ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4201 ใจร้อนเกินไป
“ภาระ?!” เฟ่ยเจี้ยนจงชี้ไปที่เขาด้วยความโกรธและถามว่า “ฉันทำงานหนักไปทั้งหมดก็เพื่อตระกูลเฟ่ย ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเฟ่ย!ล้วนเป็นฉันที่หามันมา! ตอนนี้ฉันแก่แล้ว ต้องการใช้เงินบางส่วนเพื่อซื้อชีวิตของฉันต่อไป แต่แกที่เป็นลูกชายกลับไม่ชอบใจ?!”
เฟ่ยซานไห่อธิบายด้วยความตื่นตระหนก “พ่อ…ฉันไม่ได้ไม่ชอบใจ…ผมก็แค่…แค่ไม่อยากให้คุณถูกใครหลอก… คุณบอกว่าคุณต้องการซื้อยาอายุวัฒนะอะไรนั่น…แค่ฟังก็รู้แล้วว่ามันคือเรื่องโกหก ทำไมมันถึงได้มีราคามากขนาดนั้น…”
“บ้าหรือไง!” เฟ่ยเจี้ยนจงกัดฟันแน่นและด่าว่า “เฟ่ยซานไห่ แกรู้ไหมว่าใครเป็นเจ้าของยาอายุวัฒนะนั่น? เขาคือคุณเย่!”
เมื่อเฟ่ยซานไห่ได้ยินดังนี้ เขาก็แตกตื่นจนขวัญหนีดีฝ่อ!
เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า ยาอายุวัฒนะนั่นจะเป็นของเย่เฉิน!
นี่ไม่เท่ากับตนกำลังด่าเย่เฉินอยู่หรือไง?
เมื่อคิดได้ดังนี้ เขารีบคุกเข่าลงกับพื้นและตบหน้าตัวเองอย่างบ้าคลั่ง พร้อมพูดกับเย่เฉินว่า “ขอโทษครับคุณเย่ ผมไม่รู้ว่ายาอายุวัฒนะเป็นของคุณ…ถ้าผมรู้ว่าเป็นคุณล่ะก็ ผมจะต้องให้พ่อจ่ายเงินไปโดยไม่ต้องพูดอะไรแน่…”
เย่เฉินมองเขาอย่างเย็นชา “ไม่ต้องพูด ตบต่อไป!”
เฟ่ยซานไห่ไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระอีก และได้แต่ต้องตบหน้าตัวเองอย่างไม่หยุด
เฟ่ยเจี้ยนจงที่อยู่ด้านหนึ่งเยาะเย้ยอยู่ในใจและแอบคิดว่า “ได้ลูกทรพีครั้งนี้ทำให้เย่เฉินขุ่นเคืองสุดๆแล้ว หากเป็นแบบนี้ ตระกูลเฟ่ยจะต้องกลับมาอยู่ในมือของฉันอย่างแน่นอน!”
ในเวลานี้ แก้มของเฟ่ยซานไห่ถูกตัวเขาเองตบจนบวมเป่งเป็นสีดำม่วง แต่เย่เฉินก็ยังไม่ได้บอกให้เขาหยุด เขาทำได้แค่มองเฟ่ยเจี้ยนจงและเอ่ยอ้อนวอน “พ่อ…คุณได้โปรดขอความเมตตาจากคุณเย่ให้สักครั้งเถอะ…”
เมื่อเห็นลูกชายตนเองลงเลยแบบนี้ เฟ่ยเจี้ยนจงไม่เพียงแต่ไม่ได้รู้สึกปวดใจเลยสักนิด แต่มันกลับยังทำให้ความโกรธแค้นและความเกลียดชังของเขาสูงขึ้นอีกด้วย เขาชี้ไปที่เฟ่ยซานไห่และพูดอย่างเย็นชาว่า “แกยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าพ่ออีกเหรอ หลังจากเรื่องนี้ เราสองคนตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกัน!”
ในเวลานี้ เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นว่า “คุณท่านใหญ่ อย่าเพิ่งรีบพูดจาตัดรอนเกินไป ลูกๆ หลานๆ ของตระกูลเฟ่ยแต่ละคนล้วนสกปรกและโสโครก คุณที่เป็นคุณท่านใหญ่ ก็ยังมีความผิดที่ไม่รู้จักสั่งสอน!”
เฟ่ยเจี้ยนจงตกใจกับน้ำเสียงของเย่เฉินและรีบถามด้วยความเคารพ “คุณเย่ ผมไม่รู้ว่าไอ้สารเลวของตระกูลเฟ่ยคนนี้ไปทำให้คุณขุ่นเคืองเรื่องอะไร ได้โปรดคุณช่วยอธิบายให้กระจ่าง! ผมจะจัดการกับพวกเขาอย่างเป็นกลางและจะไม่ผ่อนปรนแน่!”
เฟ่ยเข่อซินที่ตลอดมาไม่ได้พูดจา เมื่อได้ยินดังนี้ เธอก็ถอนหายใจอยู่ในใจ “คุณปู่…คุณใจร้อนเกินไปแล้ว…คุณเย่ยังไม่ได้ให้คุณเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ยอีกครั้ง ตอนนี้คุณดันมาเล่นคำต่อหน้าคุณเย่ จะต้องไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน…”
ตามที่เฟ่ยเข่อซินคาดเอาไว้ เมื่อเย่เฉินได้ยินเข้า เขาก็ขมวดคิ้วและถามเฟ่ยเจี้ยนจง “คุณจะจัดการอย่างยุติธรรม? ผมบอกว่าจะให้สิทธิ์กับคุณแล้วหรือไง? อย่าลืมว่าตอนนี้คุณไม่ได้เป็นผู้นำตระกูลเฟ่ยอีกต่อไปแล้ว!”
หลังจากนั้น เย่เฉินก็ยกนิ้วชี้ไปยังเฟ่ยซานไห่และเอ่ยเสียงเรียบ “คุณต้องรู้ว่า ตอนนี้ผู้นำตระกูลเฟ่ย ก็คือเขา!”
ในใจของเฟ่ยเจี้ยนจงกระตุกไป
เดิมเขาคิดว่า วันนี้เย่เฉินจะช่วยให้เขาได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลเฟ่ยกลับมาอย่างแน่นอน แต่ไม่คาดคิดเลยว่า การที่เขาดันโอ้อวดความฉลาดออกมาอย่างไม่ทันระวัง จะกลายเป็นการยกหินกระแทกเท้าใส่ตัวเองโดยบังเอิญ
ดังนั้นเขาจึงรีบพูดด้วยความหวาดกลัวว่า “คุณเย่ คุณพูดถูก เป็นผมที่หุนหันเกินไป”
หลังจากพูดจบ เขาก็เสริมอย่างรวดเร็วว่า “คุณเย่ ถ้าลูกหลานในตระกูลเฟ่ยของผมทำอะไรผิดหรือทำให้คุณขุ่นเคืองตรงไหน คุณก็สามารถลงโทษพวกเขาได้เต็มที่! ถ้าเป็นลูกชายของผมทำผิด ผมที่เป็นพ่อก็มีความผิดที่ไม่สั่งสอนเขาด้วย หากเป็นหลานของผมทำผิด เขาในฐานะพ่อและผมในฐานะปู่ก็มีความผิดฐานไม่สั่งสอนเช่นกัน ทั้งตระกูลเฟ่ย ใครทำอะไรผิด ผมก็ล้วนมีความผิดที่ต้องรับผิดชอบ! ผมยินดีรับโทษ!”
เมื่อเย่เฉินได้ยินสิ่งนี้ เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “ดี! ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ อย่างนั้นผมจะให้พวกคุณดูอะไรสักหน่อย หลังจากดูแล้ว ผมอยากฟังความคิดเห็นของคุณ ว่าคุณจะจัดการยังไง!”