ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4046 ตรวจสอบ
ในเวลานี้ เฉินจ้างโจงกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำจริงจังมาก: “คุณชายเย่ ลุงรู้สึกมีรายละเอียดเล็กน้อยมากมาย มักจะไม่สอดคล้องกัน”
จากนั้น เขาได้พูด ความสงสัยในใจของตัวเองออกมาทั้งหมด
หลังจากที่เย่เฉินฟังจบ สีหน้าท่าทางก็ค่อยๆเยือกเย็น
เขารู้สึกว่า การวิเคราะห์ของเฉินจ้างโจงนั้นสมเหตุสมผลมาก
หนึ่งเรื่องสองเรื่องผิดปกติ บางทีจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่หลายสิ่งหลายอย่างผิดปกติ นี่ก็ยากที่จะอธิบายด้วยความบังเอิญ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาถามเฉินจ้างโจงด้วยเสียงต่ำ: “ลุงโจง ลุงคิดว่า เฟ่ยฮ่าวหยางวางแผนชั่วต่อหนานหนานเหรอ?”
“อือ”เฉินจ้างโจงพยักหน้า และพูดออกว่า: “เฟ่ยฮ่าวหยางเป็นคุณชายตระกูลเฟ่ย ฐานะของเขา สูงที่สุดในบรรดาทุกคนภายนอก ดังนั้นเขาไม่มีทางช่วยคนอื่นเล่นละคร ดังนั้นเขาเป็นตัวละครหลักที่แท้จริงอย่างแน่นอน”
จากนั้น เฉินจ้างโจงก็พูดอีกว่า: “ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยฐานะของคุณชายตระกูลเฟ่ย ในเมื่อตัดสินใจทำเรื่องแบบนี้ ก็จะต้องวางแผนรอบคอบเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีหลงเหลือความเสี่ยงอะไรอย่างแน่นอน พวกเขาจัดให้พวกเราอยู่ในห้องที่ไม่สามารถล่าถอยได้ เจนตาก็เห็นได้ชัดมากแล้ว ความอาฆาตมีอยู่ทุกที่เลยนะคุณชายเย่!”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ในความคิดของเขา จู่ๆก็นึกถึงเฉียวเฟยหยุนที่หายตัวไปจนถึงวันนี้
ดังนั้น เลยเกิดคำถามหนึ่งขึ้นในใจของเขาว่า: เฉียวเฟยหยุนคนนั้นเกี่ยวข้องกับเฟ่ยฮ่าวหยางหรือเปล่า?
หรือว่า เฟ่ยฮ่าวหยาง จะเป็นตระกูลร่ำรวยสำคัญของเฉียวเฟยหยุนหรือเปล่า?
ยังไงซะ ถ้าหากเฟ่ยฮ่าวหยางต้องการลงมือกับกู้ชิวอี๋ในวันนี้จริงๆ นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าเขาเหมือนกับเฉียวเฟยหยุน ล้วนเป็นสัตว์เดรัจฉานที่หุ้มหนังมนุษย์
ยิ่งไปกว่านั้น เฉียวเฟยหยุนก็หายตัวไปหลังจากที่เพิ่งมาถึงนครนิวยอร์ก ด้วยความสามารถของสำนักว่านหลง ก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบที่อยู่ของเฉียวเฟยหยุนได้ นี่ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เฉียวเฟยหยุนต้องบากหน้าไปขออาศัยกับคนที่อำนาจแข็งแกร่งมาก เฟ่ยฮ่าวหยางก็มีความแข็งแกร่งนี้พอดี
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา และส่งข้อความหาว่านพั่วจวิน เนื้อหาข้อความคือ: ตรวจสอบเฉียวเฟยหยุนและเฟ่ยฮ่าวหยางของตระกูลเฟ่ย ดูสิว่าที่ผ่านมาทั้งสองคนนี้มีการรวมตัวอะไรกันบ้าง อีกอย่างตรวจสอบว่าเฟ่ยฮ่าวหยางกับเฟ่ยเจี้ยนจงเป็นอะไรกัน
แต่ทุกอย่างที่เขียนลงในไฟล์ สำนักว่านหลงตรวจสอบขึ้นมาก็ง่ายดายมาก
แม้ว่าข้อมูลจำนวนมากของเฟ่ยฮ่าวหยางจะได้รับการเข้ารหัสอย่างแน่นหนามาก แต่สำนักว่านหลงมีผู้ให้ข้อมูลของตนเองในแผนกข่าวกรองของสหรัฐอเมริกา และแฮ็กเกอร์ที่ตัวเองฝึกฝนมาก็สามารถที่จะถอดรหัสข้อมูลที่เป็นความลับได้โดยตรง ดังนั้นพวกเขาตรวจสอบไฟล์ของเฉียวเฟยหยุนกับเฟ่ยฮ่าวหยางได้อย่างรวดเร็วมาก ต่อจากนั้นทำการเปรียบเทียบไฟล์ทั้งสองฉบับ ก็ค้นพบในทันที
ในขณะที่เย่เฉินกำลังรอคำตอบ กู้ชิวอี๋มองไปที่ทั้งสองคนด้วยความประหลาดใจ และถามว่า: “ลุงโจง พี่เย่เฉิน พวกคุณสองคนกระซิบกระซาบคุยอะไรกัน? ลับๆล่อๆ …….”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า: “ฉันอยากรู้อยากเห็นเรื่องเกี่ยวกับคุณชายเฟ่ยมาก สอบถามลุงโจงหน่อย”
กู้ชิวอี๋ถามอย่างไม่เข้าใจว่า: “พี่เย่เฉิน พี่อยากรู้อยากเห็นเรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเหรอ?”
เย่เฉินกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็ได้รับข้อความ และบนข้อความแสดงผลว่า: “คุณเย่ พ่อของเฟ่ยฮ่าวหยางชื่อเฟ่ยเสวปิง คุณปู่คือเฟ่ยซานไห่ เฟ่ยเจี้ยนจงเป็นปู่ทวดของเขา อย่างอื่นกำลังตรวจสอบอยู่”
เย่เฉินอ่านถึงตรงนี้ ก็รู้ว่าที่แท้เฟ่ยฮ่าวหยางคนนี้ เป็นหลานชายของเฟ่ยเข่อซิน
ดังนั้น เขาจึงพูดกับกู้ชิวอี๋ว่า: “จะว่าไปก็บังเอิญ ฉันรู้จักอาของเฟ่ยฮ่าวหยางคนนี้ด้วย”
“หา?”กู้ชิวอี๋ถามด้วยความประหลาดใจ: “พี่รู้จักกับอาของเขาได้ยังไง?”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เรื่องมันยาว”
ในเวลานี้ เย่เฉินก็ได้รับข้อความอีกข้อความหนึ่ง: “คุณเย่ เฉียวเฟยหยุนและเฟ่ยฮ่าวหยาง เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองคนไปมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างน้อยก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์เป็นศิษย์เก่า”
“เชี่ย!”เย่เฉินสาปแช่งในก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อได้ยินข้อมูลนี้ หัวใจของเขาก็กระจ่างแจ้งขึ้นในทันที และอดคิดในใจไม่ได้ว่า: “ตามหาเฉียวเฟยหยุนไปทุกที่ไม่เจอสักที ที่แท้เขามานครนิวยอร์กเพื่อบากหน้าไปขออาศัยกับเฟ่ยฮ่าวหยางนี่เอง!”