ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4037 อดีตของเฉินจ้างโจง
“แต่ ต่อมาเขาก็บอกว่า มองในส่วนของเงิน สามารถอภัยให้ผมครั้งหนึ่ง ให้ผมกลับไปพักฟื้น และให้เวลาผมคิดเกี่ยวกับมันให้ดีๆ”
“ถ้าผมพักฟื้นจนหายดีแล้ว ก็ช่วยเขาทำเงินต่อ เขาก็ทำเหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดเคย มิฉะนั้น เขาก็จะเอาชีวิตผมไป”
พูดจนถึงตรงนี้ เฉินจ้างโจงยิ้ม และพูดว่า: “แต่ว่า ไม่ว่าจะฝันยังไงเขาก็คิดไม่ถึง ตอนที่ผมตัดสินใจบอกเขาทุกอย่าง ก็ได้เหลือทางหนีทีไล่ไว้แล้ว ผมขอให้แฟนคนแรกของผมออกจากวิลล่าพร้อมกับหนังสือเดินทางล่วงหน้า ไปรอผมที่โรงพยาบาลใกล้ๆบริษัทของแซ่หลิว”
เย่เฉินถามอย่างประหลาดใจว่า: “ท่านเดาออกว่าเขาจะทุบท่านจนเข้าโรงพยาบาลสินะ?”
“กลับว่าไม่ใช่เลย” เฉินจ้างโจงยิ้มกล่าว: “ถ้าผมรู้ว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมก็พาแฟนคนแรกของผมแอบหนีไปแล้ว จะได้ไม่โดนทุบตี”
พูดจบ เฉินจ้างโจงก็พูดอีกว่า: “ที่จริง ตอนนั้นผมคิดว่า เรื่องมันจะมีผลลัพธ์เพียง 3 แบบเท่านั้น”
“แบบที่หนึ่ง แซ่หลิวเห็นว่าผมช่วยเขาทำเงินได้เยอะมากมาย ในอนาคตยังมีค่าในการหลอกใช้ บวกกับผู้หญิงข้างกายเขามีมากมาย และจะไม่สนใจหนึ่งในนั้นมากนัก ดังนั้นก็จะให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการ”
“แบบที่สอง หลังจากที่แซ่หลิวรู้แล้วก็โกรธอย่างมาก และฆ่าผมตาย”
“แบบที่สาม ก็คือแม้ว่าแซ่หลิวจะโกรธมาก แต่เห็นจากคุณค่าที่ยังหลอกใช้ผมได้อยู่บ้างสั่งสอนบทเรียนผมสักบท แล้วให้ผมล้มเลิกความคิดซะ และทำงานให้เขาต่อ”
พูดถึงตรงนี้ เฉินจ้างโจงก็พูดต่อ: “ส่วนทำไมผมถึงให้แฟนคนแรกของผมไปที่โรงพยาบาลล่วงหน้า หลักๆแล้วก็พิจารณาว่า ถ้าหากว่าสถานการณ์เป็นแบบที่ 1 จะต้องมีความสุขกันทุกฝ่ายอยู่แล้ว ผมสามารถไปหาเธอได้ที่โรงพยาบาลเลย บอกข่าวดีเธอกับปากตัวเอง และเพราะว่าอยู่กันใกล้มาก ก็สามารถไปเจอเธอได้อย่างรวดเร็ว”
“ถ้าหากสถานการณ์เป็นแบบที่ 2 งั้นเธอที่รอผมอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาลก็คงไม่ได้เจอผมแน่ ถ้าหากรอแล้วไม่ได้เจอผม งั้นก็แสดงว่าแซ่หลิวก็ไม่ปล่อยให้เธอมีชีวิตที่สุขสบาย แต่อย่างน้อยเธอก็ได้หนีจากเงื้อมมือของปิศาจได้ สามารถไปแจ้งความกับตำรวจได้ ให้ฝั่งตำรวจหาตำแหน่งที่อยู่ของผม ในขณะเดียวกันก็ยืมใช้กำลังตำรวจ ปกป้องความปลอดภัยของเธอได้”
“ถ้าหากสถานการณ์เป็นแบบที่สาม งั้นเธอก็จะเห็นผมถูกทุบตีเกือบตายและเข้าโรงพยาบาล นี่ก็พิสูจน์ว่าแซ่หลิวไม่อยากให้เราสมหวังดั่งที่เราต้องการ งั้นพวกเราก็ไม่มีความคิดอื่นแล้ว ก็ทำแบบนี้ไปเลย ก็ไปเจอกันที่โรงพยาบาลเลยทันที จากนั้นก็หาโอกาสหลบหนี”
เย่เฉินได้ยินจนถึงตรงนี้ ในใจก็เลื่อมใสศรัทธาเฉินจ้างโจงอย่างหาที่เปรียบมิได้
คนทั่วไปจะทำอะไร ก็ทำทีละขั้นทีละตอน คนฉลาดจะทำอะไร ก็คิดล่วงหน้าไป 3 ขั้นแล้ว คนที่ฉลาดมากๆ ก็คิดล่วงหน้าไป 10 ขั้น
เฉินจ้างโจงไม่รู้ล่วงหน้าว่าผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้จะเป็นอย่างไร แต่กลับจัดการสถานการณ์นี้ไว้อย่างละเอียดรอบคอบที่สุดแล้ว
อีกอย่าง นี่ยังแสดงถึงความรักที่มีต่อแฟนคนแรกของเขาอีกด้วย ความเป็นไปได้ทั้งสามแบบนี้ มีแบบหนึ่งที่เขาจะต้องตาย อีกแบบหนึ่งที่เขาอาจจะบาดเจ็บ แต่เขาให้ความเป็นไปได้ทั้งสามแบบกับแฟนคนแรกของเขา ต่างก็มีการรับมือไว้ทุกสถานการณ์ โดยพื้นฐานแล้วจะไม่มีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สามารถเห็นได้ว่า แนวคิดของการจัดการเรื่องของคนๆนี้ มันแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมากจริงๆ และแข็งแกร่งกว่าตัวเองไม่น้อยเลย
อย่างน้อย เรื่องเดียวกันถ้าหากเอามาไว้ที่ตัวเอง ตัวเองไม่สามารถทำให้รอบคอบและระมัดระวังอย่างเขาได้แน่
ในเวลานี้ เฉินจ้างโจงกล่าวด้วยรอยยิ้มเหมือนเด็กบนใบหน้าของเขาว่า: “ตอนนั้นทั้งตัวผมได้รับบาดเจ็บจนถูกส่งเข้าโรงพยาบาล ใครจะไปคิดถึงล่ะ หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ผมก็หนีออกจากโรงพยาบาลอย่างเงียบๆ พาแฟนคนแรกหนีไปแล้ว”
พูดจบ เฉินจ้างโจงก็กล่าวว่า: “แผนของผมในตอนนั้น เป็นเที่ยวบินแรกสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วมองหาโอกาสในการลักลอบจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังสหรัฐอเมริกา แต่คิดไม่ถึง แซ่หลิวกลับมาที่วิลล่า แล้วไม่เจอแฟนคนแรกของผม หลังจากพบว่าแฟนคนแรกของผมพาหนังสือเดินทางไปแล้ว ก็ออกคำบัญชาสังหาร รางวัล 30 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในการฆ่าผม……”
“ตอนนั้นพวกเราก็เพิ่งมาถึงสนามบิน ยังไม่ทันลงจากรถแท็กซี่ ก็เห็นกู๋หว่าไจ๋มองไปรอบๆทุกที่อยู่ด้านนอกสนามบิน ผมเห็นว่าสถานการณ์การมันไม่ถูกต้อง ทำได้เพียงล้มเลิกแผนเดิมซะ”