ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4073 แผนการและลูกเล่น
เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “เฟ่ยเจี้ยนจง และหลานสาวของเขาเฟ่ยเข่อซิน ผมได้จัดการไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้ว เดิมทีผมก็แค่อยากจะตอบแทนบุญคุณเฟ่ยเข่อซินสักหน่อย และช่วยชีวิตเขาและหลานสาวของเขาเท่านั้น ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะช่วยให้พวกเขากลับมาตระกูลเฟ่ย แต่ในเมื่อตระกูลเฟ่ยมีไอ้สารเลวอย่างเฟ่ยห้าวหยางเกิดมา และมุ่งเป้ามาที่หนานหนานและเสี่ยวเฟิน ดังนั้นข้าจึงต้องพิจราณากับเรื่องนี้ใหม่”
หลังจากพูดแล้ว เย่เฉินก็พูดอีกครั้งว่า “ผมว่าเฟ่ยเสวปินคนนั้นก็ไม่ใช่คนดีอะไร คนคนนี้ไม่อาจมีความสามารถอะไรมากมาย แต่อารมณ์ของเขานั้นไม่ใช่ย่อยจริงๆ ผมมีลางสังหรณ์ว่าเขาจะไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่นอน และบางทีเขาอาจจะมาก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ถ้าเขาไม่รู้เป็นตายร้ายดี งั้นผมก็จะจัดการเขาด้วย แล้วปล่อยให้คุณท่านเฟ่ยไปคุยกับเฟ่ยซานไห่สักหน่อย”
เฉินจ้างโจงพยักหน้าและกล่าวว่า “เฟ่ยเสวปินเองก็เป็นคนโง่ และตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้เขาไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากนัก แต่เฟ่ยซานไห่คนนี้ยังคงมีทักษะบางอย่างอยู่บ้าง มิฉะนั้นเขาคงจะไม่ถือโอกาสแย่งชิงตำแหน่งของคุณท่านเฟ่ยอย่างแน่นอน”
หลังพูดแล้ว เฉินจ้างโจงก็กล่าวอีกครั้งว่า “ถ้าสามารถทำให้คุณท่านเฟ่ยลับมาจัดการกับเขาได้ มันอาจจะมีผลลัพธ์ถึงเล็กสู้ใหญ่ได้จริงๆ คุณท่านเฟ่ยอยู่ที่หัวเซี่ย และก็ถูกลูกชายของตัวเองแย่งอำนาจไป ในหัวใจของเขาต้องอยากจะเอาคืนอย่างแน่นอน ด้วยสไตล์การทำงานของเขา เขาจะไม่มีวันทิ้งทางถอยหลังให้เฟ่ยซานไห่อย่างแน่นอน”
เย่เฉินส่ายหัวและพูดว่า “ถ้าเขาเพียงแค่ไม่ทิ้งทางออกให้เฟ่ยซานไห่ มันคงยังไม่เพียงพออย่างแน่นอน ถ้าผมปล่อยให้เขากลับมา เขาก็จะต้องทำอย่างไม่ทิ้งทางออกให้กับทั้งครอบครัวของเฟ่ยซานไห่อย่างแน่นอน!”
ในวินาทีสุดท้าย เฉินจ้างโจงยังคงรู้สึกว่า เย่เฉินปล่อยให้นินจาเหล่านั้นลักพาตัวเฟ่ยห้าวหยาง ซึ่งจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนกับการเดินบนน้ำแข็งบางๆ แต่วินาทีนี้ เขาถึงตระหนักว่า อยู่ในสายตาของเย่เฉิน ตระกูลเฟ่ยนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย
ในทางตรงกันข้าม ในสายตาของเขา ตระกูลเฟ่ยก็เป็นเหมือนอาหารจานเดียว
จะเริ่มขยับตะเกียบเมื่อไหร่ มันก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเย่เฉินทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเฟ่ยเสวปิน หรือจะเป็นเฟ่ยซานไห่ อยู่ต่อหน้าของเย่เฉิน ไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ เลย
ในอีกด้านหนึ่ง เย่เฉินมีสำนักว่านหลงอยู่ในมือ ถ้าจะต่อสู้กับตระกูลเฟ่ยแบบต่อหน้าต่อตาขึ้นมา ตระกูลเฟ่ยก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย
ในทางกลับกัน เย่เฉินยังมีเฟ่ยเจี้ยนจงจักรพรรดิแห่งตระกูลอยู่ในมือของเขาอีกด้วย
ถ้าเย่เฉินส่งเฟ่ยเจี้ยนจงกลับไปที่สหรัฐอเมริกาจริงๆ แล้วใช้ความแข็งแกร่งของสำนักว่านหลงเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเฟ่ยเจี้ยนจง งั้นตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเฟ่ยของเฟ่ยซานไห่นั้น ก็คงจะต้องยอมถอยออกมาอีกครั้งแล้ว
มิฉะนั้น เมื่อทุกคนในสหรัฐอเมริการู้ว่า เฟ่ยซานไห่ฉวยโอกาสยึดอำนาจของบิดาผู้ให้กำเนิด และก็สั่งให้บิดาผู้ให้กำเนิดห้ามกลับสหรัฐอเมริกาจนวันตาย และเขาก็จะกลายเป็นคนที่ถูกเกลียดชังของมวลชนทั้งหมด
แม้กระทั่ง จะมีโอกาสสูงที่จะถูกสอบสวนของศาล
ดังนั้น ไม่ว่าเฟ่ยซานไห่ หรือเฟ่ยเสวปินจะกระโดดเก่งได้มากแค่ไหน ตราบใดที่เย่เฉินเล่นไพ่คิงแผ่นนี้ออกมา สำหรับพ่อลูกพวกเขาสองคนแล้ว มันก็คือไม้ตายทั้งนั้น
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แม้ว่าเย่เฉินจะฆ่าเฟ่ยห้าวหยาง ต่อหน้าพอลูกทั้งสอง พ่อลูกพวกเขาก็คงไม่กล้าส่งเสียงเสียงดังโวยวายหรอก
ดังนั้น เฉินจ้าวโจงถามเย่เฉินว่า “คุณชายเย่ ท่านจะทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้?”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชาว่า “รอให้เฉียวเฟยหยุนคนนั้นปรากฏตัว ก็นำเขาและเฟ่ยห้าวหยางมารวมกัน แล้วฆ่าคนเลวสองคนสองนี้ทิ้ง และช่วยกำจัดขยะสังคม!”
เฉินจ้างโจงถามอีกครั้งว่า “แล้วคุณวางแผนที่จะเปิดเผยการกระทำที่น่ารังเกียจของพวกเขาออกมาหรือไม่?”
“แน่นอน!” เย่เฉินกล่าวว่า “เหตุผลที่ผมไม่ฆ่าเฟ่ยห้าวหยางโดยตรง ก็คือจะขุดทุกสิ่งที่เขาและเฉียวเฟยหยุนทำลงไปออกมาให้หมด จากนั้นก็เปิดเผยทั้งหมด ถ้าสามารถจับกุมตัวพวกเขาได้ทั้งหมดก็จะยิ่งดี”
เฉินจ้างโจงพยักหน้า ทันใดนั้นก็คิดแผนอยู่ในใจขึ้นมา และกล่าวว่า “คุณชายเย่ หากท่านอยากจะทำให้เรื่องนี้ใหญ่โตขึ้น ผมวิธีที่ดีกว่สกัน”
เย่เฉินรู้สึกดีใจทันใด และถามอย่างนอบน้อมว่า “ลุงจง คุณมีวิธีที่ดีทำอะไรบ้าง?”