ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4123 คิดถึง
ในขณะนี้ พรอวิเดนซ์ที่อยู่ห่างจากนิวยอร์กมากกว่าสองร้อยกิโลเมตร
เย่เฉินนั่งอยู่บนโซฟาคนเดียวที่โรงแรม พลางดูเวลาบนโทรศัพท์ของเขา
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อนกำหนดเวลา 48 ชั่วโมงที่เขาให้กับตระกูลเฟ่ย
ทันทีที่เวลาสุดท้ายผ่านไป เขาจะเริ่มต้นการโจมตีครั้งสุดท้ายต่อตระกูลเฟ่ย
ดังนั้น เขาจึงเริ่มการวางแผนขั้นต่อไป
สิ่งแรกที่เย่เฉินทำคือ ให้อิโตะ นานาโกะปล่อยข่าวอีกครั้ง และบอกกับสาธารณชนว่าการระเบิดของเมืองอิงะนั้น เกี่ยวโยงกับนินจาอิงะไปทั่ว ความจริงของเรื่องนี้ก็คือนินจาอิงะกลุ่มนี้กับผู้ก่อการร้ายสมคบคิดกัน และจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ นินจาอิงะได้หนีออกจากญี่ปุ่นไปก่อนแล้ว
เหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ เป็นเพราะว่าเย่เฉินคิดที่จะเอานินจาอิงะทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวด้วย
เมื่อข่าวนี้ถูกเปิดเผย คำแถลงที่นินจาอิงะออกจากญี่ปุ่นก่อนนั้น จะได้รับการยืนยันในไม่ช้า
ในเวลานั้น ทุกคนจะคิดว่านินจาอิงะเกี่ยวโยงกับผู้ก่อการร้ายเหล่านี้จริง ๆ ดังนั้น นินจาอิงะคงไม่มีทางกลับมาญี่ปุ่นได้อีกในชีวิตนี้
นอกจากนี้ เย่เฉินยังเรียกเฮ่อจือชิวอีก
ในสาย เขาถามเฮ่อจือชิวถึงที่ตั้งของเรือบรรทุกสินค้าที่จะไปซีเรียเพื่อส่งอาหาร
เฮ่อจือชิวบอกเขาว่า เรือสินค้ากำลังจะผ่านศรีลังกา และเข้าสู่ทะเลอาหรับ และจะเข้าอ่าวเอเดนในอีกไม่กี่วัน
เย่เฉินสั่งเธอทันที:”จือชิว หลังจาก 24 ชั่วโมง เธอให้เรือขนส่งสินค้าหยุดนิ่ง ฉันจะให้ผู้รับผิดชอบกองกำลังคุ้มกันของสำนักว่านหลงติดต่อเธอ”
เฮ่อจือชิวไม่ทราบเหตุผล แต่ก็ตอบตกลงทันที จากนั้นจึงโทรศัพท์ ให้เรือขนส่งสินค้าทิ้งสมอเรือในน่านน้ำใกล้ศรีลังกาชั่วคราว
หลังจากนั้นเย่เฉินโทรหาว่านพั่วจวินอีกครั้ง และสั่งเขาว่า:”พั่วจวิน ผู้ขนส่งสินค้าที่บรรทุกธัญพืชจะหยุดในน่านน้ำใกล้ศรีลังกา หลังจากผ่านไป24 ชั่วโมง คุณเตรียมเครื่องบินรอที่โคลัมโบก่อน และหลังจากที่เรือขนส่งสินค้าหยุด คุณส่งเฮลิคอปเตอร์พาเฟ่ยเจี้ยนจงกับเฟ่ยเข่อซิน และซูรั่วหลีไปที่โคลัมโบ และหลังจากที่พวกเขามาถึงโคลัมโบแล้ว ให้พวกเขารีบมาบินมาพบฉันที่นิวยอร์กเลย”
ว่านพั่วจวินพูดโดยไม่ลังเล :”กระผมรับทราบ”
น่านน้ำตะวันออกของศรีลังกาในเวลานี้
เนื่องจากเวลาที่แตกต่างกัน แม้ว่าในญี่ปุ่นจะเป็นเวลากลางคืน แต่พระอาทิตย์ตกดินที่นี่เพิ่งจูบระดับน้ำทะเลทางทิศตะวันตกเอง
พระอาทิตย์ตกดินที่งดงาม ทำให้ระดับน้ำทะเลเป็นสีแดงทั้งหมด และทิวทัศน์สวยงามมาก
นกทะเลหลากหลายชนิดบินอย่างอิสระบนท้องฟ้า และที่หัวเรือทั้งสองข้าง มีโลมาจำนวนมากไล่ตามเรือบรรทุกสินค้าอย่างดีใจ และกระโดดขึ้นจากน้ำเป็นครั้งคราว
ความงามที่หายากนี้ สำหรับลูกเรือทั้งหลายที่มักเที่ยวทะเล มันเห็นจนชินแล้ว แต่สำหรับเฟ่ยเข่อซิน นี่เป็นความงามที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ
ในขณะนี้ เฟ่ยเข่อซินยืนอยู่บนหัวเรือ มองดูทิวทัศน์ที่สวยงาม ทันใดนั้นอารมณ์ของเธอก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก
หลายวันมานี้ การเที่ยวทะเลอย่างไร้จุดหมาย โดยไม่มีข่าวคราวจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ทำให้สภาพจิตใจของเธอเสื่อมโทรมอยู่เสมอ
ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น แต่เฟ่ยเจี้ยนจงที่อายุมากแล้ว ก็รู้สึกหดหู่ใจมากขึ้นในช่วงเวลานี้
ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากมีความไม่เต็มใจอยู่ในใจมาตลอด เฟ่ยเจี้ยนจงจึงไม่สามารถปล่อยวางได้เลยสักนิด วันๆ เอาแต่เศร้าและถอนหายใจ แอบเสียใจเอง
และสิ่งที่เฟ่ยเข่อซินไม่สามารถปล่อยวางได้ ก็คือความคิดถึงที่อธิบายไม่ได้ในใจต่อเย่เฉิน
เธอมักจะมีภาพลักษณ์ของเย่เฉินปรากฏขึ้นในหัวโดยไม่รู้ตัว และทันใดนั้นจู่ๆ ก็หมดความสนใจในทุกสิ่ง และเริ่มกรอกระบวนการทั้งหมดที่ตนได้รู้จักกับเย่เฉินในหัวใหม่โดยไม่รู้ตัว
ในเวลานี้ เธอมองดูพระอาทิตย์ตกที่สวยงามในทะเล และคิดถึงเย่เฉินโดยไม่รู้ตัว และถึงกับถอนหายใจในหัวใจว่า:”ถ้าเย่เฉินอยู่ที่นี่ด้วยก็ดี……เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าเรือลำนี้จะไปที่ไหน ฉันก็จะไม่กังวลไม่ประหม่า……”