ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3945 ได้โปรดให้โอกาสผมสักครั้ง
เมื่อกัวเหล่ยเห็นอังเดรกัดตัวเองไม่ปล่อย เขาก็อดไม่ได้ที่จะสบถด่า: “ไอ้เฮี้ยเอ๊ย แล้วตอนนั้นแกรับปากฉันทำไม? ไม่ใช่เพราะแกอยากให้เขาตายอยู่แล้วหรือไง?!”
ในเวลานี้ เย่เฉินมองไปที่กัวเหล่ยและพูดอย่างเย็นชาว่า “กัวเหล่ย พวกนายสองคนอย่ามากัดกันตรงนี้ ตอนนี้ฉันแค่อยากรู้ว่าเมื่อกี้นายบอกว่านายถูกบังคับจนทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายแล้วนายถูกบังคับได้ยังไงกันแน่”
กัวเหล่ยพูดได้เพียงแต่เอ่ยอย่างน้ำมูกน้ำตาไหลว่า “คุณเย่ ผมมาอยู่ที่แคนาดาก็เป็นเวลานานแล้ว แต่ว่าพี่เขยของผม ไม่รู้คิดอะไรกันแน่ เขาให้ผมเป็นแค่คนขับรถเท่านั้น อย่างอื่นล้วนไม่ยอมให้ผมแตะต้อง… แม้ว่าพี่สาวจะช่วยอธิบายแทนผม แต่เขาก็ไม่ทำอะไรทั้งนั้น…”
“เห็นได้ชัดว่าผมมีความสามารถพอที่ช่วยเขาจัดการแก๊งให้ดีขึ้นได้ แต่เขากลับไม่ให้โอกาสผม…ผม…ผมมีประกาศจับอยู่ที่ในประเทศ ครึ่งชีวิตที่เหลืออยู่ได้แต่ต้องอยู่ที่แคนาดาเท่านั้น ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ ผมก็จะไม่มีโอกาสได้ปีนขึ้นไปเลย ผมเพิ่งจะอายุแค่ 30 ปี ไม่สามารถเป็นคนธรรมดาแบบนี้ไปได้ตลอดทั้งชีวิต…”
คลอเดียถามอย่างโกรธแค้นทันที “แค่เพราะพ่อของฉันไม่ให้โอกาสนายได้ปีนป่ายขึ้นไป ดังนั้นนายก็เลยฆ่าพ่อแม่และน้องชายทั้งสองคนของฉันงั้นเหรอ?!”
กัวเหล่ยถูกคลอเดียจ้องจนร้อนตัว แต่เขากลับยังกัดฟันพูดต่อไป “ฉันเองก็จนปัญญา! ล้วนเป็นพ่อของเธอบังคับให้ฉันทำ! นับตั้งแต่วันที่ฉันมาที่แคนาดา ฉันก็ยินดีที่จะรับใช้เขา เป็นวัวเป็นม้าให้เขา! ถ้าเขาให้โอกาสฉันได้ปีนป่ายขึ้นไปได้บ้าง ฉันเองก็คงจะไม่ฆ่าเขาหรอก!”
คลอเดียโกรธจนตัวสั่น จากนั้นเธอก็หันไปหาเย่เฉินและเอ่ยสะอื้นไห้ “คุณเย่…ได้โปรดคุณโอกาสฉันได้ฆ่าเขากับมือ ล้างแค้นให้พ่อแม่และน้องชายอีกสองคนที่ตายไปของฉันด้วย…”
เย่เฉินพยักหน้าและเอ่ยปากถามว่า “เธอคิดจะฆ่าเขายังไง?”
คลอเดียมองดูเย่เฉินและพูดอย่างชัดๆทีละคำว่า “คุณเย่… ฉัน…ฉันอยากจะเผาเขาด้วยมือของฉันเอง! ไม่อย่างนั้น นี่คงไม่เพียงพอที่จะล้างแค้นบัญชีเลือดให้พ่อแม่และน้องชายอีกสองคนของฉัน! ”
เย่เฉินถามอย่างจริงจัง “เธอแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้? อย่าหุนหันพลันแล่นเด็ดขาดและปล่อยให้จิตใจมีปีศาจที่ไม่อาจลบล้างออกได้อยู่!”
คลอเดียพูดอย่างหนักแน่น “ฉันแน่ใจ!บัญชีเลือดตรงหน้านี้ ไม่มีปีศาจร้ายอะไรที่ข้ามผ่านไปไม่ได้!”
เย่เฉินเห็นใบหน้าที่แน่วแน่ของเธอ เขาก็พยักหน้าเบา ๆ และกล่าวว่า “ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้ว อย่างนั้นฉันจะทำให้เธอสมปรารถนา”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่ว่านพั่วจวินและกล่าวว่า “พั่วจวิน เลือกสถานที่มาและเตรียมการที่จำเป็น ให้คลอเดียเป็นคนส่งเขาไปเถอะ”
ว่านพั่วจวินกล่าวด้วยความเคารพ “ได้ครับคุณเย่ โกดังสินค้าบนเรือล้วนว่างเปล่า ผมจะเลือกมาสักที่หนึ่งเพื่อส่งเขาจากไป!”
ทันทีที่กัวเหล่ยได้ยินดังนั้น เขาก็ตกใจจนขวัญหนีไปแล้วและโพล่งออกมาว่า: “คุณเย่ได้โปรดไว้ชีวิตผมเถอะคุณเย่! โปรดไว้ชีวิตสุนัขให้ผมไปสักครั้ง ในอนาคตผมยินดีเป็นม้ารับใช้ ภักดีกับคุณแค่คนเดียว!”
เย่เฉินพูดอย่างเรียบเฉย “พอแล้วกัวเหล่ย ไม่ต้องดิ้นรนแล้ว ตอนที่นายฆ่าคนในครอบครัวของคลอเดียสี่คน นายก็ควรคิดได้แล้วว่าย่อมมีวันที่ตาต่อตา ฟันต่อฟัน นายมีตัวคนเดียวลำพัง ใช้ชีวิตนายมาชดใช้ สุดท้ายแล้วนี่ยังถือว่านายได้เปรียบอยู่ดี”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็เอ่ยกับว่านพั่วจวิน “พาเขาไปที่โกดังเถอะ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น กัวเหล่ยก็แยกเขี้ยวตะคอกขึ้นทันที “คนแซ่เย่! แกคิดจะเอาชีวิตฉัน เชื่อหรือไม่ ฉันจะปล่อยให้หลี่เสี่ยวเฟินต้องตายไม่มีที่ฝัง!”
ตอนนี้กัวเหล่ยรู้แล้วว่าเส้นตายของตนกำลังมาถึง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าคนที่เขาส่งออกไปนั้นประสบความสำเร็จในการจับตัวหลี่เสี่ยวเฟินหรือไม่ แต่ตอนนี้เขามีเพียงฟางช่วยชีวิตเส้นนี้เท่านั้น!