ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4228 คดีสะเทือนขวัญ
คำพูดของตำรวจทำให้ทุกคนรวมทั้งหลี่ญ่าหลินรู้สึกประหม่าโดยไม่รู้ตัว
หลี่ญ่าหลินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเร่งเขา “เกิดเรื่องใหญ่อะไรกันแน่ รีบพูดมาให้ชัดเจน!”
ตำรวจพูดด้วยท่าทางตกใจ “เป็นวิดีโอ! มีคนปล่อยวิดีโอจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ต เนื้อหาของวิดีโอเหล่านั้น…เลวร้ายอย่างมากจริงๆ…ตอนนี้บนโลกอินเทอร์เน็ตกำลังระเบิดขึ้นแล้ว!”
หลี่ญ่าหลินถามออกมาว่า “เนื้อหาของวิดีโอเกี่ยวกับอะไรกันแน่?!”
ตำรวจกลืนน้ำลายของเขาแล้วพูดอย่างแหบแห้ง “ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับเฟ่ยฮ่าวหยาง…เนื้อหาทั้งหมดเกี่ยวกับการทรมานผู้หญิงทุกรูปแบบของเขา… แม้ว่าจะมีการเบลอใบหน้าของเหยื่อ แต่ก็ยังสามารถระบุได้ว่ามีเหยื่ออย่างน้อย 20 คนผ่าน ลักษณะเฉพาะตัวอื่นๆ…”
“อะไรนะ?!” หลี่ญ่าหลินตกตะลึง
เฟ่ยฮ่าวหยางจะต้องเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ จุดนี้เขาได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้ว แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเรื่องอื้อฉาวนั้นจะใหญ่โตขนาดนี้!
ในเวลานี้ ผู้ใต้บังคับบัญชายื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาและพูดว่า “นักสืบหลี่ คุณดูตัวเองด้วยเถอะ…”
หลี่ญ่าหลินรับโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและเปิดวิดีโอหนึ่งในนั้นอย่างลวกๆ หลังมองดูมันได้เพียงไม่กี่วินาที ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ เขาเอ่ยพึมพำ “นี่เป็นคดีใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ…”
เขารีบถามทันทีว่า “พวกนายได้ตรวจสอบแล้วหรือยังว่าใครเป็นคนปล่อยออกมา?”
“ตรวจสอบแล้วครับ” ตำรวจตอบว่า “เราขอให้คนตรวจสอบที่อยู่ IP ของพวกเขาแล้วและพบว่า… พบว่า…”
เมื่อเห็นตำรวจอึกอัก หลี่ญ่าหลินก็ตะโกนอย่างโมโหทันที “พูดมาเร็วเข้า!”
ตำรวจได้แต่ฝืนพูดไปว่า “เรียนนักสืบหลี่ ที่อยู่ IP ที่พวกเราพบก็คือที่นี่”
หลี่ญ่าหลินขมวดคิ้วและถามว่า “นายหมายถึงอะไร? อีกฝ่ายอยู่ในนิวยอร์กหรือไง?”
“ไม่ใช่ครับ…” ตำรวจส่ายหัว เขาเอื้อมมือดึงหลี่ญ่าหลินออกมาข้าง ๆ แล้วกระซิบเสียงเบา “นักสืบหลี่ อีกฝ่ายหนึ่งอยู่ที่บ้านตระกูลเฟ่ย!”
“เป็นไปได้ยังไง…” หลี่ญ่าหลินเบิกตากว้างแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบเช่นกันว่า “วิดีโอพวกนี้จะต้องถูกส่งมาจากพวกลักพาตัว แน่ พวกคนลักพาตัวพวกนี้ฉลาดอย่างมาก เบาะแสทั้งหมดถูกปกปิดไว้อย่างระมัดระวัง พวกเขาจะปล่อยให้มีเบาะแสใหญ่หลุดรอดออกมาได้ยังไง…”
หลี่ญ่าหลินไม่รู้ว่าในเวลานี้ บอดี้การ์ดของตระกูลเฟ่ยทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นทหารของสำนักว่านหลงไปแล้ว อีกทั้งตามคำสั่งของเย่เฉิน พวกเขาก็ไม่สนใจที่จะใช้แฮ็กเกอร์ใด ๆ พวกเขาใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตของตระกูลเฟ่ยในบ้านตระกูลเฟ่ยเพื่ออัปโหลดและเผยแพร่วิดีโอโดยตรง
ตำรวจเองก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ผมคิดว่าพวกเขาจงใจใช้วิธีทางเทคนิคเพื่อเปลี่ยนที่อยู่ IP ของพวกเขาให้เป็นที่ตระกูลเฟ่ย”
หลี่ญ่าหลินอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโมโห “นี่มันยุคไหนแล้ว ยังมีคนต้องการใช้วิธีการรุมประชาทัณฑ์มาสร้างความยุติธรรมแทนสวรรค์อยู่อีก ในเมื่อมีหลักฐานแล้ว ทำไมไม่ส่งเรื่องให้ตำรวจโดยตรงล่ะ!”
ตำรวจเองก็อึดอัดอย่างมากและพูดว่า “หัวหน้า…พวกเราทั้งคู่เป็นชาวจีน บอกตามตรง คุณเชื่อวิธีที่พวกลิเบอร่านให้ความเคารพหรือไม่? พิจารณาจากสิ่งที่เฟ่ยฮ่าวหยางทำในวิดีโอ ถ้าเขาถูกส่งตัวให้ตำรวจ เขาย่อมไม่ตายอย่างแน่นอน คนประเภทนี้ ถ้าเขาไม่ตายแล้วจะระงับความโกรธของประชาชนได้ยังไงกัน?”
ในเวลานี้หลี่ญ่าหลินพูดไม่ออกไปแล้ว
เขาแค่รู้สึกว่าสิ่งที่คนลึกลับได้ทำอยู่เบื้องหลังทั้งหมด เป็นการโจมตีอย่างใหญ่หลวงต่อหน้าตาของเขาในฐานะนักสืบชาวจีน
แต่เมื่อเขาสงบลงและวิเคราะห์เรื่องนี้ เขาก็รู้สึกว่าขยะมนุษย์อย่างเฟ่ยฮ่าวหยาง สมควรถูกกำจัดทิ้งให้หมดสิ้นด้วยวิธีการดั้งเดิมถึงจะเหมาะสมที่สุด มิฉะนั้นด้วยทรัพยากรทางการเงินของเขา เขาก็จะยังสามารถมีชีวิตเหมือนจักรพรรดิในคุกได้อยู่ดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดว่าก่อนที่ตนเองจะเกษียณกลับมีคดีใหญ่มากขนาดนี้เกิดขึ้นมา และทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
ในเวลานี้ ลูกน้องของเขาเองก็ยังพูดอย่างเศร้าใจว่า “หัวหน้า ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมพวกเขาถึงฆ่าคนไปมากมาย แต่ระยะนี้เรากลับไม่ได้รับเบาะแสเกี่ยวกับการหายตัวไปของเด็กสาวรุ่นเยาว์ขนาดนี้เลย? เหมือนกันว่าไม่มีรายงานการหายตัวไปของหญิงสาวในนิวยอร์กในเร็วๆ นี้เลยสักนิด…”