ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4299 มองไปข้างหน้า
บทที่ 4299 มองไปข้างหน้า
เหล่าเด็กรุ่นเยาว์พวกนี้ ทั้งหมดถือเป็นลูกพี่ลูกน้องของเย่เฉิน อีกทั้งก็ถือเป็นแฟนคลับของกู้ชิวอี๋เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงติดตามจากลอสแองเจลิสด้วย
ลูกสาวทั้งสองคนของอานโฉงชิวเองก็ชอบกู้ชิวอี๋มากเช่นกัน แต่เนื่องจากลูกสาวคนโตของเขากำลังเรียนแพทย์ที่ Stanford และลูกสาวคนที่สองกำลังศึกษาอยู่ที่สหราชอาณาจักร ดังนั้นพวกเธอจึงยุ่งกับการเรียน ก่อนหน้านี้คุณท่านใหญ่ป่วยหนัก พวกเธอจึงลาหยุดเพื่อมาอยู่เป็นเพื่อน และทำให้การเรียนล่าช้าไปมาก ดังนั้นวันนี้พวกเธอจึงต้องรีบกลับไปยังมหาลัยแล้วแต่เช้าตรู่
อย่างไรก็ตาม ลูกสาวสองคนของอานโฉงชิวได้ขอให้พี่น้องคนอื่นๆของตนถ่ายวิดีโอคอนเสิร์ตมาให้มากหน่อย ผ่านซอฟต์แวร์แชตภายในของตระกูลอาน
แม้ว่าเย่เฉินจะไม่สามารถรับรู้ถึงตัวตนของพวกเขาได้ แต่หลังจากฟังพวกเขาคุยกันไม่กี่คำ เขาก็เกือบจะระบุตัวตนของทุกคนได้แล้ว
ในบรรดาพวกเขา ลูกชายคนโตของน้าชายรองอานข่ายเฟิง เขาเองก็เจอมาก่อนเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก แต่ตอนนั้นลูกพี่ลูกน้องของเขาผู้นี้ยังอยู่ในวัยทารก
สำหรับลูกสาวคนโตของน้าชายเล็กอานจาวหาน และลูกสาวคนเดียวของอานโยวโยว เย่เฉินล้วนยังไม่เคยพบหน้ามาก่อน
ในเวลานี้ อานโฉงชิวเห็นว่าหลี่ญ่าหลินกำลังนั่งดื่มอย่างเซ็งๆอยู่บ้าง ก็เลยเดินมาที่หน้าบาร์และนั่งลงไปข้างเขาแล้วถามว่า “ทำไม อารมณ์ยังไม่ดีขึ้นหน่อยเลยหรือ?”
หลี่ญ่าหลินพูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว
นายรู้จักฉันดี ถูกเล่นงานจนพูดไม่ออกขนาดนี้แต่กลับไม่มีโอกาสตอกกลับ ในใจของฉันอัดอั้นจะแย่แล้วจริงๆ!”
“ดีขึ้นอะไรกัน พวกเรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว
อานโฉงชิวเทแก้วไวน์ให้ตัวเอง
เขาแตะแก้วของตนแล้วพูดว่า “ญ่าหลิน มองไปข้างหน้าเถอะ แม้ว่าวันเวลาของนายในการเป็นตำรวจจะยาวนาน
แต่มันก็ได้ผ่านไปแล้ว”
หลี่ญ่าหลินพยักหน้าเล็กน้อยและถอนหายใจ “นายพูดถูก ต้องมองไปข้างหน้า…”
อานโฉงชิวถามเขาว่า “ก่อนหน้านี้นายบอกว่าอยากไปฮูสตันกับภรรยาและลูก ได้บอกพวกเขาแล้วยัง?”
“ยัง” หลี่ญ่าหลินพูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “นี่ไม่ใช่เพราะในใจของฉันยังไม่ยอมแพ้หรอกหรือไงกัน..ฉันมักจะรู้สึกว่าคดีนี้อาจจะมีโอกาสน้ำลดตอผุดขึ้นมาก็ได้…”
อานโฉงชิวพูดอย่างจริงจังว่า
คืนนี้กลับไปเก็บข้าวของ พรุ่งนี้จองเครื่องบินไฟลท์ที่เร็วที่สุดไปยังฮูสตันในตอนเช้า”
“ญ่าหลิน ฟังคำแนะนำของฉันสักหน่อย
พูดจบ อานโฉงชิวเอ่ยอีกว่า “ช่างเถอะ ฉันจะจัดเครื่องบินไปส่งนาย!”
หลี่ญ่าหลินท่าทางลังเลและพูดว่า “นี่ก็ออกจะเร็วเกินไปหน่อยรึเปล่า… ”
อานโฉงชิวพูดอย่างจริงจังว่า “ตัดไฟแต่ต้นลมไง!”
หลี่ญ่าหลินลังเลใจไปครู่หนึ่ง
เขาอยากจะไป แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้จริงๆ
ในเวลานี้ จู่ๆหลี่ญ่าหลินก็ได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือของเขาทันที เมื่อเขาเปิดดู ท่าทางก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นทันทีและรีบเอ่ยพูดกับอานโฉงชิว “เมื่อกี้นายบอกว่านายจะจัดเครื่องบินพาฉันไปฮูสตัน?”
อานโฉงชิวพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ ขอแค่นายพูดมาคำเดียว!”
หลี่ญ่าหลินพูดโดยไม่คิด “ถ้างั้นก็คืนนี้เถอะ! หลังจบการแสดงฉันจะไปสนามบิน!”
อานโฉงชิวถามด้วยความแปลกใจ “นายนี่มันเอาแน่เอานอนไม่ได้เลย ทำไมจู่ๆถึงรีบร้อนนักล่ะ?”
มุมปากของหลี่ญ่าหลินผุดยิ้มและพูดว่า “ลูกสาวของฉันเพิ่งส่งข้อความมาว่าเธอท้องแล้ว!”
เมื่ออานโฉงชิวได้ยินข่าวนี้ เขาเองก็มีความสุขขึ้นมาเช่นกันและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่แปลกใจเลยที่จู่ๆปากของนายถึงฉีกกว้างจนแทบจะไปถึงใบหูแบบนี้ ที่แท้นายกำลังจะเป็นคุณตาแล้ว!”
“ใช่!” หลี่ญ่าหลินพูดอย่างตื่นเต้น “คนแก่ๆมักบอกว่าคนแก่เลี้ยงหลาน เป็นแบบนี้จริงๆ! ทันทีที่ลูกสาวของฉันบอกว่าเธอท้อง ฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นิวยอร์กอีกสักนาทีแล้ว อยากจะบินข้ามคืนเพื่อเซอร์ไพรส์พวกเขาเลย!”