ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4211 ยากจะหนีพ้นความผิด
ดังนั้น เฟ่ยเจี้ยนจงจึงรอท่าทีจากเย่เฉินมาโดยตลอด ไม่อย่างนั้น ชายชราผู้โดดเดี่ยวอย่างเขา คงไม่สามารถยึดอำนาจผู้นำตระกูลกลับมาได้เพียงแค่การสนับสนุนจากหลานสาวเท่านั้น
ขณะที่พวกเขากำลังปิดบังความคิดที่ชั่วร้าย จู่ๆเย่เฉินก็เปิดปากพูดกับพวกเขาทันทีว่า “พวกคุณสองคน คนหนึ่งคือผู้นำของตระกูลเฟ่ยคนปัจจุบัน อีกคนคือผู้นำคนก่อน เฟ่ยฮ่าวหยางได้กระทำเรื่องชั่วช้าเดรัจฉานไปมากมายภายใต้จมูกของพวกคุณ พวกคุณที่เป็นผู้นำตระกูล ล้วนก็มีส่วนรับผิดชอบต่อการดูแลที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นผมเลยอยากรู้ว่า ตอนนี้พวกคุณมีคำพูดอะไรไหม?”
เฟ่ยซานไห่ตกใจ เขารีบพูดว่า “คุณเย่ ผมเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ยมาไม่ถึงครึ่งเดือน ความรับผิดชอบนี้ไม่ควรตกอยู่กับผม ได้โปรดคุณช่วยแยกแยะด้วย!”
พูดจบ เขาก็มองไปที่เฟ่ยเจี้ยนจงอีกครั้งและพูดกับเย่เฉินว่า “คุณเย่ ในช่วงชีวิตกว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาของฮ่าวหยาง เวลากว่า 99% คือช่วงเวลาที่พ่อของผมเฟ่ยเจี้ยนจงเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ย ดังนั้นเรื่องนี้เขาจึงยากจะหนีพ้นความผิด!”
เมื่อเฟ่ยเจี้ยนจงแบบนี้ การแสดงออกของเขาก็น่าเกลียดถึงขีดสุด
ลูกชายของตนโยนความผิดมาให้ แน่นอนว่าเขาโกรธอย่างมาก อีกทั้งเขายังรู้ว่าเย่เฉินกำลังหมายถึงอะไร เฟ่ยฮ่าวหยางไม่ได้ก่อเรื่องนี้ขึ้นเพียงครั้งสองครั้ง แต่ทำมาเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน เวลาหลายปีนี้ตนเองนั่งในตำแหน่งผู้นำมาโดยตลอด แต่ดเขากลับไม่รู้เรื่องที่เฟ่ยฮ่าวหยางทำลงไปเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นตนเองย่อมมีความผิดที่ยากจะผลักภาระออกไปได้
ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงก้าวไปข้างหน้าแล้วประสานมือคำนับ ก่อนจะพูดว่า “คุณเย่ ซานไห่พูดถูก เรื่องนี้ผมมีความผิดยากจะหนีพ้นจริงๆ คุณเย่ได้โปรดลงโทษ!”
เย่เฉินโบกมือ: “ผมจะไม่ลงโทษคุณแล้ว ยังไงเสียคุณก็อายุปู่นนี้แล้ว ต่อให้ฆ่าคนไป ศาลก็ไม่ตัดสินคุณแล้ว”
เฟ่ยเจี้ยนจงคลายความเคร่งเครียดลงไปทันที เขารีบโค้งคำนับอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “ขอบคุณคุณเย่ที่มีเมตตา!”
เย่เฉินหันกลับมามองเฟ่ยซานไห่แล้วพูดเรียบๆว่า “เฟ่ยซานไห่ ต่อให้คุณเพิ่งจะเป็นผู้นำตระกูลมาได้ครึ่งเดือน แต่คุณก็ยังต้องแบกรับความรับผิดชอบในครึ่งเดือนไปด้วย ในเวลานี้ ไม่ใช่ว่าโยนความผิดให้พ่อของคุณแล้วจะหนีไปได้อย่างราบรื่น”
เฟ่ยซานไห่รีบพูดว่า “คุณเย่พูดถูก…ผมต้องรับผิดชอบด้วยจริงๆ… ได้โปรดลงโทษผม…”
เย่เฉินพูดเสียงเรียบ “อย่างที่คุณพูดเมื่อกี้ การดูแลที่ไม่เหมาะสมคือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ พ่อของคุณมีส่วนอยู่ 99% ส่วนคุณคิดเป็น 1% และแน่นอนว่า 1% ของนาย ย่อมไม่มีอะไรให้ตามเอาเรื่อง”
เมื่อเฟ่ยซานไห่ได้ยินแบบนี้ เขาก็พูดด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณคุณเย่ ขอบคุณคุณ! ความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของคุณผมจะไม่มีวันลืม!”
เย่เฉินถอนหายใจ พยักหน้าอย่างสงบและพูดว่า “แม้ว่าผมจะไม่สามารถไปตามเอาผิดอะไรกับหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกคุณสองคนได้ แต่ในความคิดของผม คุณทั้งคู่ต่างก็มีจุดด่างพร้อยในการจัดการตระกูลเฟ่ย หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยออกไป ตระกูลเฟ่ยต้องการคนที่ขาวสะอาดปรากฏขึ้นมาอย่างเร่งด่วนเพื่อนำตระกูลเฟ่ยออกจากหมอกควัน ดังนั้น จากนี้ไปพวกคุณทั้งสองคนไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ยแล้ว”
เมื่อทั้งสองได้ยินแบบนั้น หัวใจของพวกเขาก็เต้นรัวในทันใด
ใครจะไปคิดว่า วินาทีก่อนหน้านี้พวกเขายังรู้สึกซาบซึ้งต่อความเมตตาของเย่เฉินอยู่เลย แต่วินาทีนี้เย่เฉินกลับเอ่ยประโยคแบบนี้ออกมา
เฟ่ยซานไห่อดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมา “คุณเย่…อย่างที่คุณพูดเมื่อกี้ ความรับผิดชอบของผมมีเพียง 1% ซึ่งแทบจะนับอะไรไม่ได้เลย นี่ไม่สมควรนับว่าเป็นจุดด่างพร้อยนี่ครับ?”
เย่เฉินขมวดคิ้วและถามว่า “ทำไม? ร้อยละหนึ่งก็ไม่ถือเป็นจุดด่างพร้อยแล้วหรือไงกัน? นอกจากนี้ คุณคิดว่าคุณมีจุดด่างพร้อยเพียงแค่เรื่องนี้หรือไง? เฟ่ยซานไห่ อย่าลืมว่าตอนแรกคุณยึดตำแหน่งของพ่อตัวเองมา แถมยังส่งคนไปตามฆ่าเขาทุกที่ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันให้สำนักว่านหลงคุ้มครองชีวิตของเขา ป่านนี้เขาคงถูกคุณฆ่าตายไปแล้ว! หรือคุณจะลองเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปดูแล้วถามประชาชนในสหรัฐอเมริกาดูว่าพวกเขาคิดอย่างไร”