ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4091 กับดักของแมรี่ ซู
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเฉียวเฟยหยุนไม่มีความผิดปกติใดๆอีกทั้งยังเอ่ยพูดอย่างอบอุ่นอย่างยิ่ง “เสี่ยวหยวน เธอช่วยจับตาดูให้ฉันสักหน่อย ถ้าทางนั้นมีอะไรเกิดขึ้น ให้บอกฉันทันที”
พูดไป เขาก็ถอดนาฬิกา Richard Miller มูลค่ากว่าสามล้านเหรียญออกจากข้อมือของตนแล้วยื่นให้สาวใช้ จากนั้นก็เอ่ยอย่างจริงจังว่า “เสี่ยวหยวน ครั้งนี้ฉันมานิวยอร์กอย่างรีบร้อนเลยไม่มีอะไรจะให้เธอ เธอรับนาฬิกาเรือนนี้ไปเถอะ ถือซะว่าเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากฉัน”
สาวใช้คนนี้ทำงานในตระกูลเฟ่ยมาห้าปีแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีเงินมาก แต่เธอก็รู้จักอะไรมากมาย เธอรู้ว่านาฬิกา Richard Miller แบรนด์นี้นั้นมีราคาแพงมาก แค่เพียงทรงธรรมดาทั่วไปก็เริ่มต้นหลายแสนดอลลาร์แล้ว ในขณะที่นาฬิกาของเฉียวเฟยหยุนเป็นรุ่นที่มีจำนวนจำกัดและมีราคาขายอย่างน้อยๆสองสามล้านดอลลาร์
เมื่อเห็นว่าเฉียวเฟยหยุนกำลังจะมอบนาฬิกาเรือนนี้ให้กับตัวเอง ในใจของเธอก็ทั้งดีใจและประหลาดใจ เธอคิดจะรับมันขึ้นมา แต่ก็พูดอย่างประหม่าว่า “คุณชายเฉียว… นี่… นี่มันแพงเกินไป… ฉันรับไม่ได้…”
เฉียวเฟยหยุนพูดอย่างจริงจัง “เสี่ยวหยวน เมื่อกี้เธอก็บอกแล้ว ตอนนี้เธอเป็นคนของฉันแล้ว คนอย่างฉันเฉียวเฟยหยุนจะมอบของผู้หญิงของตนเองทั้งที จะมาจู้จี้จุกจิกได้ยังไงกัน?”
ทันทีที่สาวใช้ได้ยินดังนั้น ในใจก็รู้สึกหวานล้ำอย่างยิ่ง เธอเอ่ยพูดอย่างมีความสุข “ถ้าอย่างนั้น…ก็ขอบคุณคุณชายเฉียวแล้ว…”
เฉียวเฟยหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกับฉันขนาดนี้”
จากนั้นเฉียวเฟยหยุนก็พูดอีกครั้ง “รอให้เรื่องนี้จบลงและคุณชายเฟ่ยกลับมาอย่างปลอดภัย ฉันจะบอกกับเขาว่าต่อจากนี้ไปเธอไม่ต้องทำงานที่ตระกูลเฟ่ยแล้วและกลับไปที่ซีแอตเทิลกับฉันเถอะ”
สาวใช้ถามอย่างเซอร์ไพรส์ว่า “คุณชายเฉียว… คุณพูดจริงเหรอคะ!”
“แน่นอน!” เฉียวเฟยหยุนสัมผัสใบหน้าของเธอและพูดอย่างอบอุ่นว่า “คุณเป็นผู้หญิงที่ฉันเฉียวเฟยหยุนชอบ ฉันไม่สามารถปล่อยให้ผู้หญิงที่ฉันชอบมาเป็นคนรับใช้ในบ้านของคนอื่นได้ เธอถูกกำหนดให้เป็นคุณนายน้อย ให้คนอื่นรับใช้และดูแลเธอ จะปล่อยให้เธอไปดูแลคนอื่นได้อย่างไร?”
คำพูดที่แสดงความรักและเอาแต่ใจของเฉียวเฟยหยุนทำให้สาวใช้ตกอยู่ในภวังค์ในทันที ราวกับว่าคนทั้งคนกำลังตกลงไปในทะเลของแมรี่ ซู
เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นซินเดอเรลล่าที่มีความสุขที่สุดในโลก และในที่สุดก็เจ้าชายขี่ม้าขาวที่เธอรอคอยก็มาถึงแล้ว
ตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งในละครโทรทัศน์และงานวรรณกรรมหลายเรื่อง ความฝันที่ได้ตระกูลร่ำรวยมาเลี้ยงดู ตอนนี้ได้ถูกเฉียวเฟยหยุน กระตุ้นมันขึ้นมาอย่างไม่สิ้นสุดและนี่ก็ทำให้เธอตื่นเต้นมาก
เธอสะอื้นไห้ขึ้นมาแล้วพูดว่า “เฉียว…คุณชายเฉียว… คุณ… คุณไม่รังเกียจฉันจริงๆหรือคะ?”
“ไม่รังเกียจ! ไม่อย่างแน่นอน!” เฉียวเฟยหยุนจับมือเธอ ด้านหนึ่งลูบไล้มันอีกด้านก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้เธอไม่ต้องคิดมาก รอให้คุณชายเฟ่ยกลับมาแล้วฉันจะคุยกับเขาเอง ฉันแน่ใจว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ”
“ตกลง…” สาวใช้พยักหน้ารัวๆ หัวใจของเธอก็ตื่นเต้นจนไม่สามารถจะเต้นไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว
ในเวลานี้ เฉียวเฟยหยุนดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้กะทันหันและรีบพูดขึ้นว่า “อ้อใช่เสี่ยวหยวน ตอนนี้ฉันเป็นห่วงคุณชายเฟ่ยอย่างมาก หากเขาเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา เกรงว่านี่จะส่งผลต่อความสุขของเราทั้งคู่ด้วย ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ ถ้าเธอมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับตระกูลเฟ่ยล่ะก็ เธอจะต้องช่วยฉันจับตามองสักหน่อย พวกเขามีพูดถึงนินจาญี่ปุ่นหรือเปล่า ถ้าเกิดว่ามี เธอจะต้องตั้งใจฟังให้ดีและพยายามจำสิ่งที่พวกเขาพูดให้ได้ หากไม่มีโอกาสดีๆ เธอก็ต้องทุ่มเทเต็มที่ พยายามหาทางสร้างโอกาสนั้นขึ้นมา เข้าใจไหม”
ตอนนี้เรื่องที่เฉียวเฟยหยุนกังวล ยกเว้นเรื่องชายลึกลับที่ฆ่าพี่ชายของเขาแล้วก็มีเรื่องนินจาญี่ปุ่นพวกนั้น
ถ้าเรื่องนี้เป็นพวกนินจาญี่ปุ่นที่ทำจริงๆ อย่างนั้นตนเองก็จบเห่แล้ว
นั่นเพราะนินจาพวกนั้นเป็นตนเองที่จ้างมา หากตระกูลเฟ่ยสืบรู้เข้า ตนเองก็จะไม่มีทางแก้ตัวอะไรได้อีก
หรือว่าจะให้ถึงตอนนั้นตนค่อยไปบอกเฟ่ยซานไห่ว่าเหตุผลที่จ้างนินจาเหล่านั้นก็เพื่อช่วยหลานชายของเขาลักพาตัวดาราหญิงยอดนิยม เพื่อที่หลานชายจะเลิกเสพติดการฆ่าดาราหญิงงั้นหรือ?
หากเขาพูดไปอย่างนั้นจริงๆ ไม่ว่าเฟ่ยซานไห่จะเชื่อหรือไม่ก็ล้วนต้องกำจัดตนเองแน่!