ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4109 ดูแลให้ดี
ฟันของเฉียวเฟยหยุนถูกตบจนหักออกมาหลายซี่ ใบหน้าของเขาเจ็บราวกับว่ามันกำลังจะระเบิด แต่เขาก็ทำได้เพียงทำให้แค่ฝืนทนและเอ่ยขอร้อง: “ฉันมีความสุขจริงๆ…ได้โปรดอย่าตบ … ”
ทหารเอ่ยหัวเราะว่า “คุณชายเฉียวที่มือไม้ใจคอโหดเหี้ยม ทำไมถึงได้ขอความเมตตาเร็วขนาดนี้? เพิ่งโดนตบไปไม่กี่ครั้งเองนะนี่ ละครเพิ่งจะเริ่มต้น ถ้านายขอความเมตตาเร็วเกินไปแบบนี้ อีกเดี๋ยวจะทำยังไง?”
ทันทีที่เฉียวเฟยหยุนได้ยินดังนี้ เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางปล่อยเขาไปแย่ และอาจถึงขึ้นเตรียมพร้อมที่จะส่งเขาไปสู่ความตายด้วย ดังนั้นเขาจึงร้องไห้และอ้อนวอนออกมาทันทีโดยไม่รู้ตัว “พี่ชาย…พวกเราไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน ทำไมถึงได้ลงมือกับฉันขนาดนี้…”
เฟ่ยฮ่าวหยางที่เห็นเฉียวเฟยหยุนร้องไห้อ้อนวอนเหมือนสุนัขใกล้ตาย ในใจของเขาก็สว่างวาบ และมองขึ้นไปที่จอภาพบนหัวของเขาทันทีและตะโกนว่า “ประมุขว่าน ประมุขว่านคุณอยู่ที่นั่นไหม? เรื่องลักพาตัวคุณกู้ ล้วนเป็นเฉียวเฟยหยุนที่เสนอความคิดให้ฉัน! เขาเป็นคนวางแผนการทั้งหมด เขาต่างหากที่เป็นผู้บงการ ประมุขว่านช่วยส่งข้อความถึงคุณเย่ที ขอให้คุณเย่ช่วยเมตตาละเว้นฉันไป…”
เฉียวเฟยหยุนได้ยินก็อึ้งไปทันที เขาไหนเลยจะคาดคิดว่าพอเปิดปากเฟ่ยฮ่าวหยางก็โยนความผิดมาให้ตัวเองทันที
นอกจากนี้ เมื่อฟังความหมายของคำพูดเขา ดูเหมือนว่าเบื้องหลังเรื่องนี้ จับตนมาเพราะเรื่องของกู้ชิวอี๋ หากเป็นแบบนั้นจริงๆ อย่างนั้นคนที่ฆ่าน้องชายของตัวเอง ก็คงจะไม่ใช่พวกเดียวกันสินะ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็แทบโพล่งออกไปโดยไม่ต้องคิดว่า “เฟ่ยฮ่าวหยาง! นายอย่ามาโยนขี้ใส่คนอื่น! เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความคิดของนายทั้งนั้น! เป็นความคลั่งไคล้ของนาย คิดอยากได้คุณกู้มาอยู่ในมือ เกี่ยวอะไรกับฉันกัน!”
เฟ่ยฮ่าวหยางด่าอย่างโกรธเคือง: “ปกตินายตามตูดเลียแข้งเลียขาฉันอยู่ทุกวัน พอเกิดเรื่องขึ้นกลับกล้าพูดว่าไม่เกี่ยวอะไรกับนาย เรื่องการลักพาตัวคุณกู้ นายเป็นคนวางแผน นินจาก็เป็นนายที่หามาจากญี่ปุ่น แม้กระทั่งเรือที่เตรียมเอาไว้จะฆ่าพวกนินจาในตอนท้ายนั่นก็เป็นนายที่จัดการ บางทีเรือนั่นอาจจะยังอยู่ที่ท่าเรือด้วยซ้ำ คุณเย่ฉลาดปราดเปรื่อง สามารถส่งทหารชั้นยอดหลายคนของสำนักว่านหลงไปตรวจสอบก็รู้ได้แน่ชัดแล้ว นายคิดว่าแค่อาศัยลมปากของนายก็จะลบล้างความผิดได้หรือไง?”
เมื่อเฉียวเฟยหยุนได้ยินดังนั้น เขาก็รู้แล้วว่ามันยากที่จะกำจัดความมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่เฟ่ยฮ่าวหยาง และพูดอย่างโมโห “แซ่เฟ่ย นายเห็นฉันปุ๊ปก็คิดจะโยนความผิดมาให้ฉันทันที นี่แทบจะไร้สมองชัดๆ! นายไม่รู้หรือไงวะ? พวกเราสองคนกำลังเป็นตั๊กแตนบนเชือก!”
เฟ่ยฮ่าวหยางเองก็มองออกถึงสีหน้าที่แท้จริงของเฉียวเฟยหยุนเช่นกันและพูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนโยนความคิดใส่ก็บอกว่าทั้งหมดเป็นความคิดของฉัน ตอนนี้พอปัดความผิดไม่พ้นก็บอกว่าเป็นตั๊กแตนบนเชือกเส้นเดียวกัน นายมันเจ้าเล่ห์จริงๆเลยเฉียวเฟยหยุน! ฉันถึงได้ต้องพลอยมาซวยไปกับนายด้วย!”
เฉียวเฟยตัวสั่นด้วยความโกรธและกัดฟันพูดว่า “นายบอกว่าฉันพานายซวยไปด้วย? ตอนนั้นที่โรงเรียน ถ้าไม่ใช่เพราะนายเอาแต่ทำชั่วไปทั้งวัน ฉันจะไปร่วมทำตัวเอาใจนายทำไม?! เห็นชัดๆว่าเป็นฉันที่ถูกนายหลอก แถมมาตอนนี้นายยังมาแว้งกัดฉันอีก!”
ในเวลานี้ ในห้องเฝ้าสังเกตชั้นบน ว่านพั่วจวินที่เห็นคนทั้งสองราวสุนัขกัดกันก็ตัดวิดีโอทันทีและส่งให้เย่เฉิน
หลังจากดูวิดีโอนี้แล้ว เย่เฉินก็ตอบกลับเขาว่า “ให้คาซูโอะ ฮันโซไปเถอะ”
ว่านพั่วจวินส่งข้อความเสียงถึงเย่เฉินทันทีและกล่าวว่า “คุณเย่ไม่ต้องกังวล ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้”
ทันใดนั้นเขาก็สั่งกับลูกน้อง “ไปเรียกคาซูโอะ ฮันโซมา”
“ครับ!” ลูกน้องของเขารีบไปตามคาซูโอะ ฮันโซทันที
คาซูโอะ ฮันโซถามด้วยความเคารพว่า “ประมุขท่าน คุณมีอะไรสั่งการหรือครับ?”
ว่านพั่วจวินชี้ไปที่เฉียวเฟยหยุนบนจอมอนิเตอร์และพูดว่า “นายน่าจะรู้จักใช่ไหม?”
คาซูโอะ ฮันโซมองอย่างตั้งใจ จากนั้นก็เอ่ยด้วยความโกรธว่า “ประมุขว่าน! เป็นไอ้สารเลวนี่ที่โกงเราที่นิวยอร์ก!”
“ดี” ว่านพั่วจวินพยักหน้าและกล่าวว่า “คุณเย่บอกแล้ว ให้นายไปดูแลเขาสักหน่อย”