ้าสัตว์เนรคุณนี้ชั่วช้าถึงกระดูกมาตั้งนานแล้ว! อีกทั้งหัวหน้าคนเก่าของแก๊งเราก็ถูกเขาฆ่าตาย!!! ถ้าคุณปล่อยเขาเอาไว้ข้างกาย ต่อไปเขาก็จะลงมือกับคุณอย่างโหดเหี้ยมแน่!”
ทันทีที่อังเดรพูดออกมา สมาชิกในองค์กรทั้งหมดก็เกิดความโกลาหล!
มาจนถึงตอนนี้ทุกคนล้วนคิดว่า ตอนนั้นคิดว่าพ่อของคลอเดียเสียชีวิตในกองไฟ แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าเขาจะตายด้วยน้ำมือของกัวเหล่ย!
ในเวลานี้กัวเหล่ยเองก็ลนลานขึ้นมาแล้ว เขารีบเอ่ย “คุณเย่ คุณอย่าไปฟังเขาพูดจาซี้ซั้ว! หัวหน้าคนก่อนของเราเสียชีวิตในกองไฟ นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับผม!”
“แกสิซี้ซั้ว!” อังเดรกัดฟันและด่าว่า “เห็นชัดๆว่าเป็นแกที่วางยาพิษในไวน์ และทำให้迪诺西奥กับภรรยารวมถึงลูกชายสองคนของเขาต้องตาย! จากนั้นนายก็จุดไฟเผาพวกเขาสี่คนให้เป็นเถ้าถ่าน! แถมภรรยาของ迪诺西奥ก็ยังเป็นถึงพี่สาวของนายด้วย! ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเธอรับนายไว้ ป่านนี้นายคงตายบนถนนในแวนคูเวอร์ไปแล้ว นายมันเป็นสัตว์เนรคุณ!”
เสียงตะคอกอย่างกะทันหันของอังเดรทำให้สมาชิกทุกคนในแก๊งอิตาลีตกตะลึง
มีคนจ้องไปที่กัวเหล่ยและโพล่งถามอย่างดุเดือด “ที่ อังเดร พูดเป็นเรื่องจริงหรือ?”
“ไม่ใช่แน่นอน!” น้ำเสียงตะคอกของกัวเหล่ยติดขัดอยู่บ้าง จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่อังเดรแล้วด่าเสียงดังว่า “อังเดร นายก็แค่คิดว่าคุณเย่ปล่อยให้ฉันเป็นหัวหน้าแก๊งแล้วทำให้ผลประโยชน์ของนายหายไปไม่ใช่หรือไง? นายเห็นว่าอำนาจของตัวเองกำลังจะหายไป ก็เลยกุเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายฉัน จัดฉากให้ฉันกลายเป็นคนไร้ยางอายจนคุณเย่ผิดหวังในตัวฉัน แต่คุณเย่ที่รู้ทุกอย่างชัดเจนจะไปโดนนายหลอกได้ยังไง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เฉินก็มีรอยยิ้มแปลก ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก จากนั้นก็มองดูอังเดรและพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “อังเดร ลูกไม้นี้ของนายออกจะชั่วร้ายเกินไปจริงๆ! ในความคิดของฉัน กัวเหล่ยไอ้เวร โอ้ะไม่ใช่ กัวเหล่ยเจ้าหนุ่มนี่ดูท่าทางเป็นคนซื่อสัตย์จริงใจ แถมพูดจายังตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง ซ้ำยังไว้ผมทรงเดียวกับ陈浩南 แค่มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าเขาซื่อสัตย์อย่างมาก แทบจะดูไม่เหมือนคนเนรคุณแบบนั้นเลยสักนิด”