ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4272 คนคนนี้ไม่ปกติ
ณ ตอนนี้ ในใจของหลี่ญ่าหลินมีอยู่สองเรื่อง
เรื่องแรก คือรีบจับกุมตัวมือสังหารที่ฆ่าคนตายเป็นเบือในช่วงสองวันนี้ที่นครนิวยอร์ก
อีกเรื่อง ก็คือช่วยอานโฉงชิวผู้เป็นสหายตรวจสอบให้ชัดเจน ว่าบนตัวของกู้ชิวอี๋มีความลับอะไรกันแน่
ในตอนนี้ เฟ่ยซื่อกรุ๊ปถูกปิดควบคุมเอาไว้ทุกหนทุกแห่ง การหาตัวซูรั่วหลีให้เจอเป็นเพียงปัญหาเรื่องเวลา ฉะนั้น ตอนที่เขารับสายโทรศัพท์นี้ ในใจเฝ้ารอคอยเป็นอย่างมากว่าลูกน้องจะสามารถส่งข่าวดีมาให้ได้
แต่ว่า เสียงในสายโทรศัพท์นั้นกลับพูดอย่างจนปัญญามาก : “หัวหน้า พวกเราแสดงละครทั้งหมด ตามที่หัวหน้าสั่งเอาไว้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่า ในเครื่องบันทึกวิดีโอเฝ้าสังเกตของร้านเป็นย่างนั้นไม่มีฮาร์ดดิสก์”
“ไม่มีฮาร์ดดิสก์ ? !” หลี่ญ่าหลินโดนน้ำเย็นสาดไปกะละมังหนึ่งแล้ว พลันเอ่ยปากถาม : “ทำไมถึงไม่มีฮาร์ดดิสก์ ? หรือว่าถูกคนเอาไปก่อนแล้ว ?”
ลูกน้องตอบ : “เพื่อนร่วมงานที่ผมส่งไปส่งข้อความกลับมาว่า เถ้าแก่คนนั้นบอกฮาร์ดดิสก์พังตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว และไม่ได้เปลี่ยนเป็นอันใหม่เลย”
หลี่ญ่าหลินเอ่ยปากถาม :
“งั้นฮาร์ดดิสก์ที่พังไปล่ะ ?
ไม่มีอยู่ในเครื่องหรือ? ”
ลูกน้องกล่าว
: “ไม่มีครับ ผมเองก็ถามแล้ว
เขาว่าตำแหน่งฮาร์ดดิสก์ของเครื่องบันทึกวิดีโอเฝ้าสังเกตว่างเปล่าอยู่จริง ๆ ”
หลี่ญ่าหลินมีสีหน้าอึ้งไป พลันขมวดคิ้วเอ่ย :
“นี่ไม่ปกติ ! ถ้าหากฮาร์ดดิสก์พังจริง และเขาก็ไม่ได้เตรียมจะซ่อมละก็ งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องเอาฮาร์ดดิสก์ออกมาจากในเครื่องฮาร์ดดิสก์เลยนี่ นี่ก็เหมือนกับ CPU
คอมพิวเตอร์ของนายพังแล้ว จากนั้นนายเตรียมเอาคอมพิวเตอร์เครื่องนี้วางทิ้งไว้ข้าง ๆ พอวางทิ้งไว้แล้ว นายยังจะแงะเอาCPU คอมพิวเตอร์ออกมาเพียงอย่างเดียวไหม ?”
“เอ่อคือ… …”
ลูกน้องส่งเสียงบ่นพึมพำ แล้วเอ่ยปาก : “พี่ใหญ่ ความหมายของพี่คือ เถ้าแก่ร้านนั้นไม่ปกติ
?”
“คนคนนี้ไม่ปกติอย่างแน่นอน” หลี่ญ่าหลินเอ่ยด้วยเสียงเย็นเฉียบ :
“สืบข้อมูลของเถ้าแก่คนนั้นให้ฉันที แล้วก็ส่งกำลังคนบางส่วนไปคอยสังเกตเขาเงียบ
ๆ เขาจะได้ไม่หนีไป”
ว่าแล้ว หลี่ญ่าหลินก็เอ่ยกำชับอีกประโยค
:
“พวกนายต้องจำไว้ ห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด !”
“ครับ !”
ลูกน้องรีบตอบรับ พร้อมเอ่ย
: “งั้นผมจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้”
เมื่อวางสายโทรศัพท์ ผู้รับผิดชอบสถานการณ์ทางนี้วิ่งมาบอกอีก :
“พล.ต.ท.หลี่ คนของสำนักงานใหญ่เฟ่ยซื่อกรุ๊ปกระจายออกไปพอสมควรแล้ว
ยังไม่พบวี่แววของซูรั่วหลีนั่นเลย หน่วยรบพิเศษจะเอาเครื่องจับชีวิตกับสุนัขค้นหาเข้าไปพร้อมกันเดี๋ยวนี้”
หลี่ญ่าหลินพยักหน้าเอ่ย
: “สั่งลงไปว่าจะต้องค้นหาแบบทุกซอกทุกมุม รวมพิมพ์เขียวของตึกระฟ้าของสำนักงานใหญ่เฟ่ยซื่อกรุ๊ปไว้ อย่าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งมีโอกาสหนีไปทางสัญจรได้
!”
อีกฝ่ายรีบเอ่ย :
“พล.ต.ท.หลี่วางใจได้ครับ พวกเราตัดขาดท่อทั้งหมดของเฟ่ยซื่อกรุ๊ปที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกไว้หมดแล้ว
นอกเสียจากว่าอีกฝ่ายกลายเป็นแมลงวันหนีไป ไม่อย่างนั้นละก็ คงไม่มีทางหนีไปได้อย่างแน่นอน”
“งั้นก็ดี” หลี่ญ่าหลินออกคำสั่ง : “ให้หน่วยรบพิเศษเริ่มได้เลย ! ก่อนฟ้ามืด จะต้องหาซูรั่วหลีนั่นให้เจอ !”
……
ในขณะเดียวกัน เย่เฉินได้ออกจากลองบีชแล้ว มุ่งหน้าไปฮอลล์ที่กู้ชิวอี๋แสดง
เนื่องจากตอนที่กู้ชิวอี๋ซ้อมใหญ่อยู่บนเวทีนั้นไม่สามารถพกมือถือติดตัวไปด้วยได้ เธอเลยสร้างกลุ่มวีแชทหนึ่งเอาไว้ล่วงหน้า ลากตัวเอง เย่เฉินรวมทั้งเฉินตัวตัวผู้จัดการเข้าในกลุ่มหนึ่ง ให้เฉินตัวตัวรับผิดชอบในการต้อนรับเย่เฉิน
นักแสดงและทีมงานเกี่ยวข้องกับการแสดงทั้งหมดต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดในการซ้อมใหญ่ มีเพียงเฉินตัวตัวผู้จัดการของกู้ชิวอี๋ที่เอ้อระเหย
สำหรับเฉินตัวตัวแล้ว สิ่งที่เธอยุ่งที่สุดคือก่อนหน้าการเตรียมการแสดง อย่างเช่น การเจรจาความร่วมมือต่าง ๆ การทำโฆษณาต่าง ๆ รวมทั้งการประสานแหล่งสื่อมวลชนต่าง ๆ และพิจารณาว่าจะช่วยกู้ชิวอี๋เรียงลำดับแหล่งอย่างไรดี
ทว่า เมื่อการแสดงเข้าสู่สภาพนับถอยหลัง ก็หมายความว่างานในระยะแรกของเธอนั้นเป็นอันเสร็จสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นในเวลานี้กลับอยู่ในสภาพที่ว่าง ๆ