ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4241 ติดตามเบาะแสก่อนหน้า
ว่าแล้ว หลี่ญ่าหลินก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง : “นายไม่อยากจะทำให้มันชัดเจนหรอกหรือ ว่ากู้ชิวอี๋คนนั้นใช้ช่องทางไหนกันแน่ถึงได้รู้เรื่องที่คุณท่านอาการหนัก?”
อานโฉงชิวรีบพูดขึ้นมา : “ญ่าหลิน ไม่ว่าคุณกู้จะใช้ช่องทางอะไรถึงรับรู้ข่าวคราวอาการป่วยหนักของคุณท่านได้ก็ตาม ฉันรู้สึกว่าเธอไม่มีเจตนาร้ายกับพวกเราตระกูลอานอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่ไม่มีเจตนาร้ายนะ เขายังเป็นผู้มีบุญคุณกับพวกเราตระกูลอานด้วย ถ้าหากไม่ใช่เธอที่เดินทางข้ามมาเป็นพันๆกิโล มาช่วยชีวิตคุณท่านเอาไว้ ตอนนี้คุณท่านก็คงจะล่วงลับไปแล้วแน่ๆ”
อานโฉงชิวพูดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยพูดขึ้นต่อ : “บุญคุณที่ใหญ่หลวงขนาดนี้ พวกเรายังไม่มีโอกาสได้ตอบแทนดีๆเลย แต่ตอนนี้กลับต้องมาสำรวจเธอแล้ว เรื่องนี้อยู่เหนือทั้งเรื่องของความรู้สึกและเหตุผลทั้งนั้น ถ้าหากเธอรู้เข้า จะรู้สึกว่าตระกูลอานของพวกเราไม่มีจิตใจที่ดีงามเอาได้”
หลี่ญ่าหลินรู้สึกสงสัยอยู่พักหนึ่ง แล้วเอ่ยพูดขึ้นอย่างจริงจัง : “โฉงชิว เรื่องนี้ไม่เพียงแค่เป็นการตรวจสอบเพื่อตระกูลอานของพวกนาย ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นการตรวจสอบเพื่อเคลียร์คดีนี้ ฉันบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ว่ากู้ชิวอี๋คนนี้สามารถไม่ประสบกับปัญหาใดๆในกับดักของเฟ่ยฮ่าวหยางได้ แม้กระทั่งทำให้เฟ่ยฮ่าวหยางทำตัวเองเสียด้วยซ้ำ ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าข้างๆกายเธอนั้นจะต้องมีคนที่มีความสามารถคอยบัญชาการอยู่อย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นคนๆนั้นทำก็ได้นะ!”
ว่าแล้ว หลี่ญ่าหลินก็เอ่ยขึ้นมาอีก : “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเฟ่ยฮ่าวหยาง หรือว่าเรื่องการฆ่าสังหารของคุณท่านเฟ่ย ฉันล้วนแต่ยังหาเบาะแสใดๆไม่ได้เลย โอกาสในตอนนี้ฉันปล่อยไปไม่ได้”
จากนั้น หลี่ญ่าหลินก็เอ่ยพูดเสริมขึ้นมาอีกครั้ง : “โฉงชิว นายวางใจได้ ฉันตรวจสอบกู้ชิวอี๋ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายอยู่แล้ว ฉันทำในฐานะที่ฉันเป็นตำรวจคนหนึ่ง เป็นการตัดสินใจเพื่อการไขคดี นายเองก็ไม่ต้องมีความรู้สึกด้านลบใดๆทั้งนั้นเหมือนกัน”
อานโฉงชิวถอนหายใจออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้พลางเอ่ยขึ้น : “ญาหลิน นายเป็นตำรวจ จะตรวจสอบคดีอย่างไรนั่นก็เป็นความอิสระของนายอยู่แล้ว ฉันไม่ก้าวก่ายอะไรมากหรอก”
“โอเค!” หลี่ญ่าหลินเอ่ยพูดขึ้นอย่างไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้ : “ขอบใจนะที่นายเข้าใจโฉงชิว ฉันไม่คุยกับนายแล้ว ฉันจะต้องไขคดีนี้ให้ได้อย่างแน่นอน!”
อานโฉงชิวเอ่ยถามขึ้น : “ญ่าหลิน ถ้าหากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณกู้ นายช่วยฉันหน่อยนะ เป็นไปได้อย่าทำให้ต้องเดือดร้อนมาถึงเธอ”
หลี่ญ่าหลินเอ่ยขึ้นทันทีโดยไม่ต้องคิด : “วางใจเถอะ ฉันจัดการให้!”
วางสายไปแล้ว หลี่ญ่าหลินก็รีบไปหาลูกน้องคนที่ตัวเองเชื่อใจที่สุดในทันทีพลางกำชับ : “ตอนนี้นายไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี เริ่มตั้งแต่สนามบิน ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดก่อนเครื่องออกของเครื่องบินส่วนตัวB9733 รวมทั้งเวลาเช็คอินของผู้โดยสารที่ชื่อกู้ชิวอี๋คนนั้น เวลาตรวจเช็คความปลอดภัยและเวลาที่ถึงสนามบิน หลังจากนั้นก็ไปตามแนวทางนี้ ตลอดจนถึงช่วก่อนที่กู้ชิวอี๋ออกจากโรงแรมในช่วงเช้าวันนี้ด้วย ไปสืบความเคลื่อนไหวทั้งหมดของเธอหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาแล้วให้ชัดเจน! แล้วเอาข้อมูลที่เป็นรูปถ่ายที่สามารถเอามาได้ทั้งหมดกลับมาให้ฉันด้วย!”
ลูกน้องคนนั้นเอ่ยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ : “หัวหน้าครับ…..หัวหน้าจะสืบเรื่องของดาราคนนั้นเหรอครับ?! ตอนนี้เธอเป็นที่สนใจมาก พวกเราไปสืบเรื่องของเธออย่างไม่มีที่มาที่ไปแบบนี้ นี่…..นี่ถ้าหากเบื้องบนถามมา พวกเราจะอธิบายกันอย่างไรครับ?”
หลี่ญ่าหลินเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา : “ฉันสงสัยว่าเธอเกี่ยวข้องกับคดีที่เฟ่ยฮ่าวหยางถูกลักพาตัวไป เพราะฉะนั้นฉันจำเป็นต้องสืบเรื่องของเธอให้ชัดเจน แต่ก่อนที่เรายังหาเบาะแสความจริงไม่เจอนั้น นายจะต้องแน่ใจว่าเรื่องนี้จะไม่รั่วไหลออกไป มิเช่นนั้นแล้วพวกเราสองคนจะลำบากเอา!”
ลูกน้องของหลี่ญ่าหลิน ชัดเจนดีกับความร้ายแรงของเรื่องนี้
ในสหรัฐอเมริกาที่เป็นประเทศที่ยึดปฏิบัติตามกฎหมายที่มีความชัดเจนอีกทั้งมีข้อจำกัดในทุกๆที่ หากยังไม่ได้รับการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา แล้วสืบติดตามบุคคลสาธารณะตามอำเภอใจแบบนี้ ถ้าหากถูกเปิดเผยออกมา มีความเป็นไปได้มากที่จะได้รับข้อวิพากษ์วิจารณ์และแรงกดดันของมวลชน