ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4013 ความคิดของกู้ชิวอี๋
สาวๆ นักเต้นโห่ร้อง และรีบวิ่งไปหาผู้หญิงอายุ 20 ต้นๆ ข้างๆ เธอ ผู้หญิงคนนี้ชื่อเสี่ยวหลาน เป็นผู้ช่วยของกู้ชิวอี๋
หลังจากจัดการทุกคนเสร็จ กู้ชิวอี๋ก็มาที่เฉินตัวตัว และถามด้วยรอยยิ้มว่า:”ตัวตัว มีธุระกับฉันเหรอ?”
เฉินตัวตัวพยักหน้า และพูดว่า:”รองประธานหลวนจากนิวยอร์ก โทรมาบอกว่าคุณชายของตระกูลเฟ่ยในสหรัฐอเมริกา วางแผนที่จะร่วมมือกับหอการค้าจีนในนิวยอร์ก เพื่อจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อการกุศล และเปิดตัวโครงการกองทุนเพื่อการกุศล และได้ยินมาว่าหอการค้ามีความร่วมมือกับเธอพอดี จึงอยากชวนไปเธอไปเข้าร่วมงานเลี้ยงการกุศลนั้น เวลาอาหารค่ำคือเย็นวันที่ 11 ฉันเช็คแผนการเดินทางแล้ว ไม่มีงานอะไรในคืนวันที่ 11″
กู้ชิวอี๋คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า:”ถึงแม้ว่าจะไม่มีงานในคืนวันที่ 11 ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีเวลา บางทีฉันอยากไปหาพี่เย่เฉิน หรือพี่เย่เฉินมาหาฉันล่ะ?”
พูดไป เธอก็พูดกับเฉินตัวตัวว่า:”ตัวตัว เธอช่วยฉันปฏิเสธหน่อยนะ ก็บอกว่าฉันมีไม่มีเวลา ดังนั้นจึงไม่ไปงานเลี้ยง แต่เนื่องจากเป็นงานเลี้ยงการกุศล ฉันจะบริจาคเงินแทนแน่นอน เธอบริจาคหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐให้ฉันด้วยนะ”
เฉินตัวตัวอดไม่ได้ที่จะถามว่า:”ชิวอี๋ เธอไม่อยากรู้ว่ากองทุนการกุศลนี้มีไว้เพื่ออะไรเหรอ?
เมื่อได้ยินคำถามของเฉินตัวตัว กู้ชิวอี๋ก็ถามด้วยความสงสัย:”ทำไม? กองทุนการกุศลนี้มีอะไรพิเศษงั้นหรือ?”
“มีแน่นอน”เฉินตัวตัวพูดด้วยรอยยิ้ม:”กองทุนนี้น่ะ จะช่วยเหลือเด็กกำพร้าชาวจีนในอเมริกาเหนือ เพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของพวกเขาโดยเฉพาะ ในขณะเดียวกัน ก็จะส่งพวกเขาเรียน จนกว่าพวกเขาจะเข้าสู่สังคม และมีรายได้ที่มั่นคง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของกู้ชิวอี๋ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอพยักหน้ารัวๆ และพึมพำอย่างจริงจัง:”ที่แท้ก็ช่วยเด็กกำพร้าเฉพาะ……นั่นมีความหมายจริงๆ…… เธอช่วยดูเวลาในคืนนั้นให้ฉันด้วย ถ้าสะดวกฉันจะไปเข้าร่วมสักหน่อย”
เฉินตัวตัวเบ้ปาก และจงใจหยอกล้อเธอ:”ดูเธอสิ เพียงเพราะพี่เย่เฉินของเธอเป็นเด็กกำพร้า ดังนั้นการทำบุญช่วยเหลือเด็กกำพร้านั้นจึงสูงมากในสายตาเธอ หรือว่ากองทุนการกุศลที่ช่วยเหลือคนชรายากไร้ นั้นสำคัญน้อยกว่าสำหรับเธองั้นหรือ?”
กู้ชิวอี๋หน้าแดงและรีบพูดว่า:”ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย เธออย่าพูดบ้าๆ นะ!”
เฉินตัวตัวร้องฮึ:”ฉันไม่ได้พูดบ้าๆนะ นั่นคือสิ่งที่เธอคิด”
กู้ชิวอี๋พูดด้วยความลนลาน:”โอ้ย ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริงๆ……ฉันก็แค่……ฉันก็แค่…..”
เฉินตัวตัวถามเธอด้วยรอยยิ้มว่า:”ตะกุกตะกักทำไม เธอพูดมาสิ เธอก็แค่อะไร?”
กู้ชิวอี๋อ้ำอึ้งอยู่นาน แล้วตัดสินใจ กลอกตาใส่เฉินตัวตัว และโพล่งออกมาว่า:”เธอพูดถูก ฉันเห็นการทำกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้านั้นสำคัญกว่า นี่คือการรักเขาก็ต้องรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา ทำไม? ไม่ได้รึไง? เมื่อก่อนพี่เย่เฉินอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามาหลายปี ลำบากมามาก คิดแล้วก็เจ็บปวดใจ ฉันไม่มีโอกาสย้อนอดีตไปชดเชยวัยเด็กของเขา แต่ก็ชดเชยวัยเด็กของเด็กกำพร้าคนอื่น ๆ ได้ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งตอบแทนสำหรับตัวฉัน ไอ้ผู้หญิงเลว บังคับฉันให้ยอมรับไม่ใช่เหรอ? ฉันยอมรับก็ได้”
เฉินตัวตัวหัวเราะคิกคักกับท่าทางที่จริงจังของเธอ และรีบพูดว่า:”โอเคโอเค เธอยอมรับก็พอแล้ว แม้ว่าฉันจะไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกของเธอได้ แต่ก็เข้าใจได้ในระดับหนึ่ง นี่ก็คือสิ่งที่ฉันบอกให้เธอเข้าใจวัตถุประสงค์ของกองทุนการกุศลนี้ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ”
เฉินตัวตัวพูดอีกว่า:”แต่ว่าชิวอี เธอจะโง่แบบนี้ตลอดไม่ได้นะ เอาแต่ทุ่มเทเงียบๆ เธอตกลงว่าจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำการกุศลนี้ ไม่เพียงแต่เพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าเท่านั้น แต่เพื่อให้เย่เฉินรู้ว่า เธอทำทั้งหมดนี้เพราะชอบเขา และเพราะการรักเขาก็ต้องรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา!”