ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4106 ทางหนีทีไล่
หลังจากที่สาวใช้จากมา เธอก็ไม่ได้ไปที่ห้องของนายหญิงในทันทีแต่กลับมาที่ห้องน้ำไร้ผู้คนและหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาส่งข้อความถึงเฉียวเฟยหยุน
เนื้อหาในข้อความคือ “คุณชายเฉียว ฉันเพิ่งได้ยินมาว่า คุณท่านส่งนั่งเครื่องบินไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อค้นหานินจาญี่ปุ่นแล้ว! นอกจากนี้ยังได้ยินอีกว่าเขาคิดว่าเครื่องบินธรรมดาบินช้าเกินไปแล้วก็กำลังวางแผนที่จะซื้อเครื่องบินชื่อเครื่องบินโดยสารคองคอร์ด”
หลังจากส่งข้อความนี้เสร็จ มือของสาวใช้ก็กุมโทรศัพท์มือถือไว้ที่หน้าอก ในใจรออย่างมีความหวังว่าคนที่เธอรักจะส่งคำชมมาให้ตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เธอกลับไม่ได้คำตอบจากของเฉียวเฟยหยุน
เพราะเมื่อเฉียวเฟยหยุนเห็นข้อความนี้ คนทั้งคนก็กระโดดลงจากเตียงทันที หัวใจของเขากำลังแทบจะกระโดดออกมาจากลำคอของเขา
เขาในขณะนั้น เขามองดูโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าสะพรึงกลัวและเอ่ยพึมพำว่า “บัดซบ จบแล้ว…ครั้งนี้ท่าไม่ดีจบเห่แล้ว…”
เฉียวเฟยหยุนรู้ดีในใจว่าเมื่อตระกูลเฟ่ยเริ่มสืบสวนเรื่องนินจาญี่ปุ่น ก็จะเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่งที่จะเจอเบาะแสของนินจาอิงะ
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเองว่า “ไอ้ลูกหมานินจาอิงะจะเป็นคู่ต่อสู้ของตระกูลเฟ่ยได้ยังไงถึงเวลานั้นเมื่อเผชิญหน้ากับตระกูลเฟ่ย เขาจะต้องสารภาพทุกอย่างโดยไม่ลังเลแน่…”
“ถึงตอนนั้น ตระกูลเฟ่ยก็จะเริ่มตามหาต้นตอโดยเริ่มจากนินจาอิงะ และไม่นาน พวกเขาก็จะสืบหามาจนเจอฉัน…”
“แม้ว่าฉันจะใช้ข้อมูลปลอมตอนติดต่อกับนินจาอิงะ แต่เงินสี่สิบล้านดอลลาร์ที่ฉันโอนไปให้นินจาอิงะไม่ใช่ของปลอมนี่…”
“ขอแค่ตระกูลเฟ่ยเริ่มต้นจากต้นทางของเงินและตรวจสอบมาที่ต้นน้ำเพียงเล็กน้อย พวกเขาจะต้องพบฉัน…”
“ถึงเวลานั้น ฉันจะให้คำอธิบายกับตระกูลเฟ่ยยังไง?”
“ฉันบอกว่าฉันบริสุทธิ์? พวกเขาจะเชื่อหรือไง? พวกเขาไม่เชื่อแน่…”
“อย่างนั้นฉันก็ได้แต่บอกพวกเขาไปตามจริงว่าอันที่จริงฉันช่วยเฟ่ยฮ่าวหยางตามหานินจา โดยมีจุดประสงค์เพื่อลักพาตัวดาราดัง…”
“ตระกูลเฟ่ยจะต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน ในสายตาของพวกเขา คุณชายของพวกเขาเป็นราวกับมังกรฟีนิกซ์ท่ามกลางผู้คน เขาจะกลายมาเป็นปีศาจในหมู่มนุษย์ได้ยังไงกัน?”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็ได้แต่ต้องเปิดเผยสิ่งที่เฟ่ยฮ่าวหยางทำทั้งหมด รวมถึงเอาข้อมูลทั้งหมดที่ฉันมีออกมา…”
“แต่ว่าแบบนั้นจะไปมีประโยชน์อะไร? หากตระกูลเฟ่ยพบว่าคุณชายของพวกเขาเป็นปีศาจในหมู่มนุษย์ อย่างแรกที่จะทำก็คือกำจัดฉันทิ้งก่อน เพื่อฝังความจริงทั้งหมดลงไป…”
“แบบนั้นฉันมีแต่จะตายเร็วขึ้นเท่านั้น…”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉียวเฟยหยุนก็กัดฟันและพูดเสียงกร้าว “เห็นที ถ้าฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ ทางเดียวก็คือต้องหนีไปก่อนที่ตระกูลเฟ่ยจะหาฉันเจอ!”
“ขอแค่ฉันสามารถออกจากการควบคุมของตระกูลเฟ่ยได้ อย่างนั้นก็ค่อยส่งข้อมูลทั้งหมดกลับไปยังตระกูลเฟ่ย ให้พวกเขาอยู่ห่างจากฉันไว้! มิฉะนั้นฉันจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด!”
จากนั้น คิ้วของเฉียวเฟยหยุนก็เลิกขึ้นและเอ่ยยิ้มเยาะ: “ใช่ ฉันสามารถใช้ข้อมูลพวกนี้มาโจมตีพวกเขาแรงๆสักทีได้ ยังไงเสียก็ฉีกหน้ากากออกไปแล้ว ใครจะไปสนเรื่องพวกนี้กัน?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉียวเฟยหยุนก็รวบรวมจิตใจและเตรียมพร้อมจะหาทางหนีทีไล่
ดังนั้น หลังจากได้รับข้อความจากสาวใช้ได้ห้านาที เฉียวเฟยหยุนก็แต่งตัวเรียบร้อย สวมหมวกแก๊ปเอาไว้ แล้วรีบออกจากวิลล่าไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงดึก ตระกูลเฟ่ยยังคงสว่างไสวและได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา แต่การเฝ้าระวังส่วนใหญ่เน้นจากภายนอกสู่ภายใน
ส่วนจากภายในสู่ภายนอก ขอแค่ไม่มีอะไรอยู่ในมือก็แทบจะไปไหนมาไหนได้ไม่กำจัด
วิธีตรวจเข้มตอนเข้าผ่อนคลายตอนออกแบบนี้ก็เปรียบเสมือนการขึ้นเครื่องบิน ขณะที่คุณเข้าไปจะต้องถอดรองเท้าและผ่านเครื่องตรวจความปลอดภัย แต่เมื่อคุณลงจากเครื่องบิน คุณกลับสามารถออกจากสนามบินได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะพกของไปเยอะแค่ไหน รปภ.ก็ไม่แม้แต่จะดู
ดังนั้น เฉียวเฟยหยุนจึงออกจากคฤหาสน์ตระกูลเฟ่ยไปได้โดยตรงโดยไม่มีใครไหวตัวทัน