ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4161 ฉันจะกลับมาคืนนี้!
เฟ่ยซานไห่ในเวลานี้สลบหมดสติไปแล้ว เนื่องจากความเมตตาของจางชวน หลังจากสำลักไปหลายครั้ง เขาก็กลืนเหล้าแก้วที่สามลงท้องไป
ในเวลานี้เย่เฉินมองไปที่เฟ่ยเสวปิงที่สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเอ่ยปากว่า “คุณชายเฟ่ย คุณลองดูว่าควรดื่มเองหรือให้ผมส่งเข้าไปช่วยคุณ?”
เฟ่ยเสวปิงรีบพูดขึ้น “ฉันดื่มเอง ฉันดื่มเอง!”
พูดจบ เขาก็รีบเติมเหล้าไปเต็มแก้วอีกครั้งด้วย จากนั้นก็อดทนกับอาการวิงเวียนศีรษะรุนแรงและฝืนดื่มมันลงไป
จากนั้น เขาก็รู้สึกว่าเหล้านั้นแรงขึ้นเรื่อยๆ จนไม่กล้าที่จะชักช้าอีกต่อไป เขารีบอาศัยช่วงเวลาที่ยังมีสติอยู่ รีบเติมแก้วสุดท้ายให้เต็มก่อนจะกระดกดื่มมันลงไป
หลังจากดื่มเหล้าแก้วสุดท้าย ท้องของเฟ่ยเสวปิงก็ร้อนวูบวาบ เหล้าขาวสี่แก้วที่ลงท้องไป ทำเอาเขาแทบพังไปนานแล้ว เมื่อเห็นว่าภารกิจเสร็จสิ้น เขาก็ค่อยโล่งใจในที่สุด จากนั้นดวงตาของเขาก็มืดลง ก่อนจะหมดสติไปและล้มลงกับพื้น
เมื่อเย่เฉินเห็นว่าทั้งพ่อและลูกชายอยู่หมดสติไปแล้ว เขาก็ยืนขึ้นและพูดกับกู้ชิวอี๋ว่า “หนานหนาน มองดูคนขี้เมาสองคนแบบนี้ออกจะกินข้าวไม่อร่อย พวกเราเปลี่ยนสถานที่ดีกว่าไหม”
กู้ชิวอี๋แลบลิ้นของเธอและพูดว่า “ได้สิพี่เย่เฉิน ฉันแค่ดมแต่กลิ่นเหล้าก็ใกล้จะเมาแล้ว ถ้าอยู่ต่อไปคงจะมึน… ”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “อย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ”
เมื่อเห็นว่าเย่เฉินกำลังจะจากไป จางชวนก็รีบถามอย่างประหม่า “ผู้อาวุโส…คุณ..เมื่อไหร่คุณจะฟื้นฟูพลังให้ผม…”
เย่เฉินพูดเสียงเรียบ “หลังจากที่พวกเราจากไป นายไปให้คนมาส่งพวกเขาไปล้างท้อง ส่วนนาย กลับมาคุกเข่าอีกครั้งจนกว่าฉันจะกลับมา! ถ้าพวกเขาฟื้นขึ้นมาแล้วหาเรื่องนาย อย่างนั้นนายก็บอกพวกเขาไปว่าคืนนี้ฉันยังจะกลับมาและให้พวกเขาเตรียมตัวต้อนรับให้ดี!”
จางชวนเอ่ยร้องไห้อย่างไร้น้ำตา “ผู้อาวุโส…ตอนนี้ผมไม่มีพลัง ถ้าพ่อลูกตระกูลเฟ่ยตื่นขึ้นมา พวกเขาจะต้องลงโทษผมแน่ๆ…ถึงเวลานั้นผมก็จะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ เกรงว่าคงทนไปถึงคุณกลับมาไม่ไหว…”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา “นายบอกพวกเขาไปว่า ตราบใดที่ฉันยังไม่กลับมา ใครก็ห้ามหาเรื่องนายทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นจะต้องรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง!”
พูดจบ เย่เฉินก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “สำหรับพลังของนาย จงรออย่างอดทน รอให้คนที่ดูแลนายมาถึง ฉันจะตัดสินใจอีกทีตามสถานการณ์ว่าจะฟื้นฟูให้นายได้ไหม”
เมื่อจางชวนได้ยินดังนั้น เขาก็ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
เย่เฉินไม่พูดอะไรอีก เขายืนขึ้นและเดินออกจากร้านอาหารไปพร้อมกับกู้ชิวอี๋อย่างเปิดเผย
เมื่อคนรับใช้และบอดี้การ์ดของตระกูลเฟ่ยเห็นคนทั้งสองเดินออกมา กลับไม่มีใครกล้าหยุดพวกเขา
นั่นเพราะพวกเขารู้ว่ากู้ชิวอี๋เป็นดาราดัง อีกทั้งยังเป็นแขกรับเชิญจากตระกูลเฟ่ย ไม่มีใครกล้าหยุดแขกเมื่อแขกต้องการจากไป
อย่างไรก็ตาม หลายคนก็สงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีการเคลื่อนไหวภายในเลยสักนิด
ตามหลักแล้ว เมื่อแขกจากไป อย่างน้อยคุณท่านหรือคุณชายก็น่าจะต้องออกมาส่งแจกเป็นมารยาท
เมื่อมีคนต้องการเข้าไปดู จางชวนก็เดินออกมาและพูดกับฝูงชนว่า “คุณท่านและคุณชายดื่มมากเกินไปแล้ว รีบส่งพวกเขาไปที่แผนกการแพทย์เพื่อล้างกระเพาะ!”
ในคฤหาสน์ตระกูลเฟยขนาดใหญ่ ยังมีแผนกการแพทย์ระดับสูงตั้งอยู่ ในนั้นมีแพทย์และพยาบาลชั้นนำจำนวนมากเตรียมพร้อมอยู่ตลอดทุกวัน 24 ชั่วโมง ราวกับโรงพยาบาลขนาดเล็กที่รับผิดชอบปัญหาสุขภาพของตระกูลเฟ่ยโดยเฉพาะ
คนรับใช้และผู้คุ้มกันรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินว่าเฟ่ยซานไห่และเฟ่ยเสวปิงดื่มมากเกินไป ตอนแรกพวกเขายังคงสงสัยอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดว่าจางชวนที่เป็นถึงยอดฝีมือระดับสูง คงไม่มีทางมาโกหกทุกคน และค่อยคลายความสงสัยไป
ฝูงชนรีบพุ่งเข้าไปและเร่งส่งสองพ่อลูกที่เมาหมดสติไปที่แผนกการแพทย์
เมื่อสองพ่อลูกถูกส่งไปยังแผนกการแพทย์ เย่เฉินก็พากู้ชิวอี๋ออกจากคฤหาสน์ตระกูลเฟ่ย
ขณะกลับมานั่งที่รถ กู้ชิวอี๋ก็ถามเย่เฉินว่า “พี่เย่เฉิน พวกเราจะไปทานอาหารค่ำที่ไหนกันดี?”
เย่เฉินตอบโดยไม่ต้องคิด “ไปไชน่าทาวน์แล้วกัน พวกเราไปหาลุงโจงกินห่านย่างกัน!”