ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4097 การลงโทษต่อหน้าสาธารณะ
อานโฉงชิวเอ่ย “ที่ฉันโทรหานาย ก็เพราะอยากเตือนนายเรื่องนี้ ฉันเองก็คิดว่ามันแปลกมาก! จากวิดีโอนั้น ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะแค่หยอกเล่นและข่มขู่เฟ่ยเส่วปิงอย่างหยาบคาย อีกทั้งวิธีการก็หยาบคายมาก แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น กลับทำให้รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างหยาบคายอย่างที่เห็น! ไม่ใช่แค่ไม่หยาบ แต่กลับยังแม่นยำถึงขีดสุดอีกด้วย แม่นยำๆ ถึงขนาดที่พอจะคาดเดาการกระทำของตระกูลเฟ่ยได้ล่วงหน้าทุกขั้น อีกทั้งยังตั้งใจใช้วิธีนี้ เพื่อหลอกล่อตระกูลเฟ่ยเข้าสู่เบื้องหน้าสาธารณชน”
หลี่ญ่าหลินตบต้นขาของเขาและโพล่งออกมา “ใช่แล้ว! นั่นแหละ! พวกเขากำลังตกปลา! พวกเขาคิดจะตกตระกูลเฟ่ยทั้งหมดขึ้นมาจากทะเลลึก ให้พวกเขาเปิดเผยตัวเองต่อหน้าความสนใจของคนทั้งโลก … ”
จากนั้นเขาก็รีบถาม “โโฉงชิวนายคิดว่าเขาต้องการทำอะไร”
อานโฉงชิวเดาะลิ้นของตนและพูดว่า “ถ้าพวกเขาไม่ตัดหูของเฟ่ยฮ่าวหยาง ฉันอาจคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นบทละครชั้นดีที่กำกับและดำเนินการโดยตระกูลเฟ่ยเอง เพื่อให้ชื่อเสียงของตระกูลเฟ่ยสามารถเพิ่มขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันก็ยังทำให้ เฟ่ยฮ่าวหยางโด่งดังและวางรากฐานที่ไม่ธรรมดาให้กับเฟ่ยฮ่าวหยาง นายลองคิดดูว่าเมื่อทุกคนในโลกตั้งตารอการกลับมาอย่างปลอดภัยของเฟ่ยฮ่าวหยาง พวกเขาก็ค่อยเล่นเกมการกู้ภัยที่ประสบความสำเร็จไปอีกฉากหนึ่ง ให้เฟ่ยฮ่าวหยางถูกปล่อยตัวออกมา และถึงเวลานั้นทั้งโลกก็จะร่วมเฉลิมฉลองและยินดีแด้วย เป็นจุดจบอย่างสมบูรณ์แบบ หากเคลื่อนไหวแบบนี้ เฟ่ยฮ่าวหยางก็จะมีอนาคตที่สดใส ”
หลี่ญ่าหลินเอ่ยต่อว่า “แต่ว่า พวกเขาตัดหูของเฟ่ยฮ่าวหยางไปจริงๆ! ฉันให้คนใช้เทคโนโลยีการซ่อมแซม AI เพิ่มคุณภาพของวิดีโอเหล่านั้นเพื่อขยายภาพหูคู่นั้นในวิดีโอมาดู และมันก็ตรงกับลักษณะทางกายภาพของเฟ่ยฮ่าวหยางในก่อนหน้านี้จริงๆ นี่มันเป็นหูของเขาแน่ๆ ไม่มีทางผิดพลาด!”
“ใช่” อานโฉงชิวกล่าวอย่างเคร่งขรึม: “จุดนี้นี่แหละ ที่ทำให้ฉันปฏิเสธข้อสันนิษฐานนี้ไป ตระกูลเฟ่ยไม่ใช่ผู้บงการอยู่เบื้องหลังแน่นอน และผู้บงการอยู่เบื้องหลังที่แท้จริงกำลังจงใจดึงดูดให้ตระกูลเฟ่ยเป็นจุดสนใจขึ้นทีละน้อยๆ”
หลี่ญ่าหลินไล่ถามต่อ “ล่องูให้ออกจากถ้ำ อีกทั้งยังต้องเผชิญหน้ากับทั้งโลก จุดประสงค์เพื่ออะไรกัน?”
อานโฉงชิวพูดช้าๆ “ในเมื่อสมมติฐานเมื่อกี้ไม่เป็นจริง…อย่างนั้นก็มีเพียงความเป็นไปได้อีกแค่อย่างเดียวแล้ว”
หลี่ญ่าหลินเอ่ย “ความหมายของนายก็คือ เป้าหมายของคนเหล่านี้ไม่ใช่เฟ่ยฮ่าวหยาง แต่เป็นทั้งตระกูลเฟ่ย?!”
“ถูกตัอง!” อานโฉงชิวพูดอย่างตื่นเต้น “พวกเราคิดเหมือนกันจริงด้วย!”
หลี่ญ่าหลินถอนหายใจ: “เพียงแต่ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงคิดจะดึงตระกูลเฟ่ยให้ออกมาเป็นจุดสนใจ หรือว่าพวกเขาคิดจะต่อสู้กับตระกูลเฟ่ยต่อหน้าคนทั้งโลกงั้นหรือ?! แบบนั้นก็ออกจะโอหังเกินไป ทั้งโลกจะไม่ให้อภัยพวกเขา ถึงเวลานั้น พวกเขาจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจกับประชาชนทั้งหมด! ได้ไม่คุ้มเสีย!”
อานโฉงชิวขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำว่า “เว้นเสียแต่…เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะมั่นใจอย่างแน่นอนว่าสามารถพลิกสถานการณ์ในปัจจุบันกลับได้อย่างสมบูรณ์!”
ขณะที่เขาพูด สีหน้าตื่นตระหนกที่น้อยครั้งจะมีของอานโฉงชิวก็เกิดขึ้น เขาโพล่งออกมา “ฉันรู้แล้ว! นี่จะต้องเป็นการลงโทษต่อหน้าสาธารณะแน่!”
“การลงโทษต่อหน้าสาธารณะ…” หลี่ญ่าหลินพึมพำและพูดซ้ำ จู่ๆดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นและโพล่งออกมาทันที: “ฉันเข้าใจแล้ว! ถ้าคิดตามที่นายว่ามา อย่างนั้นคนลึกลับนั่นจะต้องกุมเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ของตระกูลเฟ่ยเอาไว้อยู่แน่ และต้องเป็นเรื่องที่ถึงขั้นเมื่อเรื่องอื้อฉาวถูกเปิดเผยออกไป ตระกูลเฟ่ยทั้งตระกูลจะต้องพังทลายลง! อีกทั้งพวกเขาจงใจใช้วิธีนี้เพื่อดึงดูดตระกูลเฟ่ยให้เป็นจุดสนใจของคนทั้งโลกเพื่อทำให้ตระกูลเฟ่ยไม่อาจฟื้นคืนกลับมาได้อีก!”
อานโฉงชิวพยักหน้าและพูดอย่างเคร่งขรึม “ถูกต้อง! ฉันเองก็เดาว่าเรื่องนี้เป็นอย่างนั้น!”
หลี่ญ่าหลินพูดด้วยท่าทางตกใจ: “นี่เป็นการลงโทษสาธารณะจริงๆ… เริ่มจากปล่อยเพื่อจับแล้วค่อยซ้ำเติมอย่างแรง…”
ขณะพูดถึงเรื่องนี้ หลี่ญ่าหลินก็เคาะโต๊ะซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเอ่ยพึมพำในปาก “ที่แท้คืออะไรกันแน่ ถึงได้มีความสามารถขนาดนั้น…หรือว่าจะเป็น…เป็นคุณท่านเฟ่ยกลับมายึดอำนาจแล้ว?!”
ขณะที่อานโฉงชิวกำลังจะพูด หลี่ญ่าหลินก็ส่ายหัวอีกครั้ง: “ไม่ใช่! แม้ว่าคุณท่านเฟ่ยจะกลับมา แต่เขาก็ไม่สามารถลงมือกับหลานชายของตนได้ นอกจากนี้คุณท่านเฟ่ยถูกถอนรากถอนโคนไปนานแล้ว ไม่มีทางมีกำลังลึกลับแบบนี้…”