ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4223 ได้สิ่งที่ต้องการ
และเย่เฉินผู้ที่ได้รับเงินมาแล้วก็รักษาสัญญาของเขาเช่นกัน เขาหยิบยาอายุวัฒนะออกมาและแบ่งออกเป็นสี่ส่วนต่อหน้าเฟ่ยเจี้ยนจง
เฟ่ยเจี้ยนจงมองไปที่ยาอายุวัฒนะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังจบแทบจะอยากกระโดดออกจากดวงตาของตนเพื่อไปโอบกอดยาอายุวัฒนะที่ตนฝันหาเอาไว้
คนอื่นๆในตระกูลเฟ่ยก็ล้วนจ้องมองตาโต พวกเขาทั้งหมดก็ได้ยินเกี่ยวกับผลลัพธ์น่ามหัศจรรย์ของยาอายุวัฒนะแล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงอยากเห็นด้วยตาตัวเองว่ายาเม็ดนี้มีมนต์ขลังจริง ๆ หรือไม่
หลังจากแยกส่วนยาอายุวัฒนะแล้ว เย่เฉินก็เก็บขึ้นมาสามส่วน จากนั้นก็มอบส่วนที่เหลือให้เฟ่ยเข่อซินและกล่าวว่า “คุณหนูเฟ่ย ตอนนี้ยาอายุวัฒนะหนึ่งในสี่ส่วนเป็นของคุณแล้ว จะใช้มันยังไงทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณเอง ”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณคุณเย่!”
หลังจากนั้นเธอหันกลับมามองคุณปู่ของเธอเฟ่ยเจี้ยนจง และยื่นยาอายุวัฒนะให้เขาโดยไม่ลังเลและกล่าวด้วยความเคารพว่า “คุณปู่ คุณเป็นรากเหง้าของตระกูลเฟ่ย หากไม่มีคุณก็ไม่มีตระกูลเฟ่ยในตอนนี้ ดังนั้นยาอายุวัฒนะหนึ่งในสี่ส่วนนี้คุณสมควรได้รับมันอย่างไม่ต้องสงสัย…โปรดรับมันเอาไว้!”
เฟ่ยเจี้ยนจงเอื้อมมือออกไปเพื่อรับยาอายุวัฒนะมา ในใจของเขาทั้งตื่นเต้นและซาบซึ้ง
ตื่นเต้นที่ในที่สุดคนเองก็ได้ยาอายุวัฒนะมาแล้ว และสามารถยืดเวลาชีวิตออกไปได้
และซาบซึ้งที่หลานสาวของตน ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ แม้ว่าเธอจะกุมอำนาจใหญ่ไว้แล้ว แต่เธอก็ยังเคารพตนเองเหมือนเก่า ในขณะเดียวกันก็ไว้หน้าเขาและหวังดีต่อเขาจากใจจริง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ การสูญเสียตำแหน่งผู้นำตระกูลเฟ่ยไป สำหรับเขาแล้วมันก็ไม่มีผลเสียอะไรกับเขาอีก
ตรงกันข้าม เขารู้สึกว่าต่อจากนี้ไป เขาจะสามารถเกษียณตัวเองไปอยู่หลังม่านได้อย่างสมบูรณ์ กินยาอายุวัฒนะและร้องรำทำเพลง อย่างน้อยๆก็สามารถอยู่อย่างมีความสุขไปได้สิบหรือยี่สิบปี
ถ้าหลานสาวสุดล้ำค่าของตนยังพยายามอย่างไม่ลดละและช่วยให้ตนได้รับยาอายุวัฒนะอีกสักเม็ด อย่างนั้นตนก็คงไม่มีปัญหาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสามสิบหรือสี่สิบปี
สำหรับตำแหน่งผู้นำตระกูลเฟ่ย ก็ไม่มีอะไรให้ต้องอาลัยอาวรณ์แล้ว
เมื่อคิดถึงจุดนี้ อารมณ์ของเฟ่ยเจี้ยนจงก็เบิกบานขึ้นในทันใด
ความรู้สึกของการคิดตกอย่างกะทันหันนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้หัวใจของเขาถูกเปิดออกเท่านั้น แต่ยังแทบจะเป็นการทำลายห้องภายในใจเหล่านั้นของเขาไปอีกด้วย
ดังนั้น เขาจึงกินยาอายุวัฒนะหนึ่งในสี่ส่วนเข้าไปในปากอย่างไม่ต้องคิด เขาหลับตาลงและใช้ใจสัมผัสถึงพลังพิเศษของยาอายุวัฒนะอย่างระมัดระวัง
แม้ว่าจะเป็นเพียงหนึ่งในสี่ส่วนของยาเม็ด แต่ผลก็ยังชัดเจนอย่างยิ่ง
เฟ่ยเจี้ยนจงรู้สึกว่าร่างกายของเขาดูเบาสบายขึ้นมากในคราวเดียว แต่เดิมร่างกายที่เหนื่อยล้าและจิตใจที่หดหู่ของเขาได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอย่างมากในทันที
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับได้ย้อนกลับไปเมื่อสองสามปีก่อน
ในช่วงวัยนี้ของเขา ตนล้วนรู้สึกว่าสุขภาพของตัวเองแย่ลงกว่าเดิมทุกวัน ดังนั้น จู่ๆก็ฟื้นคืนความอ่อนเยาว์มาหลายปี นี่ไม่เพียงทำให้สีหน้าและจิตวิญญาณรวมถึงความแข็งแกร่งทางร่างกายของเฟ่ยเจี้ยนล้วนฟื้นตัวขึ้นมาในทันที
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของคุณท่านเฟ่ยดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนในตระกูลเฟ่ยแต่ละคนก็ถึงกับตื่นตะลึงจนพูดไม่ออก
โดยเฉพาะเฟ่ยซานไห่ เมื่อเขาเห็นว่ายาอายุวัฒนะหนึ่งในสี่ส่วนมีผลขนาดนี้ก็อดทอดถอนใจไม่ได้ “ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณท่านยอมทุ่มเงินกว่า 2 แสนล้านเพื่อซื้อยาอายุวัฒนะ นี่แค่เป็นเพียงหนึ่งในสี่ส่วนเท่านั้น ถ้าเขากินยาได้ครบเม็ด ก็คงจะอ่อนลงไปกว่า 20 ปีเลยไม่ใช่หรือ? ถ้าเป็นอย่างนั้น เกรงว่าก็คงมีอายุพอๆกับฉันแล้ว…”
ทันใดนั้น เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า “ถ้าคุณท่านยังมีโอกาสได้รับยาอายุวัฒนะมากกว่านี้ อย่างนั้นฉันคงตงตายต่อหน้าเขาแน่…”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฟ่ยซานไห่ก็รู้สึกหดหู่อยู่บ้าง
เขารู้ว่า ตอนนี้เขายอมแพ้ไปแล้ว และยาอายุวัฒนะพวกนี้ก็คงไม่มีวาสนากับเขา
ในเวลานี้ เฟ่ยเจี้ยนจงซาบซึ้งจนเต็มไปด้วยน้ำตา ในที่สุดเขาก็ได้ยาอายุวัฒนะ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความตายอีกแล้ว
เขาตื่นเต้นมากจนร้องไห้เงียบๆ เป็นเวลานานก่อนจะลืมตาขึ้นมองไปที่เย่เฉิน และเอ่ยสะอื้นด้วยความตื้นตันว่า “กตัญญูและพูดว่า “คุณเย่ ขอบคุณสำหรับความเมตตาของคุณ! ผมจะจำมันไว้ตลอดชีวิต!”
เย่เฉินโบกมือ เขาชี้ไปที่เฟ่ยเข่อซินและพูดว่า “ต้องขอบคุณหลานสาวของคุณต่างหาก เธอให้ยาอายุวัฒนะกับคุณ”
เฟ่ยเจี้ยนจงพยักหน้า “ผมเข้าใจ!”
พูดจบ เขาก็หันกลับมาและพูดกับเฟ่ยเข่อซินอย่างรวดเร็ว “เข่อซิน…ขอบคุณเธอ … ”
เฟ่ยเข่อซินรีบพูดว่า “คุณปู่ คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร พวกนี้เป็นหน้าที่ของหนู!”
เฟ่ยเจี้ยนจงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “เด็กดี ปู่ไม่ได้รักใคร่เอ็นดูเธอโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ … ”
เย่เฉินมองดูเวลาแล้วพูดว่า “นี่ก็สายแล้ว ผมยังต้องกลับไปที่พรอวิเดนซ์ คืนนี้พวกคุณก็จัดการเรื่องภายในให้ดีเถอะ พรุ่งนี้เช้าก็ประกาศอย่างเป็นทางการให้ทุกคนในสังคมรับรู้ ผมจะไปรอที่หน้าทีวี เพื่อดูผลงานของคุณ!”