ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4203 คุณคิดว่ายังไง?
เขาเองก็ไม่กล้าพูดว่าจะส่งมอบเรื่องทั้งหมดนี้ให้เป็นไปตามการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมทางกฎหมาย แม้ว่าการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมจะช่วยรักษาชีวิตของเฟ่ยฮ่าวหยางได้ แต่มันก็ต้องมาพร้อมกับการเปิดเผยการกระทำทั้งหมดของเขาอย่างสมบูรณ์
ในเวลานั้นชื่อเสียงของตระกูลเฟ่ยก็จะตกต่ำลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และกลายเป็นเป้าหมายของทุกคนในสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นสำหรับเฟ่ยซานไห่ ไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหน ล้วนมีราคาที่ต้องจ่ายอันไม่อาจรับไหวอยู่…
เมื่อเห็นว่าเขาลังเล เย่เฉินก็พูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อพูดไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูด”
ทันใดนั้นเขาก็มองไปที่เฟ่ยเจี้ยนจงและถามอย่างเย็นชาว่า “คุณคือผู้นำตระกูลเฟ่ยคนก่อนหน้า และถือว่าผ่านประสบการณ์มามากมายเช่นกัน ผมขอถามคุณ เรื่องนี้ควรจัดการอย่างไร?”
ในเวลานี้ เฟ่ยเจี้ยนจงเองก็อยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ความคิดของเขาและเฟ่ยซานไห่แทบจะไม่ต่างกัน
เฟ่ยฮ่าวหยางไม่อาจถูกฆ่าได้และก็ไม่สามารถลงโทษสถานเบาได้เช่นกัน อีกทั้งยังไม่สามารถเผยแพร่สู่สาธารณะได้ด้วย
เขาให้คุณค่าของชื่อเสียงตระกูลเฟ่ยมากกว่าใครๆทั้งนั้น นั่นเพราะท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยเขา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความพยายามอุตสาหะของเขา
ดังนั้น หลังจากคิดดูแล้ว เขาก็พูดได้เพียงว่า “คุณเย่ ตระกูลของผมโชคร้ายจริงๆ ที่ให้กำเนิดสัตว์เดรัจฉานแบบนี้ออกมา…ผมยินดีจะจ่ายเงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อชดใช้ให้ครอบครัวของเหยื่อทั้งหมด ส่วนเจ้าสัตว์เดรัจฉานนั่น ผมจะให้อาจารย์หยวนหักมือและขาของเขาด้วยตัวเอง จากนั้นก็ขังเขาไว้ที่บ้านตลอดชีวิต เลี้ยงเขาเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ให้เขาไม่ได้ออกจากบ้านตระกูลเฟ่ยแม้แต่ก้าวเพียงครึ่งก้าว…”
เย่เฉินเย้ยหยัน “ทำไม คุณยังต้องการให้เขาเหลือทางรอดชีวิต?”
เมื่อเห็นสีหน้าเยาะเย้ยของเย่เฉิน เฟ่ยเจี้ยนจงก็ตื่นตระหนกทันที!
ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าตนทำผิดพลาดร้ายแรงอย่างยิ่ง
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ “ฉันมันโง่จริงๆ…เย่เฉินถึงกับทำเรื่องให้ใหญ่โตขนาดนี้เพราะเรื่องของฮ่าวหยาง นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่า เขาไม่มีทางปล่อยให้เย่เฉินรอดชีวิตได้ และจะต้องฆ่าเขาทิ้งแน่เพื่อกำจัดอันตรายต่อผู้คน แต่เมื่อครู่นี้ฉันเอาแค่อยากจะช่วยชีวิตมันเอาไว้ ฉันมันโง่จริงๆ!”
“เย่เฉินจงใจถามฉันว่าจะจัดการกับเขาอย่างไร ก็เพราะต้องการให้โอกาสฉัน เพื่อดูว่าฉันจะแสดงท่าทียังไงออกมา แต่คำตอบของฉันคงทำให้เขาไม่พอใจอย่างยิ่ง…”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของเขาก็ตื่นตระหนกในและโพล่งออกมาทันที “คุณเย่ ผมพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งแล้ว ฮ่าวหยาง เจ้าสัตว์เดรัจฉานคนนี้ได้กระทำความชั่วมากเกินไป สวรรค์ห้ามเมตตา! ถ้าเขายังไม่ตาย ก็คงผิดต่อเด็กสาวไร้เดียงสาเหล่านั้นที่ตายอย่างอนาถในมือของเขา ดังนั้น ผมคิดว่าเขาควรถูกฆ่าทิ้งซะ!”
ทันทีที่เฟ่ยเจี้ยนจงพูดแบบนี้ เฟ่ยเสวปิงก็ตระหนกทันทีและโพล่งคำราม “ไอ้แก่นี่แกกำลังพูดถึงอะไร? ฮ่าวหยางเป็นหลานชายของแกนะ! อีกทั้งเขายังเป็นหลานชายคนโตในสายเลือดเดียวกัน! อีกหน่อยพอแกตายไป เขาก็จะเป็นคนปักธงให้แก! แต่แกกลับปล่อยให้เขาตายเพื่อชดใช้ความผิด จิตใจของแกทำด้วยอะไรกัน!”
เฟ่ยเสวปิงห่วงใยชีวิตและความตายของเฟ่ยฮ่าวหยางมากที่สุด นั่นเพราะอีกฝ่ายเป็นลูกชายของเขา เมื่อได้ยินแบบนี้เข้าเขาก็โกรธมากและเสียสติไปแล้ว
แต่พ่อของเขาเฟ่ยซานไห่ไม่ได้คิดอย่างนั้น
เฟ่ยซานไห่เองก็มองออกถึงความตั้งใจของเย่เฉินแล้วเช่นกัน
เขารู้ว่าเย่เฉินจะไม่ปล่อยให้เฟยฮ่าวหยางรอดไปได้แน่ อีกทั้งยังได้ตัดสินใจที่จะฆ่าเขานานแล้ว เหตุผลที่เขาถามคนตระกูลเฟ่ยขึ้นมาก็เพื่อตอกย้ำเท่านั้น!
ในเวลานี้ความมั่นคงของตระกูลเฟ่ยกำลังเป็นปัญหา หากคิดจะหาทางรอดชีวิตให้ฮ่าวหยาง ก็ช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!
ดังนั้นเขาจึงรีบพูดกับเย่เฉินด้วยความเคารพว่า “คุณเย่ ผมคิดว่า…”
“ไม่ต้องคิดแล้ว!” เย่เฉินไม่รอให้เขาพูดจบก็ขัดจังหวะคำพูดของเขาโดยตรง จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชาว่า “แต่ละคนมีโอกาสที่จะแสดงความคิดเห็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และความคิดเห็นของคุณก็ถูกแสดงออกมาแล้ว”
หลังจากนั้นเขามองไปที่เฟ่ยเข่อซินและถามเสียงเรียบ “คุณหนูเฟ่ย คุณคิดอย่างไร?”