ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3968 ถอนรากถอนโคน
“ได้ เอาตามนั้น” เย่เฉินสั่ง “ระหว่างที่เดินเรือ ต้องย้ำให้พวกทหารคอยคุ้มกันให้ดี ห้ามปล่อยให้ใครหนีไปได้เด็ดขาด!”
ว่านพั่วจวินตอบรับทันทีว่า “คุณเย่ไว้ใจได้ เหล่าทหารของสำนักว่านหลงจะลุล่วงภารกิจให้สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอนครับ!”
จ้าวอิ่นซานพลันถามอย่างประหม่าว่า “คุณ……คุณเย่…..ทำไมต้องพาผมไปที่ซีเรียด้วยครับ?!”
เย่เฉินตอบเสียงเย็นว่า “จะให้ฉันไว้ชีวิตนาย ก็มีแค่สองทางเลือกเท่านั้น ไม่เป็นเหมือนศพที่ลอยอยู่บนทะเล นอนตายที่นี่รอให้คนมาเก็บศพ ก็ตามพวกทหารของสำนักว่านหลงไปที่ซีเรียแต่โดยดี ที่นั่นจะมีทางให้นายมีชีวิตรอดต่อไป นายพิจารณาเอาเองแล้วกันว่าจะเลือกทางไหน”
จ้าวอิ่นซานได้ยินดังนั้น ก็หุบปากอย่างรู้ตัวทันที
คนอื่นๆตายไปหมดแล้ว มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีชีวิตรอด
ในเวลาแบบนี้ เขาถือเป็นคนที่โชคดีที่สุดแล้ว
ยังมีอะไรให้ต้องลังเลอีก?
คิดได้ดังนั้น เขาก็เอ่ยกับเย่เฉินทันทีว่า “คุณเย่……ผม……ผมยอมไปที่ซีเรียครับ……”
เย่เฉินพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยกับว่านพั่วจวินว่า “ให้คนมาพาเขาลงไป แล้วกลับกันเถอะ”
เรือสินค้าเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ ไปยังทางเดียวกันกับตอนมา
ณ บนดาดฟ้าเรือ เย่เฉินยืนรับลมทะเล ภายในใจเองก็ไม่สามารถสงบลงได้เสมือนคลื่นทะเลที่อยู่ใต้เท้า
เรื่องในวันนี้ ที่จริงเขามีทางเลือกสองทางได้ ทางเลือกหนึ่งก็คือพอไว้เพียงเท่านี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ไม่ว่าจะตระกูลเฉียวหรืออะไร ก็น่าจะไม่กล้ามีก่อกรรมทำชั่วในแวนคูเวอร์อีก ส่วนพวกแก็งในแวนคูเวอร์ก็น่าจะตระหนักกันเองหลังพรุ่งนี้เช้า จากนี้ไปก็จะไม่มีใครกล้ามาคิดทำมิดีมิร้ายกับหลี่เสี่ยวเฟินอีก
แต่ถ้าเป็นแบบนั้น แวนคูเวอร์ปลอดภัยแล้วก็จริง ทว่าที่อื่นๆของแวนคูเวอร์ ก็อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
ถ้าเป็นแบบนั้น โศกนาฏกรรมแบบนี้ ก็จะยังคงวนเวียนเกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆที่อยู่ในที่อื่นๆอยู่ดี
อีกทางเลือกหนึ่งของเขา ก็คือขุดตามเบาะแสของตระกูลเฉียวต่อไป ขุดจนถึงรากลึกของมัน จากนั้นก็ค่อยถอนรากถอนโคนมันทิ้งให้หมด
เห็นได้ชัด ว่าทางเลือกที่หนึ่งนั้นสบายที่สุด ทุกอย่างจบลงเพียงเท่านี้ ไม่ต้องเสียแรงเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก
ทว่า เย่เฉินกลับเลือกทางเลือกที่สองโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย!
เรื่องบางเรื่อง ถ้าไม่เห็นก็ว่าไป แต่ถ้าเห็นแล้วยังจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มโนธรรมภายในจิตใจก็จะถูกประณาม
คิดได้ดังนั้น เขาก็เรียกว่านพั่วจวินมา พลางเอ่ยคำสั่งว่า “พั่วจวิน หลังรุ่งขึ้นฉันจะกลับอเมริกาก่อน นายสั่งให้ทหารหญิงไม่กี่คนอยู่ที่นี่ปกป้องเสี่ยวเฟินและป้าหลี่ อ้อ แล้วก็คลอเดียด้วย”
ว่านพั่วจวินรีบเอ่ยทันทีว่า “ครับคุณเย่ ผมแพลนไว้ว่าจะให้กำลังคนครึ่งหนึ่งพาคนพวกนี้ไปที่ซีเรีย แล้วเหลือทหารหญิงไม่กี่คนไว้ที่แคนาดา ส่วนที่เหลือผมจะพาไปที่ซีแอตเทิลสืบเรื่องตระกูลเฉียว แบบนี้คุณเย่คิดว่ายังไงบ้างครับ?”
เย่เฉินพยักหน้า พลันเอ่ยว่า “เรื่องตระกูลเฉียวค่อนข้างจะผิดแปลกไปจากปกติ แม้ว่าพวกเขาจะมีความผิดจนเกินเยียวยา แต่ที่จริงก็เป็นแค่ห่วงโซ่อุปทานที่ผิดบาป ก็เหมือนแม่น้ำสายหนึ่ง ที่คอยเป็นแหล่งน้ำให้กับพวกเดรัจฉานตอนล่างเท่านั้น ฉะนั้นเราจะไม่ใช่แค่ต้องทำความเข้าใจถึงขนาดและทิศทางของแม่น้ำสายนี้ แต่ต้องสืบหาด้วยว่ายังมีพวกเดรัจฉานอีกเท่าไหร่ที่ใช้แหล่งน้ำจากที่นี่ อำนาจและพลังที่ซ่อนไว้ในเบื้องหลัง บางทีอาจจะใหญ่กว่าพลังของเราทุกคนที่รวมกันเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นนายต้องระวังและรอบคอบให้ดี เน้นสืบเป็นหลัก อย่าทำอะไรวู่วาม”
ว่านพั่วจวินตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ครับคุณเย่ ผมเข้าใจแล้วครับ!”
พูดเสร็จ ว่านพั่วจวินก็มีท่าทีลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้าถามเย่เฉินว่า “คุณเย่ ผม……ผมมีเรื่องหนึ่งอยากถามคุณเย่ครับ……”
เย่เฉินเหลือบมองเขา แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “นายอยากถามว่าฉันทำให้เรือของเฉียวเฟยหยู่ล่มได้ยังไงสินะ?”