ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4165 การทำนายที่แม่นยำ
อานโฉงชิวพูดอย่างจริงจังว่า “ญ่าหลิน มองโลกในแง่ดีหน่อย! ก็แค่ประสบกับความพ่ายแพ้เล็กน้อยในด้านที่ตนแข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่หรือไง ฉันบอกกับนาย เรื่องพวกนี้นั้นไม่สำคัญ”
พูดจบ เขาก็ชี้มือมาที่ตัวเองแล้วโพล่งออกมาว่า “ดูฉันสิ ข้าได้รับเกียรติเป็นแขกผู้มีเกียรติทุกหนทุกแห่งมาหลายปีแล้ว แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นชายชราอายุ 90 ปีก็ยังจ้องลุกขึ้นยืนและมอบตำแหน่งที่นั่งที่ดีที่สุดกับฉัน แต่ผลคือตอนไปงานประมูลเมื่อคราวที่แล้วฉันกลับถูกไล่ออกมาจากงานต่อหน้าคนมากมาย ตอนนั้นฉันแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่นายดูฉันตอนนี้สิ ก็คิดตกแล้วไม่ใช่หรือไง!”
“คนเรา ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะไว้หน้านาย นายที่เป็นนักสืบ ต่อให้นายเก่งมากแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะสามารถคลี่คลายคดีทั้งหมดที่มีได้”
“นายจะต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความล้มเหลว ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามรักษาสภาพจิตใจให้เป็นปกติ รอให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้วนายค่อยมาดูคดีนี้อีกครั้ง บางทีก็อาจเป็นแค่มีใครบางคนมาตดใส่หน้านายเท่านั้น ต่อให้ตดเหม็นแค่ไหน วันหนึ่งมันก็ต้องสลายไปไม่ช้าก็เร็ว”
“แต่ถ้านายยังมัวยึดมั่นกับเรื่องนี้ไม่ยอมวางลง รอให้นายอายุ 70 หรือ 80 ปีก็ยังจำตดนั้นได้อยู่ รู้สึกว่าการหาคนที่ตดใส่นายไม่เจอนั้นทำให้ในใจของนายรับไม่ได้อย่างยิ่งและก้าวผ่านมันไปไม่ได้ อย่างนั้นนายก็จะไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน นายว่าเรื่องนี้มีเหตุผลไหม?”
หลี่ญ่าหลินอดยิ้มไม่ได้ “เรื่องโน้มน้าวใจคนนี้ นายแม่งเก่งจริงๆ”
พูดจบ เขาก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วพูดกับอานฉงชิว “มามามา ดื่มเหล้า เอาให้หมดแก้วนี้!”
อานโฉงชิวโบกมือ “อย่าดื่มให้มากนัก ดื่มเล็กน้อยก็พอ คุณยังต้องประหยัดแรงสำหรับการดูละครฉากใหญ่ เมื่อละครฉากใหญ่ขึ้นแสดงแล้ว ความกดดันของนายก็จะเบาลงมาก”
หลี่ญ่าหลินสีหน้าแข็งค้างไปและถามเขาว่า “นายหมายถึง ‘การลงโทษสาธารณะ’ ใช่ไหม?”
ไม่นานหลังจากเฟ่ยฮ่าวหยางถูกลักพาตัว อานโฉงชิวและหลี่ญ่าหลินก็คาดเดาเกี่ยวกับแรงจูงใจเบื้องหลังเหตุการณ์นี้แล้วและคิดว่าต้องมีใครบางคนวางแผนที่จะให้บทลงโทษกับตระกูลเฟยต่อหน้าสาธารณชน
ตอนนี้ เรื่องการลักพาตัวและถูกทำร้ายของเฟ่ยฮ่าวหยางได้ถูกส่งไปจนเต็มอินเทอร์เน็ต ดึงดูดความสนใจของผู้คนหลายร้อยล้านคน จนความร้อนแรงของเรื่องนี้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เวลา 48 ชั่วโมงที่ผู้ลักพาตัวให้มาก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หากทั้งสองคนเดาถูก การพลิกกลับครั้งใหญ่ของเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นในไม่ช้า
ในเวลานี้ อานโฉงชิวยิ้มและพูดว่า “ถ้าเฟ่ยฮ่าวหยางนั่นเป็นพวกชั่วร้ายและถูกเปิดเผยจริงๆ อย่างนั้นก็คงไม่มีใครตำหนินายที่ไม่ช่วยชีวิตเขาแล้ว นายว่าไหมล่ะ?”
หลี่ญ่าหลินส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น “แม้ว่าฉันไม่อยากจะยอมรับ แต่สิ่งที่นายพูดนั้นถูกต้องจริงๆ … ”
อานโฉงชิวพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ดังนั้นนายก็รอดูอย่างสงบได้เลย ละครฉากเด็ดจะถูกจัดแสดงเร็วๆ นี้แล้ว”
ในขณะที่พูด อานโฉงชิวก็เอ่ยอีกว่า “นายว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจกลับตอนเช้าแทนที่จะเป็นคืนนี้ นั่นก็เพราะฉันอยากดูละครฉากนี้ในนิวยอร์กให้จบก่อนแล้วค่อยไป”
ในเวลานี้ แม้ว่าเย่เฉินจะนั่งอยู่ชั้นบนและกำลังรับประทานอาหารอย่างเงียบ ๆ แต่บทสนทนาทั้งหมดระหว่างอานโฉงชิวและ หลี่ญ่าหลินก็เข้าสู่หูของเขาทั้งหมด
เมื่อเขาได้ยินแบบนี้ เขาเองก็ประหลาดใจเช่นกัน ไม่คาดคิดเลยว่า น้าชายใหญ่และนักสืบหลี่จะถึงกับสามารถวิเคราะห์แรงจูงใจที่แท้จริงทั้งหมดของตนได้ อีกทั้งยังคาดเดาแผนการต่อไปได้อย่างแม่นยำ นี่ทำเอาเขาคาดไม่ถึงเลยจริงๆ
ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของอานโฉงชิวก็ดังขึ้น
เมื่อเขาเห็นชื่อบนโทรศัพท์มือถือเข้าก็ยิ้มและพูดว่า “สวัสดี โยวโยว”
ในสาย มีเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นและเอ่ยทั้งสะอื้นว่า “พี่ใหญ่รีบกลับมาเร็วเข้า! พ่อใกล้จะไม่ไหวแล้ว!”