ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4092 ปากหวานก้นเปรี้ยว
ขณะนี้สมองของสาวใช้เริ่มจินตนาการถึงงานแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของเธอกับเฉียวเฟยหยุน และเมื่อได้ยินที่เฉียวเฟยหยุนพูดอย่างนั้น เธอก็ตระหนักในทันทีว่าความสุขตลอดชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับเฟ่ยฮ่าวหยางเพียงคนเดียว ดังนั้นเธอจึงพูดโดยไม่ต้องคิดว่า “คุณชายเฉียววางใจได้ ฉันจะจับตามองอย่างแน่นอน!”
เฉียวเฟยหยุนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “จำไว้ว่าเรื่องที่ฉันพูดกับเธอพวกนี้ เธออย่าบอกใครเป็นอันขาด รวมถึงคนใกล้ชิดของเธอด้วย”
สาวใช้อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณชายเฉียว ขอฉันบอกพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องของพวกเราได้ไหมคะ? พวกเขาเป็นห่วงเรื่องชีวิตฉันเป็นอย่างมากมาตลอด ถ้าพวกเขารู้ว่าฉันคบกับคุณ พวกเขาจะต้องมีความสุขมาก…”
“ไม่ได้เป็นอันขาด!” เฉียวเฟยหยุนกล่าวอย่างเร่งรีบ “หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปล่วงหน้า คนอื่นจะต้องรู้เรื่องแน่!”
จากนั้นเขาก็รีบเอ่ยปลอบ: “เสี่ยวหยวน เธอจะต้องจำไว้ว่าฉันต้องการพาเธอไปที่ซีแอตเทิลและอาศัยอยู่กับฉัน แต่เธอเองก็รู้ว่าตอนนี้เธอยังมีสถานะเป็นคนรับใช้ ถ้าเรื่องแพร่กระจายออกไป พวกเราทั้งคู่จะถูกกดดันอย่างมาก”
“ดังนั้น แผนของฉันคือ ถึงเวลานั้นค่อยขอความช่วยเหลือจากคุณชายเฟ่ย ให้เขาลบประวัติและไฟล์ทั้งหมดเรื่องการเป็นคนรับใช้ของเธอในตระกูลเฟ่ยทิ้ง จากนั้นฉันจะให้สถานะใหม่กับเธอและให้เธอรับปริญญาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง จากนั้นก็จัดการให้เธอเป็นคุณหนูใหญ่จากครอบครัวนักวิชาการ!”
“แบบนี้ จากนี้เธอก็จะสามารถตามฉันเข้าออกในวงสังคมชนชั้นสูงได้ จะไม่มีใครกล้ามองเธอด้วยสายตาดูถูก!”
“อย่างไรก็ตาม หากเรื่องนี้รั่วไหลออกไปล่วงหน้า ถึงเวลานั้นหากมีคนเปิดเผยตัวตนของเธอในฐานะคนรับใช้ออกมา เกรงว่าพ่อแม่ของฉันจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องของเราทั้งคู่ และเธอจะต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลไปด้วยเช่นกัน”
“ดังนั้น ก่อนที่คุณชายเฟ่ยจะกลับมาอย่างปลอดภัย เรื่องนี้จะต้องถูกเก็บเป็นความลับและต้องไม่ให้ใครรู้นอกจากเธอและฉันเท่านั้น เข้าใจไหม?”
ในเวลานี้ สาวใช้ถูกคำพูดหวานเชื่อมของเฉียวเฟยหยุนทำให้ไร้สติไปนานแล้ว
เมื่อได้ยินเฉียวเฟยหยุนบอกว่าจะทำการจัดการภูมิหลังของเธอขึ้นมาใหม่ ทันใดนั้นความรู้สึกต่ำต้อยและอ่อนไหวที่มีมาตลอดในใจก็ผุดขึ้นมาทันที
สิ่งนี้ทำให้เธอแทบจะร้องไห้อย่างซาบซึ้งต่อเฉียวเฟยหยุน และรู้สึกว่าคนนี้เป็นเทพบุตรที่จะพาตัวเองออกจากขุมนรกไปสู่สวรรค์
ดังนั้นเธอจึงไม่สงสัยในสิ่งที่เฉียวเฟยหยุนพูดและรับปากเขาไปด้วยความกตัญญู
เฉียวเฟยหยุนจึงโล่งใจได้ชั่วคราว
เขารู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดอย่างมาก และการอยู่ที่ตระกูลเฟ่ยก็ปลอดภัยเพียงชั่วคราวเท่านั้นแต่เขาก็ยังคงตกอยู่ในอันตรายรอบได้เช่นเดิม ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมการล่วงหน้า
ดังนั้นเขาจึงกอดสาวใช้และเอ่ยพูดจาหว่านล้อมต่อไป “ยังมีอีกอย่างเสี่ยวหยวน ถ้าเธอได้ยินคนในตระกูลเฟ่ยพูดถึงชื่อของฉัน เธอจะต้องมาบอกฉันทันที เดี๋ยวฉันจะทิ้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือของฉันเอาไว้ให้”
ในเวลานี้สาวใช้ถูกล้างสมองไปโดยสมบูรณ์ เธอพยักหน้าอย่างไม่ลังเลและพูดอย่างหนักแน่นว่า “คุณชายเฉียวไม่ต้องกังวล ฉันจะจับตามองเป็นพิเศษ”
“ตกลง…” เฉียวเฟยหยุนพยักหน้าจากนั้นก็แลกเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์มือถือกับสาวใช้ แล้วเอ่ยกำชับ “อย่างนั้นเธอก็รีบไปเถอะ ลองดูว่าสามารถหาข่าวอะไรได้หรือไม่”
สาวใช้พูดอย่างเขินอาย “คุณชายเฉียว… ฉัน… ฉันเพิ่งจะส่งกะของฉันไป ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำแล้ว…ให้ฉัน…ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณสักพักดีไหมคะ?”
เฉียวเฟยหยุนที่เจ้าเล่ห์ขนาดนั้น ไหนเลยจะมองไม่ออกว่าสาวใช้หมายถึงอะไร
เพียงแต่ เขาในตอนนี้ไหนเลยจะมีเวลามาทำตัวสำราญใจและคิดเรื่องชายหญิงพวกนั้น
ดังนั้นเขาจึงระงับความกระวนกระวายใจของเขาและเอ่ยกล่อมเธอ “ตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วน พวกเราทำเรื่องสำคัญก่อนดีกว่า หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา เราก็อาจไม่ได้มีโอกาสได้อยู่ร่วมกันแล้ว”
ทันทีที่สาวใช้ได้ยินเรื่องนี้ หัวใจของเธอก็ตกตะลึงและรีบเอ่ยพร้อมพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ตกลงคุณชายเฉียว อย่างนั้นฉันจะไปดูสักหน่อยว่ามีอะไรพอช่วยได้ไหม!”
เฉียวเฟยหยุนพยักหน้าอย่างพอใจและกล่าวว่า “รีบไปเถอะ มีอะไรอย่าลืมบอกฉันทันที!”
“ค่ะ …” สาวใช้รับปาก จากนั้นก็ออกจากห้องของเฉียวเฟยหยุนไปอย่างไม่เต็มใจ