ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4075 ตัดหู
ไม่มีใครคาดคิดว่า ทุกคนในนครนิวยอร์กกำลังตามหาเฟ่ยห้าวหยาง ในเวลานี้กำลังนอนอยู่ในข้างบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านของตัวเองไม่ถึงห้าร้อยเมตร
คนของว่านพั่วจวิน นำนินจาทั้งแปดและเฟ่ยห้าวหยาง ไปที่ห้องใต้ดินของวิลล่าโดยตรง
ในเวลาเดียวกัน อุปกรณ์การถ่ายทำภาพยนตร์จำนวนมากที่ว่านพั่วจวินเช่ามาก็ถูกส่งมาถึงสถานที่ในชั่วข้ามคืนแล้วเช่นกัน
และว่านพั่วจวินยังขอให้ลูกน้องของเขาย้ายแสงไฟ และอุปกรณ์การถ่าทำที่เช่ามาทั้งหมดไปที่ลานบ้าน และแม้กระทั่งยังประกอบมันขึ้นมาในโถงทางเข้าและลานบ้าน วิลล่าทั้งหลังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผู้คนที่ไม่รู้จริงๆ ก็จะคิดว่ามีกองถ่ายทำกำลังถ่ายทำอยู่ที่นี่
ในเวลานี้ ว่านพั่วจวินได้โทรหาเย่เฉิน และรายงานความคืบหน้าให้กับเย่เฉิน และขอคำสั่งในขั้นตอนต่อไป
เย่เฉินยอมรับข้อเสนอของเฉินจ้างโจง และส่งต่อคำสั่งถัดไปให้ว่านพั่วจวิน
ว่านพั่วจวินวางสายโทรศัพท์ และก็ก้าวเข้าไปในห้องใต้ดินทันทีที่นินจาทั้งแปดคนและเฟ่ยห้าวหยางถูกกักตัวไว้
ในขณะนี้ นินจาทั้งแปดนั่งลงอยู่ที่มุมห้องเหมือนไก่โต้งที่พ่ายแพ้ ในขณะที่เฟ่ยห้าวหยางถูกทิ้งให้นอนหมดสติอยู่บนพื้น
ทันทีที่ว่านพั่วจวินเพิ่งเดินลงมา นินจาทั้งแปดก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และมองดูเขาด้วยความเคารพ
ว่านพั่วจวินไม่ได้สนใจพวกเขา แต่ชี้ไปที่เฟ่ยห้าวหยางที่อยู่บนพื้น และพูดกับลูกน้องของตัวเองว่า “ปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา!”
ลูกน้องของเขานำอ่างน้ำเย็นมา และราดใส่บนตัวของเฟ่ยห้าวหยางในทันที
เฟ่ยห้าวหยางที่อยู่ในอาการโคม่า จู่ๆ ก็สะดุ้งและลุกขึ้นนั่งกรีดร้องขึ้นมา
เมื่อการมองเห็นของเขาค่อยๆ ฟื้นตัว เขาก็ตื่นตระหนกและถามเสียงดังว่า “พวกคุณอยากจะทำอะไร! รู้ว่าผมเป็นใครหรือไม่”
ว่านพั่วจวินเหลือบมองมาที่เขา หยิบมีดสั้นออกมาจากเอวของเขา จากนั้นจึงขว้างมีดไปที่ตรงหน้าคาซูโอะ ฮันโซ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ไป ไปตัดหูเขาทั้งสองข้างลงมาซะ!”
เมื่อคาซูโอะ ฮันโซได้ยินคำพูดนี้ ทั้งคนก็สั่นสะท้านด้วยความตกใจ
เขาไม่คาดคิดจริงๆ ว่า ทันทีที่ว่านพั่วจวินเปิดปากพูด ก็จะให้ตัวเองตัดหูทั้งสองข้างของเฟ่ยห้าวหยางเลยงั้นเหรอ
เฟ่ยห้าวหยางก็ตกใจมากเช่นกัน
เขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ของตระกูลเฟ่ย และไม่มีใครกล้ายั่วยุเขาอยู่ในนครนิวยอร์กอย่างแน่นอน แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาจะดุร้ายขนาดนี้ แค่เอ่ยปากพูดก็จะตัดหูของตัวเอง และยังจะตัดทั้งสองข้างอีกด้วย!
เฟ่ยห้าวหยางที่ตื่นตระหนกตะโกนด้วยเสียงดังว่า “คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร? ผมคือเฟ่ยห้าวหยางคุณชายของตระกูลเฟ่ยเลยทีเดียว! ตระกูลเฟ่ยแข็งแกร่งแค่ไหน คงไม่จำเป็นต้องให้ผมบอกพวกคุณให้มากกว่านี้แล้วมั้ง! ถ้าพวกคุณกล้าที่จะแตะต้องตัวผม คุณพ่อและคุณปู่ของผมจะฆ่าพวกคุณอย่างแน่นอน!”
ว่านพั่วจวินมองไปที่เฟ่ยห้าวหยาง และพูดอย่างเบาๆ ว่า “ผมจะบอกคุณนะ ผมชื่อว่านพั่วจวิน และเป็นประมุขของสำนักว่านหลง ไม่ต้องพูดถึงหลานชายของตระกูลเฟ่ยอย่างคุณ แม้ว่าจะเป็นพ่อของคุณ คุณปู่ของคุณก็ตาม ตราบใดที่คุณเย่สั่งเพียงคำเดียว ผมก็จะฆ่าอย่างไม่เว้น! แม้ว่าจะฆ่าทั้งครอบครัวของตระกูลเฟ่ยโดยไม่ทิ้งสุนัขไว้แม้แต่ตัวเดียว ข้าว่านพั่วจวินก็จะไม่กะพริบตาเลย!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฟ่ยห้าวหยางก็รู้สึกว่าโลกหมุนไปครู่หนึ่ง
“ว่านพั่วจวิน?! คุณ…….คุณก็คือว่านพั่วจวินงั้นเหรอ?!” เฟ่ยห้าวหยางตกใจมาก และพูดโพล่งออกมาว่า “คุณว่าน……..ตระกูลเฟ่ยของเราไม่มีความแค้นอะไรกับคุณเลย และแม้กระทั่งผมก็ยังชื่นชมคุณมาโดยตลอด แล้วท่านจะมาโจมตีผมทำไม!”
หลังจากพูดแล้ว เขาก็ถามอย่างประหม่าว่า “แล้วคุณเย่คือใคร? ผมไม่เคยทำให้ไอ้แซ่เย่อะไรขุ่นเคืองมาก่อนเลย!”
ว่านพั่วจวินมองดูเวลา แล้วเยาะเย้ยว่า “เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่คาซูโอะ ฮันโซอีกครั้ง ชี้ไปที่กริชบนพื้น แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “คาซูโอะ ฮันโซ คำสั่งคือคุณชายเย่เป็นคนออก ผมก็แค่ส่งต่อแทนคุณเย่เท่านั้น คุณเย่กำลังจะมาเร็วๆ นี้ คุณควรทำเรื่องให้เสร็จ ก่อนที่เขาจะมาถึงจะดีกว่า มิฉะนั้น เมื่อถึงเวลานั้นผมก็จะตัดหูของคุณด้วย!”
เมื่อคาซูโอะ ฮันโซได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดด้วยความตกใจ และรีบพูดว่า “ผมจะไปตัด! ผมจะไปตัดเดี๋ยวนี้เลย!”
คาซูโอะ ฮันโซตอนนี้รู้ดีอย่างชัดเจนมากว่า ไม่มีใครสามารถยั่วยุเย่เฉินได้