ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3963
แม้ว่าตระกูลเฉียวจะพอมีชื่อเสียงบ้างในอเมริกา แต่ยังไงก็เป็นได้แค่พวกชนชั้นกลางตอนบน จะกล้ามามีเรื่องกับสำนักว่านหลงได้ยังไงกัน?
คิดได้ดังนั้น เขาก็เอ่ยปากโดยไม่รู้ตัวว่า “นาย……นายจะเป็นว่านพั่วจวินได้ยังไงกัน……ตระกูลเฉียวไม่เคยทำอะไรให้สำนักว่านหลงด้วยซ้ำ……สำนักว่านหลงจะมาลงมือกับฉันได้ยังไง?”
ว่านพั่วจวินยิ้มเย็น “ทำไมต้องลงมือกับนาย เดี๋ยวนายก็รู้เอง”
พูดเสร็จ เขาก็เดินเข้าไปหิ้วตัวชายหนุ่มเหมือนจับลูกไก่ และพากลับไปยังเรือสินค้า
ณ ตอนนี้ ศพสิบกว่าร่างโผล่พ้นขึ้นมาล่องลอยบนผิวน้ำ ดาดฟ้าเรือบนเรือสำราญเองก็เกลื่อนไปด้วยร่างไร้ลมหายใจนับสิบ
ทหารหลายนายของสำนักว่านหลงเริ่มตรวจค้นเรือสำราญ พวกเขาเดินตระเวนลึกเข้าไปภายในเรือ ก่อนจะพบสรั่งเรืออีกห้าคนที่ซ่อนตัวอยู่ข้างใน
หลังจากยิงทั้งห้าคนทิ้ง พวกเขาไม่พบเด็กผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวอยู่ในเรือสำราญ จึงรีบถอนตัวออกมาจากด้านใน
ท้ายเรือของเรือสำราญยิ่งจมเร็วขึ้น หัวเรือเองก็ยิ่งเชิดสูงขึ้นทำมุมกว้าง
หลังจากที่ทหารทุกนายของสำนักว่านหลงถอนตัวกลับมายังเรือสินค้า เรือสำราญนั่นก็ทำมุมลาดเอียงมากกว่าสี่สิบห้าองศา
ไม่กี่นาทีผ่านไป ส่วนครึ่งท้ายเรือทั้งลำก็จมลงไปในน้ำ ส่วนครึ่งหัวเองก็ตั้งฉากกับผิวน้ำพอดี
บนผิวน้ำ ณ ตอนนี้ เหลือไว้เพียงศพที่ล่องลอย และส่วนประกอบแผ่นเหล็กต่างๆที่กระจัดกระจายจากการระเบิด
เย่เฉินจดจ้องผิวน้ำอย่างละเอียดเพียงชั่วครู่ เมื่อมั่นใจว่าพวกว่านพั่วจวินกำจัดคนทิ้งไปจนหมด ก็จึงจะหันกลับมามองคนสองคนที่กำลังตัวสั่นและถูกเชือกมัดตัว เขาเดินไปยังตรงหน้าของชายหนุ่ม พลันเอ่ยเสียงเย็นว่า “มา มาแนะนำตัวกันหน่อยจะดีกว่า”
ชายหนุ่มมองเย่เฉิน พลางเอ่ยด้วยสีหน้าตื่นกลัวว่า “แก……พวกแกเป็นใครกัน……ฉันไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกับพวกแกเลยด้วยซ้ำ ทำไมพวกแกต้องมาโจมตีฉัน?!”
เย่เฉินเอ่ยเสียงขำ “ไม่มีเรื่องบาดหมางงั้นเหรอ? เด็กผู้หญิงหกคนที่พวกนายจะมารับตัวไปจากแก๊งอิตาลีในวันนี้ หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งที่เป็นน้องสาวฉัน นายยังมีหน้ามาบอกฉันอีกเหรอว่าไม่มีเรื่องบาดหมางน่ะ?”
พูดยังไม่ทันจบ เย่เฉินก็เอาปืนมาจากมือว่านพั่วจวิน ก่อนจะเล็งไปที่ขาขวาของเขาแล้วลั่นไกยิง
เสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับเสียงโอดครวญที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ขาขวาของชายหนุ่มพลันมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเจ็บปวดทรมานว่า “ฉันก็แค่มารับคน เรื่องอื่นฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น……”
“งั้นเหรอ?” เย่เฉินเล็งปืนที่ไปขาซ้ายของเขา ก่อนจะลั่นไกปืนอย่างไม่ลังเล
สิ้นเสียงปืนสนั่น ชายหนุ่มก็กอดขาทั้งสองข้างของตัวเองร้องไห้ดังลั่น เจ็บปวดจนแทบจะสลบตายไปซะอย่างงั้น
เย่เฉินพลันเอ่ยเสียงเย็นว่า “ถ้ายังพูดอะไรที่ฉันไม่อยากฟังอีก ฉันจะยิงตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของแกด้วยแน่!”
อีกฝ่ายผวาจนร้องหนักกว่าเดิม ก่อนจะอ้อนวอนด้วยตัวสั่นสะท้านว่า “ไม่เอา……ไม่เอา…..ผมพูด……ผมยอมพูดทั้งหมดเลย……”
เย่เฉินเอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า “แนะนำตัวก่อน ชื่อแซ่อะไร มาจากไหน”
อีกฝ่ายตอบเสียงสะอื้นว่า “ผม……ผมชื่อเฉียวเฟยหยู่……เป็นคุณชายสามของตระกูลเฉียวแห่งซีแอตเทิล……”
“ตระกูลเฉียว?” เย่เฉินขมวดคิ้ว พลางถามว่านพั่วจวินว่า “พั่วจวิน นายรู้จักตระกูลเฉียวไหม?”
ว่านพั่วจวินครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า “เคยได้ยินมาก่อนครับ ตระกูลเชื้อสายจีน เดิมทีไม่ได้มีอำนาจมากขนาดนั้น ทรัพย์สินทั้งหมดรวมกันก็น่าจะประมาณสองสามหมื่นล้านดอลล่าร์ แต่หลายปีมานี้พัฒนาขึ้นเร็วมาก สินทรพย์รวมก็น่าจะใกล้แตะแสนล้านดอลล่าร์แล้ว ค่อนข้างมีอิทธิพลระดับหนึ่งในชายฝั่งตะวันตก ครับ”