ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4219 แผนเจ็บตัว
ความสนใจของจางชวนล้วนไปอยู่ที่เย่เฉิน เมื่อจู่ๆได้ยินหยวนจื่อซูเอ่ยพูด เขาก็ค่อยพบว่าศิษย์พี่ของตนกลับมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงดูเหมือนเด็กที่น้อยเนื้อต่ำใจและเจอเข้ากับพ่อแม่ก็มิปาน เขาร้องไห้และพูดว่า “ศิษย์พี่หยวน…ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้วศิษย์พี่หยวน … ”
หยวนจื่อซูรีบไปข้างหน้าเพื่อช่วยประคองเขาและพูดอย่างปวดใจ “ศิษย์น้องจาง ทำไมนายถึงไม่มีพลังวิชาแล้ว?!”
จางชวนกล่าวอย่างเสียใจว่า “ศิษย์พี่คงไม่รู้ว่า ตอนเที่ยงวันนี้ คุณเย่มาที่บ้านเพื่อจัดเลี้ยง ผมมีตาหามีแววไม่ กล้าทำตัววางอำนาจบาตรใหญ่ต่อหน้าคุณเย่ ดังนั้นคุณเย่เลยทำลายพลังวิชาของผมไป และให้ผมคุกเข่าอยู่ในร้านอาหารมาจนถึงตอนนี้…”
พูดจบ เขาก็ค่อยนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้และโพล่งออกมาว่า “ศิษย์พี่ คุณเย่บอกว่าอีกเดี๋ยวจะมีคนมาสอนบทเรียนให้ผมทีหลัง ที่หมายถึงคงไม่ใช่ศิษย์พี่หรอกนะ…”
หยวนจื่อซู ตกใจมาก
เขารู้ว่าเย่เฉินแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แข็งแกร่งมากจนไม่อาจหยั่งถึงได้ แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าเย่เฉินจะทำลายพลังวิชาของจางชวนได้โดยตรง
สิ่งที่ทำให้เขายิ่งเหลือเชื่อก็คือแม้ว่าจางชวนจะไม่มีพลังวิชาแล้ว แต่เส้นลมปราณในตัวเขาก็ยังคงดีอยู่ และไม่มีร่องรอยของการแตกสลาย ซึ่งนี่หมายความว่า พลังวิชาของจางชวนไม่ได้ถูกทำลายด้วยพลังรุนแรง
แค่เพียงเรื่องนี้ ก็ทำให้หยวนจื่อซูตะลึงงันไปแล้ว
การทำลายพลังวิชาของคนๆหนึ่งด้วยความรุนแรง อันที่จริงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขอแค่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ คุณก็สามารถล้มเขาได้และทำลายเส้นลมปราณทั้งหมดของเขาทิ้ง
นี่เท่ากับการทำลายเส้นเอ็นของคนคนหนึ่ง ที่เป็นไปอย่างง่ายดายและหยาบกระด้าง
อย่างไรก็ตาม วิธีของเย่เฉินนี้มาในลักษณะที่แปลกกว่านั้น
เส้นลมปราณนั้นยังไม่บุบสลาย แต่พลังวิชากลับถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์ ซึ่งนี่ทำให้หยวนจื่อซูรู้สึกราวกับว่าเย่เฉินได้ผนึกพลังวิชาของจางชวนไว้อย่างสมบูรณ์ด้วยพลังบางอย่าง
หากเย่เฉินมีความแข็งแกร่งอย่างนี้จริง ๆ อย่างนั้นเขาและนักบู๊คนอื่นๆ ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเย่เฉินอีกต่อไป
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของเขาก็ยิ่งตื่นตะลึง
ในเวลาเดียวกัน เขาเองก็อยากจะร้องขอความเมตตาให้ศิษย์น้องที่น่าสงสารของเขาโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขานึกถึงสิ่งที่จางชวนเพิ่งพูด เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่า ในเมื่อเย่เฉินให้ตนสอนบทเรียนศิษย์น้องจางแทนเขา อย่างนั้นตนเองก็ไม่สามารถขอความเมตตาจางเย่เฉินโดยตรงได้
ดังนั้นเขาจึงมองไปที่จางชวนและตบหน้าเขา ก่อนจะตะโกนอย่างโกรธจัด “จางชวน นายกล้าดียังไง! แม้แต่คุณเย่ก็ยังกล้าไปวางอำนาจใส่! ไม่รู้จักประเมินตัวเลยหรือไงกัน?!”
จางชวนถูกฝ่ามือนี้ของศิษย์พี่ตนทำให้ตะลึงไป แต่ว่า เขาก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว ตนเองไปหาเรื่องเย่เฉิน หากคิดจะหนีรอดปลอดภัยเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้เขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เย่เฉินพอใจ
ศิษย์พี่ตบหน้าตัวเองก็เพื่อให้คำอธิบายต่อเย่เฉิน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบเอ่ยด้วยความสำนึกเสียใจว่า “ศิษย์พี่ ผมผิดไปแล้ว…เป็นผมที่มีตาหามีแววไม่จนทำให้คุณเย่ต้องขุ่นเคือง ศิษย์พี่ได้โปรดลงโทษ…”
หยวนจื่อซูตบหน้าเขาอีกครั้งและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แน่นอนว่าฉันจะต้องลงโทษนายแน่! คนอย่างนาย จะให้คุณเย่มาลงมือเองหรือไงกัน?”
พูดจบ สายตาของเขาก็เหลือบมองเย่เฉินอย่างเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าเย่เฉินยังคงเย็นชาและไม่เคลื่อนไหว เขาก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันและวิ่งไปข้างหน้าเพื่อเตะจางชวนลงไปที่พื้น ก่อนจะด่าอย่างโกรธเคือง “วันนี้ ฉันจะสอนบทเรียนให้คนสารเลวตาบอดอย่างนายแทนคุณเย่เอง! ”
พูดจบ เขาก็คว้าจางชวนขึ้นมาและตบหน้าอีกฝ่ายไปติดๆ ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง เสียงฝ่ามือก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนใบหน้าของจางชวนบวมช้ำ
จางชวนถูกตบหน้าไปติดๆแต่แทนที่จะกล้าที่จะโกรธ เขากลับสะอื้นไห้อย่างนอบน้อม “ศิษย์พี่พูดถูก เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่จริงๆ ทั้งหมดเป็นเพราะผมมันไม่มีตา ผมมันไอ้สารเลว ผมสมควรตาย…”
เย่เฉินไหนเลยจะมองไม่ออกถึงแผนเจ็บตัวของทั้งสองคนนี้ เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “พอแล้ว! พวกนายพี่น้องไม่ต้องมาเล่นละครต่อหน้าฉันแล้ว! หยวนจื่อซูที่เป็นนักบู๊เจ็ดดาวตบคนพิการไปตั้งหลายรอบขนาดนี้ แม้แต่ฟันซี่เดียวกลับยังไม่หลุดออกมา เขาคิดว่าฉันเย่เฉินเป็นคนโง่ให้หลอกหรือไง?” “