ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4205 วิธีแก้ปัญหาของเฟ่ยเข่อซิน
เมื่อคิดได้แบบนี้ เฟ่ยเข่อซินก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “คุณปู่ ตระกูลเฟ่ยตอนนี้ไม่มีทางเลือกแล้ว เฟ่ยฮ่าวหยางก่อให้เกิดเรื่องใหญ่โตมากขนาดนี้ ไม่ใช่ความตายของเขาจะสามารถแก้ปัญหาได้ ตระกูลเฟ่ยของเราจะต้องมีความรับผิดชอบที่เพียงพอ อีกทั้งเรายังต้องเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะ เพื่อขอโทษเหยื่อและสาธารณชน ในขณะเดียวกันเราต้องจ่ายเงินชดเชยมหาศาลให้กับครอบครัวของเหยื่ออย่างแข็งขันเพื่อแลกกับการให้อภัยจากประชาชน…”
เฟ่ยเสวปิงซึ่งถูกว่านพั่วจวินตบจนกระเด็นไปโพล่งออกมาว่า “ในเมื่อต้องการเปิดเผยต่อสาธารณะ อย่างนั้นก็ควรส่งฮ่าวหยางให้แผนกตุลาการและให้ศาลรัฐบาลกลางตัดสินคดีอาชญากรรมของเขา!”
เฟ่ยซานไห่เองก็ได้สติกลับมาและโพล่งออกมาว่า “ถูกต้อง! เฟ่ยเข่อซิน! เธอมันจิตใจโหดเหี้ยมจริงๆ! ไม่เพียงแต่ต้องการชีวิตของหลานชายตัวเองเท่านั้น แต่ยังคิดจะลากตระกูลเฟ่ยไปสู่ขุมนรกด้วย! ถ้าเกิดเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะอย่างที่เธอพูดจริง ๆ อย่างนั้นทำไมเธอต้องให้ฮ่าวหยางหลานชายของฉันชดใช้ด้วยชีวิตด้วย? ส่งเขาให้ทางการ อย่างมากเขาก็แค่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและไม่มีทางต้องทัณฑ์บน!”
เฟ่ยเข่อซินถามกลับ “พวกคุณเคยคิดบ้างไหมว่าวิธีนี้เป็นไปได้จริง ทำไมคุณเย่ถึงไม่ส่งวิดีโอเหล่านี้ให้ตำรวจสหรัฐฯ โดยตรง? ทำไมจะต้องมาถึงบ้านตระกูลเฟ่ย แล้วให้พวกเราพูดวิธีแก้ปัญหาออกมา?”
ผู้คนต่างตกตะลึงกับคำพูดของเธอ
โดยเฉพาะเฟ่ยเจี้ยนจง ที่ได้สติกลับมาแจ่มชัดทันที
คำพูดของเฟ่ยเข่อซิน ทำให้เขาตระหนักถึงกุญแจสำคัญของปัญหา
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ “ทำไมฉันจึงไม่นึกไปถึงขั้นนี้กัน…ในเมื่อเย่เฉินมาถึงประตู ย่อมแสดงได้ว่าเขาไม่พอใจกับการแก้ปัญหาด้วยวิธีธรรมดาอย่างแน่นอน…”
“ในเวลานี้ ถ้ายังคิดจะพึ่งพาระบบตุลาการของสหรัฐฯ เพื่อรักษาชีวิตของฮ่าวหยาง อย่างนั้นก็พูดได้เพียงว่าพวกเราที่เหลือยังไม่ได้ค้นพบกุญแจสำคัญของเรื่องนี้!”
“ในเมื่อเย่เฉินถึงกับมาหาถึงที่ นี่ย่อมหมายความว่าเขาต้องวางแผนวิธีการจัดการเรื่องนี้เอาไว้แล้ว อีกทั้งสไตล์การกระทำของเขา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของฮ่าวหยาง หรือชื่อเสียงของตระกูลเฟ่ยก็ล้วนไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ทั้งนั้น! นี่ก็เป็นแค่เพียงการทดสอบเพื่อให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นเท่านั้น!”
“ฮ่าวหยางได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงขนาดนี้ เย่เฉินจะพอใจแต่การชดใช้ด้วยชีวิตได้ยังไงกัน? นี่ช่างน่าขัน แถมเมื่อกี้นี้ฉันยังคิดแค่คิดว่าจะใช้เงินเพื่อปิดเรื่องลงไป นี่ถือเป็นการยั่วยุเย่เฉินชัดๆ แล้วเย่เฉินจะยอมได้ยังไง…”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองเฟ่ยเข่อซินและแอบคิดกับตัวเองว่า “ดูเหมือนว่า ยังคงเป็นเข่อซินที่มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนกว่า…”
ในเวลานี้เฟ่ยเข่อซินกล่าวต่อ “ทุกท่าน…เรื่องนี้แม้ว่าความผิดพลาดจะเกิดจากเฟ่ยฮ่าวหยางเพียงคนเดียว แต่พวกคุณเคยคิดหรือไม่ว่า ทำไมเขาถึงได้สามารถก่ออาชญากรรมที่ไร้มนุษยธรรมได้มากมายขนาดนั้นแถมยังหนีรอดไปได้? สิ่งที่เขาพึ่งพา ไม่ใช่ทรัพยากรที่แข็งแกร่ง เงินทุน และสายสัมพันธ์ของตระกูลเฟ่ยหรือไงกัน?”
“ไม่อย่างนั้น หากเขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง อาศัยความสามารถของตัวเอง ต่อให้เขาคิดจะทำเรื่องชั่วช้ามากมายขนาดไหนก็คงไม่มีโอกาสแน่! แถมยังถึงขึ้นอาจถูกเปิดโปงและจับกุมไปนานแล้วด้วยซ้ำ!”
“เป็นเพราะความแข็งแกร่งและบารมีของตระกูลเฟ่ยที่ช่วยให้เขาปกปิดความชั่วช้าของตัวเองได้ และปล่อยให้เขาก่ออาชญากรรมครั้งแล้วครั้งเล่าขึ้นอีก แต่ก็ยังหลบรอดไปได้เช่นเดียวกัน!”
“ดังนั้น จากมุมมองนี้ ตระกูลเฟ่ยไม่อาจผลักความรับผิดชอบนี้ไปได้! ทุกคนในตระกูลเฟ่ย ล้วนแต่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้!
“และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไม ในเวลานี้ สิ่งที่เราต้องทำจริงๆ คือการมองตรงไปที่ความผิดพลาดของตัวเรา! และต้องเป็นฝ่ายริเริ่มในการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดนี้ให้สาธารณชนทราบทั้งหมด!”
“นอกจากนี้ พวกเรายังต้องขอโทษอย่างจริงใจและชดเชยอย่างแข็งขันด้วย! หากเราสามารถแลกมาด้วยการให้อภัยของผู้คนได้ อย่างนั้นก็ถือว่าเราโชคดี แต่ถ้าผู้คนยังไม่ยินดีให้อภัย พวกเราก็ทำได้เพียงแบกรับผลที่ตามมาทั้งหมดด้วยตัวเอง