ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4240 จับเบาะแสได้แล้ว
คำพูดของหลี่ญ่าหลินทำให้อานโฉงชิวต้องตกตะลึงไป
เขาเริ่มที่จะคิดถึงความสมเหตุสมผลของเรื่องนี้ขึ้นมาในใจแล้วเหมือนกัน
คิดไปคิดมา เขาก็รู้สึกว่าทัศนคติของหลี่ญ่าหลินนั้นถูกต้อง
ถ้าหากทั้งหมดนี้เป็นความบังเอิญ ถ้าอย่างนั้นคุณท่านก็คงจะใช้คำว่าโชคดีมาบรรยายไม่ได้แล้ว พระเจ้าช่วยปกป้องคุ้มครองจริงๆเลย
อีกทั้งจุดเชื่อมต่อเวลาของกู้ชิวอี๋นั้นดีมากเกินไปแล้วจริงๆ
ถ้าหากเธอช้าไปอีกสิบกว่านาที หากสมองของคุณท่านขาดออกซิเจนจนสมองตาย ถ้าอย่างนั้นเทพเซียนก็อาจจะช่วยกลับมาไม่ได้แล้วเสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้แล้ว จู่ๆคืนนี้เธอก็บินไกลขนาดนี้ไปลอสแอนเจลิสเพื่อเยี่ยมเยียน ก็ดูคาดไม่ถึงอยู่จริงๆเหมือนกัน
ถึงอย่างไร ระยะห่างสี่พันกว่ากิโลจากฝากฝั่งทะเลตะวันออกถึงตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ระยะห่างนี้ ไกลเสียยิ่งกว่าเมืองโม่เฉิงที่อยู่ทางตอนเหนือสุดไปจนถึงเกาะไหหลำทางตอนใต้สุดของหัวเซี่ยเสียอีก
ตอนดึกดื่นข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลขนาดนี้เพื่อมาเยี่ยมเยียน ดูแล้วก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่จริงๆ
และยิ่งไปกว่านั้น กู้ชิวอี๋มาที่สหรัฐอเมริกาไม่ใช่เพียงแค่วันสองวันแล้ว ถ้าหากเธออยากจะมาเยี่ยม ก็สามารถจัดการตั้งแต่แรกได้อยู่แล้วหรือบางทีอาจจะเลื่อนออกไปช้ากว่านี้ รอถึงตอนที่เธอมาทัวร์คอนเสิร์ตที่ลอสแอนเจลิสแล้วค่อยไปเยี่ยมที่บ้านก็ได้
แต่เธอเลือกที่จะมาในเวลานี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างหลี่ญ่าหลินพูดมา หลังจากที่เธอรู้ถึงอาการป่วยหนักของคุณท่านแล้ว ถึงได้รีบมา
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็อดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ : “ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นคุณกู้ได้ข่าวมาจากไหนกันแน่? คนตระกูลอานมีตั้งเยอะแยะ ฉันไม่กล้ารับประกันอยู่แล้วว่าคนของตระกูลอานและคนรับใช้ของตระกูลจะน่าเชื่อถือได้ แต่ข่าวสารจะไหลออกไปได้นั้นต้องใช้เวลา เป็นไปไม่ได้ที่จะรวดเร็วได้ขนาดนี้”
หลี่ญ่าหลินว่า : “ถ้าหากนายอยากรู้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็จะต้องเริ่มจากที่เธอลงมาที่ตระกูลนายนั่นแหล่ะ จัดลำดับเส้นทางการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเธอ อย่างเช่นเครื่องบินของเธอบินมาจากสนามบินไหน เครื่องออกช่วงเวลาเมื่อไหร่ หลังจากนั้นก็ค่อยย้อนกลับไปก่อนหน้าจากสนามบิน อย่างเช่นเธอไปสนามบินอย่างไร? ถึงเมื่อไหร่? ไปกับใคร? หลังจากนั้นก็ค่อยทวนกลับไปต่อ ดูว่าก่อนหน้าที่เธอจะไปที่สนามบิน เธอออกมาจากที่ไหนกันแน่”
ว่าแล้ว หลี่ญ่าหลินก็เคาะลงบนคอมพิวเตอร์ พลางเอ่ยขึ้น : “ข้อมูลสายการบินของประชาชนและเส้นทางการบินทั้งหมดมีเปิดเผยอยู่ในอินเตอร์เน็ต เครื่องบินส่วนบุคคลก็เหมือนกัน ตอนนี้ฉันก็ลองดูอยู่ วันนี้ช่วงบ่ายมีสถานะเที่ยวบินจากนครนิวยอร์กไปลอสแอนเจลิสด้วย”
ระหว่างที่พูดนั้น หลี่ญ่าหลินก็หาข้อมูลที่จะสามารถเชื่อมโยงกันได้ในอินเตอร์เน็ต จากนั้นเขาก็ลากเมาส์ไปพลางเอ่ยพูดไปด้วย : “วันนี้ช่วงบ่ายเครื่องบินส่วนตัวที่บินจากนครนิวยอร์กไปลอสแอนเจลิสมีเพียงแค่7ลำ สุดท้ายจอดลงบนรันเวย์ของตระกูลอาน….อืม มีเพียงสองลำ ลำของนายฉันรู้จัก ส่วนอีกลำนี้หมายเลขทะเบียนB9733 คงจะเป็นลำที่กู้ชิวอี๋นั่งมาลำนั้นแล้ว”
ว่าแล้วหลี่ญ่าหลินก็ร้องขึ้นด้วยความตกใจ : “เธอบินมาจากท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดีเหมือนกับนาย เวลาที่เครื่องออกของพวกนายสองคนต่างกันแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น”
อานโฉงชิวได้ยินแล้ว ในใจก็รู้สึกตกใจมาก
ไม่รอให้เขาได้พูดออกมา หลี่ญ่าหลินก็เอ่ยพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น : “ดี! ดีเลย! ในที่สุดก็ทำให้ฉันจับเบาะแสได้เสียที! ฉันให้คนไปตรวจสอบข้อมูลที่สนามบินและกล้องวงจรปิดก่อนแล้วกัน ดูว่ากู้ชิวอี๊สรุปแล้วมีพลังอภินิหารมาจากไหนกันแน่ ไม่คิดว่าในช่วงเวลาสั้นๆขนาดนี้จะสามารถได้รับข่าวสาวได้!”
อานโฉงชิวอึ้งไปเล็กน้อย รีบเอ่ยขึ้นมา : “ญ่าหลิน ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ก็เอาไว้แค่นี้เถอะ ไม่ต้องไปสืบแล้ว”
หลี่ญ่าหลินเอ่ยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ : “ทำไม? นี่เป็นเบาะแสเดียวที่มีในตอนนี้แล้ว อีกทั้งตอนนี้ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าการพิจารณาของฉันนั้นจะต้องไม่ผิดอย่างแน่นอน เป็นเพราะอาการป่วยหนักของคุณท่านที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เพราะฉะนั้นกู้ชิวอี๋คนนี้ถึงได้ไม่มีโอกาสไปจัดการเบาะแสที่ตัวเองหลงเหลือเอาไว้ มิเช่นนั้นแล้วถ้าหากให้เวลาที่เพียงพอกับเธอ ให้คนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังได้วางแผนกลุยุทธ์ คิดแผนร้าย ถ้าอย่างนั้นแม้แต่เบาะแสนี้ก็จะหาออกมาไม่ได้แล้ว!”