ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3949 สัตว์เดียรัจฉานไม่ควรค่าแก่การพูดถึงมนุษยธรรม
เธอในเวลานั้นไม่เคยหวังว่าพี่ชายของหลี่เสี่ยวเฟินจะมาช่วยเธอแก้แค้น นั่นเพราะเธอรู้ดีอย่างยิ่งว่าแก๊งอิตาลีที่กัวเหล่ยอยู่นั้นเป็นงูเจ้าถิ่นในแวนคูเวอร์และมีความแข็งแกร่งของผู้คนเกือบพันอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่ชาวต่างชาติคนหนึ่งจะสามารถต้านทานได้
อย่างไรก็ตาม เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าพี่ชายของเย่เฉินซึ่งหลี่เสี่ยวเฟินมักจะเอ่ยถึงอยู่ทุกวันนั้นจะมีความทรงพลังมากขนาดนี้
ผู้คนนับหมื่นของสำนักว่านหลงถึงกับภักดีต่อเขาคนเดียว!
ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เฉิน เกรงว่าเธอก็คงไม่มีโอกาสได้แก้แค้นกัวเหล่ย!
ในเวลานี้กัวเหล่ยหมดหวังถึงขีดสุด เขาไม่คาดคิดว่า คลอเดียที่มองดูอ่อนแอจะมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเผาตัวเอง
เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่รู้จบ เขาก็ทำได้เพียงอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “คลอเดีย ฉันฆ่าครอบครัวเธอไปสี่คน แต่ฉันก็ไม่ได้ปล่อยให้พวกเขาต้องทรมาร พ่อแม่กับน้องชายสองคนของเธอล้วนไปทั้งที่กำลังนอนหลับอยู่ แม้ว่าเธอจะต้องการ ฆ่าฉัน อย่างน้อยเธอก็ควรมีมนุษยธรรมกับฉันด้วย!”
คลอเดียส่ายหัวและพูดอย่างจริงจังว่า “มนุษยธรรมมีไว้ใช้กับคน สัตว์เดียรัจฉานไม่ควรค่าแก่การพูดถึงมนุษยธรรม!”
ในเวลานี้ เย่เฉินชื่นชมคลอเดีย เด็กหญิงอายุ 18 ปีคนนี้ขึ้นมาอยู่หลายส่วน
หากอยู่บนพื้นฐานของการไม่ทำร้ายผู้อื่นก่อน จิตใจที่โหดเหี้ยมถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างแน่นอน
เป็นเพราะคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่จิตใจไม่โหดเหี้ยมพอ ถึงได้ปล่อยให้คนชั่วมีโอกาสก่ออาชญากร
คลอเดีย ที่อายุ 18 ปี อย่างน้อยๆเธอก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ทิ้งช่องว่างให้ศัตรู
ดังนั้นเขาจึงเปิดปากพูดกับว่านพั่วจวินว่า “พั่วจวิน นำสัตว์เดรัจฉานนี้ออกไปเถอะ จากนั้นก็มัดคนอื่น ๆเข้าด้วยกันและพาพวกเขาทั้งหมดไปที่โกดัง อีกเดี๋ยวพวกเขาจะได้เห็นกัวเหล่ยกลายเป็นขี้เถ้าด้วยตาของพวกเขาเอง”
ว่านพั่วจวินกล่าวอย่างเคารพในทันทีว่า “ได้ครับคุณเย่ ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้!”
พูดจบเขาก็สั่งให้ทหารของสำนักว่านหลงมัดมือสมาชิกทุกคนในแก๊งอิตาลีเอาไว้ด้านหลังโดยใช้สายไนลอนที่แข็งแรงอย่างยิ่ง จากนั้นก็ให้พวกเขาเข้าแถวมุ่งหน้าไปที่โกดัง
โกดังสินค้าบนเรือบรรทุกสินค้าราวกับหลุมลึกที่ทำจากเหล็ก มันไม่เพียงแค่สูงเกือบสิบชั้นเท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่ภายในขนาดใหญ่จนน่าประหลาดใจ
บวกกับเรือทั้งลำที่ยังว่างเปล่า ดังนั้นสถานที่นี้จึงกว้างอย่างยิ่ง
สมาชิกของแก๊งอิตาลีสองสามร้อยคนถูกพามาที่นี่และนั่งยอง ๆ เป็นแถวบนรอบๆโกดังทีละคน
ทหารของสำนักว่านหลงที่มีปืนจริงยืนอยู่ทั้งสองด้านของกลุ่มคนโดยกำลังจ้องมองและเล็งปากกระบอกปืนไปที่พวกเขาอยู่ตลอดเวลา
ไม่นาน ลูกน้องสองคนของว่านพั่วจวินก็พากัวเหล่ยเข้ามา
จากนั้นก็ตามมาด้วยทหารสองคนจากสำนักว่านหลงที่ถือโซ่เหล็กหนาใหญ่และมีน้ำหนักอย่างน้อยๆสามสี่ร้อยกิโลกรัม
โซ่เหล็กขนาดหนาใหญ่นี้เป็นของที่ถูกเปลี่ยนมาจากโซ่สมอเรือบรรทุกสินค้า มันทั้งหนาและหนัก
กัวเหล่ยถูกนำตัวไปที่ใจกลางโกดัง ทหารสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาและใช้โซ่สมอพันตั้งแต่ส่วนเท้าของกัวเหล่ยจนมาถึงครึ่งท่อนล่างของเขาทั้งหมดเอาไว้อย่างหนาแน่น
เมื่อถูกพันด้วยโซ่เหล็กที่มีน้ำหนักสามหรือสี่ร้อยกิโลกรัม กัวเหล่ยก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ในขณะนี้เขาเองก็ตระหนักได้เช่นกันว่าที่นี่อาจเป็นพื้นที่ประหารชีวิตของเขา
ในขณะนี้ กัวเหล่ยตกใจกลัวจนแทบตาย หากไม่ใช่เพราะโซ่พวกนี้มัดเขาเอาไว้แน่น เกรงว่าป่านนี้เขาคงจะทรุดตัวลงกับพื้นไปแล้ว
ในเวลานี้เอง ทหารอีกคนหนึ่งของสำนักว่านหลงก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับถังน้ำมัน
บนเรือบรรทุกไม่มีน้ำมัน เขาได้ลงจากเรือไปและสูบน้ำมันเชื้อเพลิงเกือบสิบลิตรจากถังเชื้อเพลิงบนรถโรลส์รอยซ์
ของ อังเดรมาโดยเฉพาะ
ทหารคนนั้นมาหาเย่เฉินและถามด้วยความเคารพ “คุณเย่ เริ่มตอนนี้เลยไหมครับ?”