ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4198 ปรับปรุงตัวใหม่
ในเวลานี้ คนในตระกูลเฟ่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามเฟ่ยซานไห่ลงไปชั้นล่างด้วยลิฟต์ เพื่อไปยังห้องโถงที่ชั้นหนึ่ง
ส่วนผู้เก่งกาจวิชาบู๊ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนของตระกูลเฟ่ยก็ทำได้แค่เพียงเดินตามหลังอย่างเงียบๆเช่นกัน และไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไร
พวกเขารู้ดีอย่างยิ่งว่า หลังจากจางชวนไปแล้ว จางชวนที่เป็นคนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็ยังต้องนั่งคุกเข่าอยู่ในร้านอาหารไปตลอดทั้งบ่าย สถานการณ์แบบนี้ พวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของสำนักว่านหลงได้ยังไง
เพียงแต่ เมื่อครู่นี้ว่นพั่วจวินแค่บอกให้บอดี้การ์ดที่มีปืนมอบตัว แต่พวกเขาไม่ได้บอกว่าผู้เก่งกาจวิชาบู๊เหล่านี้ก็จะต้องออกไปด้วย ดังนั้นสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้ก็คือแกล้งทำตัวเป็นลูกหลานตระกูลเฟ่ย
และเมื่อคนตระกูลเฟ่ยลงมาที่ชั้นล่าง พวกเขาถึงพบว่าในห้องโถงที่งดงามราวกับพระราชวังแห่งนี้ มีเพียงว่านพั่วจวินคนเดียวเท่านั้นที่นั่งอยู่
เฟ่ยซานไห่ถูกพยุงไปยังด้านหน้าของว่านพั่วจวิน เขาโค้งคำนับด้วยความเคารพและพูดด้วยความกังวลใจว่า “ประมุขว่าน….ผมเจ้าบ้านตระกูลเฟ่ย เฟ่ยซานไห่…ไม่ทราบว่า…ไม่ทราบว่าพวกเราตระกูลเฟ่ยไปทำให้ท่านประมุขว่านขุ่นเคืองใจที่ใด จนประมุขว่านถึงกับต้องมาเอาเรื่องถึงหน้าประตูแบบนี้…”
ว่านพั่วจวินเหลือบมองเขาและพูดเยาะเย้ย “ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านตระกูลเฟ่ยอย่างนายจะยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป ตระกูลเฟ่ยของพวกนายทำเรื่องเลวร้ายต่อฟ้าดิน อะไรลงไป ในใจของนายน่าจะรู้ดีไม่ใช่หรือไง?”
เฟ่ยซานไห่พูดด้วยความตื่นตระหนก “ประมุขว่าน…ผม…ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าสิ่งที่คุณพูดหมายถึงอะไร แม้ว่าผมเฟ่ยซานไห่จะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ผมก็ยังไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายต่อฟ้าดินใด ๆ เลย … ”
ขณะที่พูดไป จู่ๆเขาก็นึกบางอย่างได้และอธิบายอย่างเร่งรีบ “อ้อใช่ ประมุขว่าน…ก่อนหน้านี้ในตระกูลเฟ่ยของพวกเรามีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เรื่องการสลับอำนาจอยู่บ้าง แต่ผมคิดว่า เรื่องพวกนั้นถือเป็นเรื่องภายในบ้านของตระกูลเรา ต่อให้จะมีบางสิ่งที่ไม่เหมาะสมในเรื่องนี้ แต่นี่ก็ยังห่างไกลจากการทำเรื่องเลวร้ายต่อฟ้าดิน”
ว่านพั่วจวินแค่นเสียงใส่อย่างเย็นชาและพูดว่า “เฟ่ยซานไห่ ดูเหมือนว่านายจะยังไม่รู้จักตัวเองดีพอจริงๆ ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ ลูกพี่ของฉันบอกฉันให้ให้โอกาสนายกลับใจ ถ้านายสามารถอธิบายความผิดของนายออกมาทีละข้อๆได้อย่างชัดเจน อีกเดี๋ยวเขามาแล้ว เขาจะผ่อนปรนในการจัดการนายสักหน่อย แต่นี่นายกลับยังไม่รู้ตัว อย่างนั้นก็ได้แต่รอให้เขาบอกนายแล้วว่านายทำผิดที่ไหน!”
เฟ่ยซานไห่ตกใจสุดขีด เขาไม่คาดคิดว่าว่านพั่วจวินซึ่งเป็นถึงประมุขสำนักว่านหลง จะยังมีลูกพี่อยู่อีก?!
อย่างนั้นลูกพี่ของว่านพั่วจวินเป็นใครกัน?
ขณะคิด จู่ๆด้านนอกก็มีเสียงเฮลิคอปเตอร์คำรามดัง
เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆจอดอย่างช้าๆ บนสนามหญ้าด้านนอก
ประตูห้องโดยสารเปิดออก แย่เฉินกระโดดออกจากเครื่องบินเป็นคนแรกและเดินเข้ามาในห้องโถงที่ชั้นหนึ่ง
ทันทีที่เขาเห็นเย่เฉิน เฟ่ยซานไห่ก็ราวกับถูกฟ้าผ่าไป
“เป็น…เป็นเขางั้นหรือ?!”
เฟ่ยซานไห่ไม่เคยคิดฝันเลยว่า ลูกพี่ที่ว่านพั่วจวินประมุขสำนักว่านหลงเอ่ยถึง จะคือเจ้าคนแซ่เย่นั่น!
สมาชิกคนอื่นๆในตระกูลเฟ่ยก็ตะลึงตาค้างไป โดยเฉพาะเฟ่ยเสวปิงที่ถึงกับขาอ่อนด้วยความกลัว
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากที่ตนพบกับเย่เฉินในครั้งแรก
ในเวลานั้น เขายังคิดว่า เย่เฉินก็เป็นเพียงตัวตลกตัวหนึ่งเท่านั้น
แต่ไม่คาดคิดว่า เขาต่างหากที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมด!
ในเวลานี้ว่านพั่วจวินเพิ่งลุกขึ้นจากโซฟาและพูดกับเย่เฉินด้วยความเคารพว่า “คุณเย่!”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่เฟ่ยซานไห่ซึ่งกำลังตกใจอย่างมากและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไม? นายแปลกใจมากที่เห็นฉันงั้นหรือ?”
เฟ่ยซานไห่รีบพูดด้วยความเคารพอย่างรวดเร็ว “คุณเย่…ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นผมและลูกชายที่มีตาหามีแววไม่จนทำให้คุณขุ่นเคืองอยู่หลายครั้ง ได้โปรดคุณช่วยเห็นแก่อายุที่มากแล้วของผม ให้โอกาสผมได้แก้ตัว…”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “โอ้? ต้องการปรับปรุงตัวใหม่ นายรู้รึเปล่าว่าตัวเองทำผิดที่ตรงไหน?”
“เอ่อ…” เฟ่ยซานไห่ประสานมือเอ่ย “เป็นผมที่ไม่ควรปล่อยเส้นผมบังภูเขา เอ่ยดูถูกคุณไป…คุณเย่…คุณได้โปรดอย่าได้ถือสาคนตัวเล็กๆอย่างผม!”