ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4184 ความจำเสื่อม
สำหรับตระกูลอาน พวกเขาคุ้นเคยกับอาการของอานฉีซานมานานแล้ว
เมื่อรู้ว่าความจำของเขาบกพร่องอย่างร้ายแรง ทุกคนก็พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยเขาฟื้นความทรงจำในสมองตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ความจริงในตอนนี้นั้นพิสูจน์ได้ว่า สถานการณ์แบบนี้มีแค่เพียงความคิดฝันของทุกคนเท่านั้น
อันที่จริงอานฉีซานได้สูญเสียความทรงจำทั้งหมดของเขาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ต่อให้ช่วยให้ความจำของเขากลับมาได้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาได้ทั้งหมด
ดังนั้นในตอนแรก ตระกูลอานจึงพยายามอธิบายให้อานฉีซานฟังทุกวัน โดยบอกเวลาที่แท้จริงและเรื่องที่เขาลืมไปว่ามีเรื่องไหนบ้าง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็พบว่าการทำเช่นนี้ไม่เกิดผลใดๆ
บางครั้ง คนในครอบครัวก็ต้องคุยกับเขาทั้งวันถึงทำให้เขายอมรับความจริงได้
แต่ไม่นาน เขาก็จะลืมทุกอย่างที่ทุกคนบอกกับเขาและกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
ดังนั้น สภาพในปัจจุบันของอานฉีซาน ได้กลับคืนสู่เมื่อ 20 ปีที่แล้วอีกครั้ง กลับไปยังช่วงที่ครอบครัวของเย่เฉินเพิ่งเสียได้ไม่นาน
ในสถานการณ์แบบนี้ การอธิบายให้อานฉีซานฟังนั้นไม่มีความหมายอีกต่อไป นายหญิงใหญ่เองก็ไม่ต้องการให้สมองของเขาต้องถูกบังคับให้ยอมรับหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้เขาตกใจ
ในเวลานี้ อานฉีซานเอ่ยด้วยสีหน้าโศกเศร้าเต็มเปี่ยม “พวกเธอออกไปให้หมดเถอะ ให้ฉันอยู่คนเดียวเงียบๆ”
ทุกคนมองไปที่นายหญิงใหญ่
นายหญิงใหญ่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดกับฝูงชนว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
เมื่อมีคำสั่งของนายหญิงใหญ่ พวกเขาก็ถอนตัวออกจากห้องไอซียู
นายหญิงใหญ่ยังคงจับมือกู้ชิวอี๋เอาไว้และพูดด้วยสีหน้าด้วยความรักใคร่ว่า “เด็กดี วันนี้เป็นครั้งแรกที่หนูมาที่นี่ หนูจะต้องอยู่บ้านนี้สักสองวันนะ!”
กู้ชิวอี๋รีบพูด “คุณยาย คราวนี้หนูคงไม่สามารถอยู่ยาวได้เพราะคอนเสิร์ตของหนูกำลังจะเริ่มแล้ว หนูต้องบินกลับไปนิวยอร์กในคืนนี้เพื่อเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ต”
จากนั้นเธอก็มองดูเวลาแล้วพูดว่า “คุณยาย นี่ก็สายมากแล้ว หนูเองก็ได้เวลาที่จะต้องกลับไปนิวยอร์กแล้ว”
นายหญิงใหญ่ตัดใจไม่ได้อย่างยิ่งและพูดว่า “หนูมาไกลขนาดนี้ จะรีบกลับไปกลางดึกได้อย่างไร กลับไปกลางดึกแบบนี้ก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี อย่างน้อยๆก็อยู่บ้านสักหนึ่งวันแล้วค่อยกลับพรุ่งนี้เช้า!”
กู้ชิวอี๋เอ่ยด้วยสีหน้าขอโทษเต็มเปี่ยม “ขอโทษค่ะคุณยาย หนูยังมีหลายเรื่องที่ต้องทำจริงๆ พรุ่งนี้เช้าหนูจะต้องไปซ้อมครั้งสุดท้าย ถ้าหนูกลับไปพรุ่งนี้เช้า อย่างนั้นก็จะทำให้เสียเวลาช่วงเช้าไป”
สำหรับกู้ชิวอี๋ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้คือการกลับไปหาเย่เฉินและรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง
ทันทีที่นายหญิงใหญ่ได้ยินคำพูดนี้ เธอก็พูดทันทีว่า “อย่างนั้นยายจะไปกับหนู! ตาของหนูรอดพ้นจากความตายมาได้ ฉันรู้สึกโล่งใจแล้ว ยายถือโอกาสตามหนูไปนิวยอร์กและดูคอนเสิร์ตของหนูได้พอดี”
กู้ชิวอี๋ได้ยินดังนั้น ในใจก็รู้สึกตระหนก
เธอรู้ว่าเย่เฉินยังไม่ต้องการพบปะกับคนในตระกูลอาน อีกทั้งเย่เฉินก็สัญญากับเธอเอาไว้แล้วว่าจะไปดูคอนเสิร์ตเพื่อสนับสนุนเธอ
ถ้าคนตระกูลอานเองก็ไป พวกเขาก็จะต้องจำเย่เฉินได้อย่างแน่นอน เพราะเขานั้นมีหน้าตาคล้ายคลึงกับเย่เฉิงซีถึงเก้าส่วน
ดังนั้นเธอจึงจับแขนนายหญิงใหญ่พูดอย่างออดอ้อนว่า “ไอ้หย่า คุณยาย หนูคงทำใจให้คุณยายบินจากฝั่งตะวันตกไปยังชายฝั่งตะวันออกกับหนูกลางดึกไม่ได้หรอกค่ะ อันที่จริงหนูยังมีคอนเสิร์ตหลายที่ในสหรัฐอเมริกา รอให้คอนเสิร์ตที่ชายฝั่งตะวันออกของหนูจบลง จุดหมายแรกบนชายฝั่งตะวันตกก็คือลอสแองเจลิส ตอนนั้นหนูจะไม่เพียงแต่มาเยี่ยมคุณ แต่ยังจะส่งตั๋ว VIP มาให้คุณด้วย ให้คุณไปดูคอนเสิร์ตของหนู เป็นยังไงคะ?”
นายหญิงใหญ่รู้สึกสั่นคลอนไปอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดว่ากู้ชิวอี๋กำลังจะจากไปในชั่วข้ามคืน ในใจของเธอก็รู้สึกตัดใจไม่ลงและอดสะอื้นไม่ได้ “เด็กดี ยายไม่อยากให้หนูไปจริงๆ หนูไม่รู้หรอกว่ายายทนกล้ำกลืนมาหลายปีแล้วไม่ได้บอกใครเลย รอไปหาเฉินเอ๋อเจอแล้ว ก็จะบอกเขาต่อหน้าด้วยตนเอง…