ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4071 ล่อเหยื่อเข้ากรง
นับตั้งแต่เฉินฝูเดินเข้ามา หลี่ญ่าหลินก็เริ่มเดาจากท่าทางกังวลใจของเขาว่า เขาไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
เพราะไม่ว่ายังไงสไตล์การทำงานของนินจาเหล่านั้นก็โหดเหี้ยมเกินไป ดังนั้นพวกเขาจะร่วมมือกับคนธรรมดาอย่างเขาที่มีคุณสมบัติทางจิตใจที่แย่มากแบบนี้ได้อย่างไร
ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว ก็คือพวกเขาบังคับเฉินฝู
ดังนั้น เขาไม่สงสัยในคำพูดของเฉินฝูเลย
ดังนั้น เขาจึงพูดกับเฉินฝูว่า “เฉินฝู ถ้าคุณอยากจะช่วยภรรยาและลูกๆ ของคุณ ก็ต้องบอกทุกอย่างที่คุณรู้มาให้ทั้งหมด รวมทั้งเวลา และสถานที่ที่คนเหล่านี้เคยพบคุณ เคยพูดคุยอะไร และทิ้งข้อมูลอะไรไว้บ้าง!”
ในความเห็นของหลี่ญ่าหลิน ในตอนนี้เขาต้องรีบค้นหาข้อมูลวิดีโอของนินจาญี่ปุ่นพวกนั้นโดยด่วน เขาจะต้องคุ้นเคยด้านลักษณะใบหน้าของนินจาเหล่านี้ก่อน จึงจะสามารถจับพวกมันได้ และเวลาของตัวเองก็แน่นมาก ถ้าไม่เร่งความเร็วเข้า นินจาเหล่านี้ก็อาจจะลักลอบออกจากเมืองไปแล้ว!
ในมุมมองของหลี่ญ่าหลิน กล้องวงจรปิดที่ถูกคนลงมือทำลาย มีเฉพาะปริเวรภายในโรงแรมเท่านั้น แต่การติดต่อของเฉินฝูกับนินจาญี่ปุ่นที่อยู่นอกโรงแรม จะต้องเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดในเขตเทศบาลทั้งหมดไปได้
ดังนั้น ตราบใดที่เฉินฝูสามารถให้เวลาและสถานที่ในการติดต่อกับนินจาภายนอกโรงแรมได้ หลี่ญ่าหลินก็จะสามารถค้นพบข้อมูลวิดีโอของคนเหล่านี้ได้
ในตอนที่หลี่ญ่าหลินกำลังระดมกำลังตำรวจ และค้นหาข้อมูลวิดีโอตามคำสารภาพของเฉินฝู เย่เฉินได้ออกจากโรงแรมแมนชั่นกับกู้ชิวหยู่ เฉินตัวตัวและเฉินจ้างโจงไปแล้ว
เมื่อพิจารณาว่างานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อการกุศลพังไปแล้ว และอาหารเย็นก็ไม่มีแล้ว เย่เฉินก็ออกข้อเสนอให้ทุกคนไปหาที่ทานอาหารเย็นก่อน
เขาเชื่อว่า เฉินจ้างโจงต้องมีอะไรจะพูดกับตัวเองอย่างแน่นอน
อีกอย่าง เขาก็อยากจะฟังคำแนะนำของเฉินจ้างโจงในอนาคต
และเฉินจ้างโจง มีคำถามมากมายที่เขาอยากจะถามเย่เฉินจริงๆ อีกอย่างเย่เฉินก็ขอให้นินจาญี่ปุ่นเหล่านั้นลักพาตัวคุณชายของตระกูลเฟ่ยในวันนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก เขากลัวว่าเย่เฉินจะจัดการได้ไม่ถูกวิธี และจะก่อให้เกิดความเดือดร้อน
ดังนั้น เขาจึงออกความคิดเห็นว่า “หรือว่าจะไปที่บ้านผมกันเถอะ แม้ว่าอาหารการกินจะเรียบง่ายไปหน่อย แต่ก็ดีในด้านที่สามารถพูดคุยได้อย่างสะดวกมากขึ้น”
เย่เฉินไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่กู้ชิวอี๋ กู้ชิวอี๋กลับยิ้ม และกล่าวว่า “ห่านย่างของบ้านลุงโจงอร่อยที่สุด ฉันยังกินไม่พอเลย!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย และโบกมือว่า “ไป ไปไชน่าทาวน์!”
ทั้งสี่คนถูกคุ้มกันโดยบอดี้การ์ดตลอดทาง ไปยังไชน่าทาวน์ ในเวลานี้ร้านค้าของเฉินจ้างโจงได้ปิดแล้ว และพนักงานก็ปิดร้านแล้วจากไปหมดแล้ว ดังนั้นเฉินจ้างโจงจึงเชิญเย่เฉินและคนอื่นๆ ไปที่ชั้นสอง ในขณะที่ตัวเองไปเตรียมการมื้ออาหาร
ในเวลานี้เย่เฉินก็ได้รับการตอบรับจากว่านพั่วจวิน คาซูโอะ ฮันโซและคนอื่นๆ รวมถึงเฟ่ยฮ่าวหยางของตระกูลเฟ่ย ต่างก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาไปหมดแล้ว
เย่เฉินสั่งให้เขาต้องควบคุมทั้งเก้าคนไว้ให้อยู่ และไม่ปล่อยให้พวกเขาติดต่อกับโลกภายนอก
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้กำชับว่านพั่วจวินว่า โอนคนจำนวนมากขึ้นไปยังทรัพย์สินใกล้กับตระกูลเฟ่ย เพราะเขาเชื่อว่า เฉียวเฟยหยุนกำลังซ่อนตัวอยู่ในตระกูลเฟ่ยในตอนนี้
เพียงแต่ว่าตระกูลเฟ่ยนั้นใหญ่เกินไป และการป้องกันก็เข้มงวด สำหรับสำนักว่านหลงนั้น โจมตีเข้าไปได้ง่ายมาก แต่ถ้าอยากจะแอบเข้าไปหาตัวเฉียวเฟยหยุนออกมา มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เมื่อมีเสียงรบกวนมากเกินไป สำนักว่านหลงก็จะเปิดเผยร่องรอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
ในครั้งนี้ เย่เฉินไม่อยากจะเปิดเผยสำนักว่านหลงโดยตรง หากสำนักว่านหลงถูกเปิดเผยในตอนนี้ เมื่อตอนที่เขามาต่อสู้กับตระกูลรอธส์ไชลด์ที่สหรัฐอเมริกาในอนาคต ก็จะมีไพ่คิงน้อยลงไปอีกหนึ่งใบที่จะสามารถจัดการกับฝ่ายตรงข้ามอย่างตั้งหลักไม่ทัน
ทางออกที่ดีที่สุด ก็คือสร้างเครือข่ายอยู่รอบๆ ตระกูลเฟ่ย และรอให้เฉียวเฟยหยุนไอ้สารเลวคนนั้นมุดเข้ามาเอง!
……….