ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4289 เป็นคนเจ้าเสน่ห์
บทที่ 4289 เป็นคนเจ้าเสน่ห์
หลี่ญ่าหลินก็ไม่สะดวกที่จะสาธยายบอกมาก เพียงแค่พูดไปเล่น ๆ ว่าช่วงนี้ตัวเองไม่ได้จัดการไม่กี่คดีใหญ่ให้ดีเท่านั้น คุณท่านเห็นเขาไม่เต็มใจที่จะพูด จึงไม่ได้ถามเขาอีกเช่นกัน
เนื่องจากสาเหตุเรื่องนิสัยของหลี่ญ่าหลิน ปกติเลยไม่ค่อยมีเพื่อน บวกกับแม่ของเขาจากไปไว พ่อคอยเลี้ยงดูเขาอย่างยากลำบากคนเดียว และก็ไม่ได้แต่งงานใหม่อีก เลยทำให้หลี่ญ่าหลินไม่ค่อยมีพี่น้อง
หลายปีมานี้ ภรรยาพาลูกไปฮิวสตัน เขาอยู่ที่นครนิวยอร์กคนเดียวจึงยิ่งสันโดษและเอาแต่ใจตัวเอง แม้ว่าตระกูลตัวเองจะมีความสัมพันธ์อันดีมากกับคนตระกูลอานโดยเริ่มจากรุ่นของพ่อนั้น แต่จะต้องมีระยะห่างมากอยู่ ก่อนหน้าหลี่ญ่าหลินจึงรู้สึกเกรงใจที่จะมารบกวนอยู่บ่อย ๆ
หากไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้อานโฉงชิวถูกโจมตีตอนซื้อยาอายุวัฒนะคืนที่เมืองจินหลิง แล้วบังเอิญเจอหลี่ญ่าหลินที่ถูกผูกมัดเพื่อคดีที่เฟ่ยฮ่าวหยางถูกลักพาตัวไปอีก อันที่จริงทั้งสองคนก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเจอกันบ่อยนัก
ดังนั้น ขณะนี้นั่งอยู่ตรงกลางคนตระกูลอาน หลี่ญ่าหลินที่สันโดษและเอาแต่ใจตัวเอง จึงหาความรู้สึกของบ้านได้บ้างแล้ว ความกลัดกลุ้มที่อยู่ในใจ จึงผ่อนคลายลงได้บ้างด้วยเหตุนี้
ตอนที่ดื่มเหล้าจนมีอารมณ์คึกคักกับอานโฉงชิว อานข่ายเฟิง แล้วก็อานจาวหนานแล้ว หลี่ญ่าหลินก็ได้รับข้อความเอสเอ็มเอสข้อความหนึ่ง
เป็นข้อความที่ลูกน้องคนสนิทคนนั้นส่งมา ในข้อความอีกฝ่ายบอกว่า ตรวจสอบตัวตนเถ้าแก่ร้านห่านย่าง ผ่านสายตำรวจที่เกาะฮ่องกงได้แล้ว
จู่ ๆ
หลี่ญ่าหลินก็ตัวสั่น อ้างไปห้องน้ำอย่างรีบร้อน
ออกมาโทรกลับไปหาอีกฝ่าย
เมื่อโทรติดแล้ว เขาจึงเอ่ยถาม
: “ไอ้ห้า
พบเบาะแสอะไรใหม่ ? !”
อีกฝ่ายพูดในสายโทรศัพท์ :
“หัวหน้าครับ เถ้าแก่ร้านห่านย่างนั่น ชื่อจริงว่า เฉินจ้างโจง เป็นครอบครัวที่ไม่มีสำมะโนครัวที่ลักลอบเข้าเมืองมาที่สหรัฐอเมริกาจากเกาะฮ่องกงเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน หัวหน้าอย่าเห็นแค่ว่าเขาประกอบการร้านอาหารเล็ก
ๆ ธรรมดาไม่เป็นที่น่าสนใจ หลายปีก่อนก็เป็นนักศึกษาดีเด่นด้านการเงินคนหนึ่ง และก็เป็นนักศึกษาที่กลับมาเกาะฮ่องกงหลังจากไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา เพียงแต่เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วได้ล่วงเกินมหาเศรษฐีท้องที่ที่เกาะฮ่องกงคนหนึ่งเข้า ดังนั้นจึงหนีมาที่นครนิวยอร์ก”
ว่าแล้ว อีกฝ่ายก็เอ่ยเสริมอีกประโยค :
“หัวหน้ารู้ไหมเฉินจ้างโจงคนนี้ ตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นคนที่ทุกคนต่างรู้จักที่เกาะฮ่องกง เขาทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ทำให้ทั้งเกาะฮ่องกงวิพากษ์วิจารณ์กันจนถึงวันนี้
ก็คือลักพาตัวแฟนสาวของมหาเศรษฐีคนนั้นไป ทั้งสองคนลักลอบเข้าสหรัฐอเมริกามาด้วยกัน”
“ฉิบหาย……”
หลี่ญ่าหลินเดาะปาก พลางเอ่ยอุทาน :
“ไอ้หมอนี่แม่มเป็นคนเจ้าเสน่ห์ !”
“ใช่” อีกฝ่ายพูดอีกว่า : “อ้อ จริงสิ
หัวหน้า ผมยังสืบเจอเรื่องเรื่องหนึ่ง เฉินจ้างโจงคนนี้รู้จักกับดาราใหญ่ที่ชื่อว่ากู้ชิวอี๋นั่นจริง ๆ ในข่าวกรองที่สายตำรวจส่งกลับมา ได้เอ่ยถึงกู้เย้นจง หรือก็คือพ่อของกู้ชิวอี๋
ตอนนั้นเคยไปพบกับมหาเศรษฐีคนนั้นที่เกาะฮ่องกงรอบหนึ่งโดยเฉพาะเพื่อเรื่องของเขา”
หลี่ญ่าหลินได้ยินถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พลันเอ่ยถาม : “นี่……นี่ดูเหมือนจะเชื่อมกันได้แล้ว……เมื่อเป็นแบบนี้ ดาราดังอย่างกู้ชิวอี๋จะไปร้านห่านย่างเล็ก ๆ ที่ไชน่าทาวน์ ก็สอดคล้องกับหลักเหตุผลแล้ว……”
“ครับ” อีกฝ่ายเอ่ย : “ผมก็คิดว่าสอดคล้องกับหลักเหตุผลอยู่ คิดว่าทางเส้นนี้น่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่เฟ่ยฮ่าวหยางถูกลักพาตัว ดังนั้นจึงรีบมารายงานหัวหน้า”
หลี่ญ่าหลินหัวเราะเยาะตัวเองพลันเอ่ย : “ฉันเกษียณก่อนกำหนดแล้ว พูดได้ว่าเป็นการรายงานที่ไหนกัน คดีเรื่องนี้จากนี้หากว่าแกมีความคืบหน้าอะไรใหม่ล่าสุด แอบบอกกับฉันให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่ไม่ฝ่าฝืนกฎหน่อยก็พอแล้ว”
ยืนยันตัวตนของเฉินจ้างโจง กลับทำให้หลี่ญ่าหลินผิดหวังเล็กน้อย
เขาอยากได้ยินข่าวกรองที่ไม่ธรรมดาหน่อยมากกว่า ข่าวกรองประเภทที่ทำให้คนที่ได้ฟัง รู้สึกในนี้จะต้องมีเงื่อนงำอยู่แน่นอน