ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4202 คุณคิดเห็นอย่างไร?
ในเวลานี้ เฟ่ยเจี้ยนจงรีบโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ประสานมือทั้งสองข้างแล้วพูดว่า “คุณเย่มีคำสั่ง ผมไม่กล้าปฏิเสธ!”
เย่เฉินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จากนั้นก็ปลดล็อกหน้าจอและเปิดหนึ่งในอัลบั้มวิดีโอ ในนั้น มีวิดีโอบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเฟ่ยฮ่าวหยางถูกดาวน์โหลดเอาไว้ล่วงหน้า
จากนั้น เขาก็โยนโทรศัพท์มือถือไปที่เฟ่ยเจี้ยนจงทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณเปิดเอาเองเถอะ!”
พูดจบ เขาก็ชี้ไปที่ลูกหลานของตระกูลเฟ่ยที่อยู่ข้างหลังเขาเหล่านั้นและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทุกคนที่อายุมากกว่า 18 ปีมาดูด้วยกันให้หมด ส่วนพวกที่อายุต่ำกว่า 18 ปีออกไปให้หมดทันที!”
เฟ่ยเจี้ยนจงรีบตอบรับ จากนั้นลูก ๆ หลาน ๆ ของตระกูลเฟ่ยส่วนใหญ่ก็มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเขาอยากรู้อย่างยิ่งถึงสาเหตุที่เย่เฉินต้องถึงกับบุกเข้ามาเอาเรื่องตระกูลเฟ่ยอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้
ส่วนผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเองก็อยากรู้เช่นกัน แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะก้าวเข้าไปดู ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงถอยหนีไปยังส่วนท้ายของห้องโถงอย่างว่าง่าย
บนโทรศัพท์มือถือ แต่ละวิดีโอเป็นเพียงรูปภาพขนาดย่อไซซ์เท่าเล็บมือ นอกจากนี้ยังมีปุ่มกดเล่นอยู่ตรงกลาง ดังนั้นทุกคนจึงมองไม่เห็นว่าวิดีโอเหล่านี้คืออะไร
เฟ่ยเจี้ยนจงไม่ได้คิดอะไรมาก เขากดดูวิดีโอแรกในทันที
ทันทีที่วิดีโอปรากฏขึ้น ก็มีเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังมีเสียงหัวเราะที่ผิดปกติของเฟ่ยฮ่าวหยาง
เมื่อตระกูลเฟ่ยเห็นภาพในโทรศัพท์มือถือ ใบหน้าของพวกเขาแต่ละคนก็ซีดขาว คนหนุ่มสาวหลายคนถึงกับอดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมาแห้งๆ
ในเวลานี้ เฟ่ยเจี้ยนจงตกใจจนขวัญกระเจิง เขาแทบจะจับมือถือไม่อยู่ เฟ่ยเข่อซินเอกก็หันหนีไปทันทีและไม่กล้ามองอีก กรอบตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อง
เฟ่ยซานไห่ เฟ่ยเสวปิงและสมาชิกวัยกลางคนและผู้สูงอายุของตระกูลเฟ่ยต่างก็หวาดกลัว
ภรรยาของเฟ่ยซานไห่ ซึ่งเป็นย่าของเฟยฮ่าวหยาง แค่มองดูมันเพียงกว่าสิบวินาทีก็ถึงกับเขาอ่อนล้มลงไปทันที โชคดีที่ลูกสาวของเธออยู่ที่นั่นและช่วยประคองเธอเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเกรงว่าเธอก็อาจจะหกล้มหัวแตกไปแล้ว
ภรรยาของเฟ่ยเสวปิงซึ่งเป็นแม่ของเฟ่ยฮ่าวหยาง หลังมองดูอยู่สักครู่ก็ปิดตาและร้องไห้ “นี่…นี่ไม่เป็นความจริง…คนคนนั้นไม่ใช่ฮ่าวหยาง… ฮ่าวหยางไม่มีทางทำเรื่องเลวร้ายราวกับปีศาจแบบนี้ได้ …”
เฟ่ยเสวปิงเองก็ทรุดตัวลงเช่นกัน เขาร้องไห้และพึมพำกับตัวเอง “ทำไม…ทำไมเป็นอย่างนี้…ทำไมเจ้าชั่วนี่ถึงได้ทำเรื่องไร้มนุษยธรรมเช่นนี้…”
ความดันโลหิตของเฟ่ยซานไห่เพิ่มขึ้นมา เขาพูดอย่างเงียบ ๆ “สัตว์เดรัจฉาน …ช่างเป็นสัตว์เดรัจฉาน… ”
พูดจบ เขาก็ไม่กล้ามองมันต่อไปอีก และได้แต่หันหน้าไปข้างหนึ่ง
วิดีโอออกอากาศไม่ถึง 30 วินาที และคนวัยกลางคนเหล่านี้ก็ล้วนหันหน้านี้ไม่กล้าดูมันต่อ
เฟ่ยเจี้ยนจงยังคงจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ เขารู้สึกว่าหัวใจของตนเต้นเร็วมากจนหน้าอกของเขาเจ็บปวดขึ้นมา
ภายในเวลาไม่ถึงนาที เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และได้แต่ต้องล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเอ่ยสะอื้นไห้ “คุณเย่… ผม…ผมดูมันไม่ได้อีกแล้วจริงๆ…”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชาว่า “วิดีโอแบบนี้ยังมีอีกมากมาย อย่างน้อยก็หลายสิบตอน เหยื่อของแต่ละตอนล้วนเป็นผู้หญิงไม่ซ้ำกัน”
เฟ่ยเจี้ยนจงพึมพำออกมา “ครอบครัวอับโชค! ครอบครัวของเราอับโชค! คุณเย่ ผมไม่นึกมาก่อนเลยว่าตระกูลเฟ่ยของเราจะมีสวะแบบนี้เกิดขึ้น! ช่างเป็นที่น่ารังเกียจของมนุษย์และสวรรค์! น่ารังเกียจ!”
เย่เฉินมองที่เขาจากนั้นก็แค่นเสียงเยาะเย้ย ก่อนจะหันไปหาเฟ่ยซานไห่และถามอย่างใจเย็น “มา ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลเฟ่ย คุณช่วยบอกผมหน่อย ว่าคุณในฐานะผู้นำตระกูลจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?”
เฟ่ยซานไห่ลังเลไปอยู่บ้างทันที
เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ถ้าพูดให้หนัก ก็ต้องบอกว่าสวะแบบนี้สมควรตายเป็นชิ้นๆ แต่ว่านั่นก็เป็นหลานชายของตัวเอง แล้วตนจะพูดคำเหล่านี้ได้อย่างไร?
แต่ถ้าพูดเบาไปและไม่สาสมกับส่งที่เดรัจฉานคนนี้ได้ทำเอาไว้ อย่างนั้นเย่เฉินก็จะต้องโทษตัวเองอีกครั้ง