ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4034 เสาหลัก
กู้ชิวอี้ที่อยู่ข้างๆก็รีบพูด: “พี่เย่เฉิน ก่อนหน้านี้ฉันและพ่อฉันก็มาหาคุณที่นครนิวยอร์ก ตอนนั้นลุงโจงเป็นคนต้อนรับพวกเรา ก็ที่ร้านอาหารร้านนี้แหละ!”
พูดจบ เธอมองไปที่เฉินจ้างโจง ยิ้มอย่างร่างเริงและพูดว่า: “ลุงโจง ฉันจำครั้งแรกที่มาหาคุณที่นี่กับพ่อได้ เพิ่งจะ 8 ขวบ ครั้งก่อนที่มาก็อายุ 20 ปี ตอนนี้อายุ 26 ปีแล้ว คุณยังอยู่ที่นี่ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด”
เฉินจ้างโจงยิ้ม: “คนอย่างผม หลังจากที่ชินกับอะไรแล้วก็เปลี่ยนยากแล้วล่ะ จริงๆพูดตรงๆก็คือขี้เกียจ”
กู้ชิวอี๋มองเย่เฉิน อธิบายว่า: “พี่เย่เฉิน ก่อนหน้านี้ฉันกับพ่อมาหาคุณที่สหรัฐอเมริกา ที่ของลุงโจงที่นี่เป็นที่พักที่แรก อ๋อ จริงสิ ลุงโจงทำห่านย่าง รสชาติอร่อยมาก!”
เฉินจ้างโจงไม่มีเวลามาถ่อมตน อดไม่ได้ที่จะถามว่า: “คุณกู้ ท่านหาคุณชายเย่เจอได้อย่างไร? เจอที่ไหนเหรอ?”
เย่เฉินเอ่ยปากพูด: “ลุงเฉิน ที่จริงผมก็อยู่จินหลิงมาตลอดแหละ”
เฉินจ้างโจวได้ยินจนตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก พูดอุทานว่า: “จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ตอนแรกเหมือนว่าหลายคนรวมทั้งคุณกู้ไปจินหลิงเพื่อตามหาท่าน แต่ทุกคนต่างก็ไม่พบอะไร……”
ได้ยินคำถามนี้ เย่เฉินก็พูดเรื่องที่ถังซื่อไห่จัดการให้ตัวเองอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าออกมาแล้ว
เฉินจ้างโจวได้ฟัง อดไม่ได้ที่จะอุทาน: “ถังซื่อไห่ ผมเคยเจอหน้าไม่กี่ครั้ง ตอนนั้นรู้สึกว่าคนนี้ภายนอกดูใจร้อนแต่จริงๆเป็นคนที่ละเอียด มีคุณธรรมสูงส่งเทียมฟ้า แต่คิดไม่ถึงว่า กลยุทธ์ของเขาจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ เป็นคนที่มีทักษะสูงมาก ซึ่งใช้กลยุทธ์ได้เก่งมากจริงๆ
กู้ชิวอี๋ในตอนนี้ยิ้มและพูดว่า: “ลุงโจง พวกเรากินไปด้วยคุยไปด้วยได้ไหม ฉันหิวแล้ว”
เฉินจ้างโจงรีบพูด: “ได้ๆๆ ผมผิดเอง คุณกู้ คุณชายเย่ ท่านทั้งสองเชิญนั่งก่อน ผมจะไปเตรียมอาหารที่หลังครัว
พูดจบ เขาก็มองเย่เฉิน พูดอย่างละอายใจว่า: “คุณชายเย่ ร้านอาหารเล็กๆของผมมีเมนูไม่เยอะ เดี๋ยวผมจะเสิร์ฟมาให้ชิม ไม่ต้องให้ท่านสั่งอาหารแล้ว!”
เย่เฉินกล่าวด้วยความเกรงใจอย่างยิ่งว่า: “ขอบคุณลุงเฉิน ลำบากท่านแล้ว”
“เป็นสิ่งที่ควรทำ เป็นสิ่งที่ควรทำ! ท่านทั้งสองเชิญนั่งก่อน เดี๋ยวผมมา! ”
เฉินจ้างโจงพูดจบ หันหลังและวิ่งลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว
กู้ชิวอี๋มองเย่เฉินด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ถามเขาด้วยเสียงต่ำว่า: “พี่เย่เฉิน คุณงงนิดหน่อยใช่ไหม?”
เย่เฉินยิ้ม พยักหน้าและกล่าว: “นิดหน่อย……ฉันคิดว่าคุณแค่เรียกฉันมาทานข้าวสักมื้อ ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ……”
กู้ชิวอี๋ยิ้มอย่างลึกลับ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจกากระเป๋ากางเกง ส่งให้ตรงหน้าเย่เฉิน และพูดว่า: “พี่เย่เฉิน ก่อนหน้านี้พ่อฉันฝากให้ฉัน เมื่อคุณมาแล้ว ให้คุณได้ฟังประโยคท่อนนี้”
เย่เฉินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เงยหน้ามอง ก็เห็นหน้าจอในมือถือ ซึ่งเป็นบทสนทนาในวีแชทระหว่างกู้ชิวอี๋ และพ่อของเธอกู้เย้นจง
ด้านล่างสุด มีข้อความเสียง 1 ข้อความ เย่เฉินรับมือถือมาและกดปุ่มเล่นเสียง กู้ชิวอี๋รีบเตือนว่า: “พี่เย่เฉินฟังด้วยโหมดรับเสียงของตัวเครื่อง!”
เย่เฉินพยักหน้า หลังจากกดปุ่มเล่นเสียง ทันใดนั้นก็เอาโทรศัพท์แนบหู
ฟังจากที่รับเสียงของตัวเครื่อง เสียงของกู้เย้นจงแผ่ซ่านมา เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม:”เฉินเอ๋อ ตอนนั้นพ่อของคุณเคยบอกฉันว่า ได้รับความช่วยเหลือจากเฉินจ้างโจงจะต้องสำเร็จแน่นอน เสาหลักเช่นนี้ คุณห้ามปล่อยไปเด็ดขาด! ไม่ว่ายังไง ยังไงก็ต้องโน้มน้าวให้เขาออกมาทำงานให้ได้ คอยช่วยเหลือคุณอีกแรง!”
ได้ข้อความเสียงของกู้เย้นจงจนจบ ในใจเย่เฉินก็ตกตะลึงมากๆ
ถ้าเป็นอย่างที่กู้เย้นจงพูดจริงๆ ประกอบกับที่พ่อของเขายอมรับเฉินจ้างโจงในตอนนั้น พอที่จะมองออกว่าเฉินจ้างโจงจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งเหนือใคร
แต่ในใจของเย่เฉินก็รู้ดี ว่าข้อจำกัดในการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้ของตนเองนั้น ก็คือขาดแคลนผู้มีความสามารถ
สำนักว่านหลงแม้ว่าจะแข็งแกร่ง แต่สุดท้ายก็เป็นเรื่องที่ให้คนอื่นรับรู้ไม่ได้ และสิ่งที่สำนักว่านหลงสามารถจัดการได้ก็คือปัญหาทางด้านของด้านกองกำลังอาวุธ