ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4326 ไม่กล้าตรวจสอบ
บทที่ 4326 ไม่กล้าตรวจสอบ
ยิ่งไปกว่านั้น
ก่อนที่น้าสะใภ้สามจะแต่งเข้ามาในตระกูลอาน ตระกูลอานจะต้องดำเนินการตรวจสอบภูมิหลังของเธอและตระกูลของเธออย่างเข้มงวดแล้วแน่นอน และหากอีกฝ่ายสามารถซ่อนมันไว้ได้จนแม้แต่ตระกูลอานก็ไม่สามารถตรวจสอบเจอ อย่างนั้นก็แสดงว่าความสามารถนั้นไม่น้อยจริงๆ
หากขุดลึกลงไปในภูมิหลังตระกูลของเธอ จะต้องพบเบาะแสแน่!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็พูดกับเฟ่ยเข่อซินว่า “คุณหนูเฟ่ย
รบกวนคุณและคุณหยวนสื่อสารกับครอบครัวของตาผมหน่อย ให้พวกเขารีบรวมคนมาคุ้มกันพวกเขาให้ออกไป
พอถึงเวลานั้น รบกวนคุณและคุณหยวนช่วยไปส่งพวกเขาจนสุดทางและถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ”
เฟ่ยเข่อซินพูดโดยไม่ต้องคิด “ตกลงคุณเย่ ฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้!”
พูดเสร็จ เฟ่ยเข่อซินก็นึกบางอย่างได้และรีบถามว่า
ก่อนหน้านี้ทุกคนก็รู้ข่าวเกี่ยวกับตระกูลเฟ่ย ตัวตนของฉัน ครอบครัวคุณตาของคุณจะต้องจำได้แน่ ถึงตอนนั้นฉันจะอธิบายให้พวกเขาฟังยังไงดีคะ…”
“คุณเย่ ฉันเพิ่งจะกลับมาจากนิวยอร์กได้ไม่นาน
เย่เฉินเอ่ย
“บอกว่าเธอเองก็ได้รับไว้วานมาจากผู้อื่นอีกที หากพวกเขายังซักไซ้ ให้บอกว่าเธอก็แค่ติดค้างน้ำใจเอาไว้เหมือนกัน
แต่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะคุณเย่! คนตระกูลอานจะต้องรู้ว่าฉันและปู่ของฉันถูกไล่ฆ่าที่หัวเซี่ยมาก่อน
และจู่ๆก็กลับมายังตระกูลเฟ่ยเมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันจะบอกพวกเขาไปตรงๆ ว่าคุณช่วยชีวิตฉันและปู่ของฉันเอาไว้ที่หัวเซี่ย ส่วนตัวตนที่แท้จริงของคุณนั้น
ฉันจะบอกไปว่าฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกับพวกเขา แบบนี้พวกเขาน่าจะเชื่อได้ง่ายกว่า!”
เย่เฉินก็รู้เช่นกันว่า ถึงแม้วิกฤตของตระกูลอานจะคลี่คลายแล้วในวันนี้ แต่ตัวตนของเขาจะต้องเป็นจุดสนใจของตระกูลอานอย่างแน่นอน
ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลอาน
หากคิดจะสืบหาเบาะแสจริง ๆ ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากกู้ชิวอี๋หรือเฟ่ยเข่อซิน
การหาตนเองเจอก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นเอง
ดังนั้น สิ่งที่ตนควรทำคือ ไม่ใช่ให้ตระกูลอานสืบหาไม่เจอ แต่ต้องทำให้ตระกูลอานไม่สืบหาหรือไม่ไม่กล้าสืบหาต่างหาก
ดังนั้น
เขาจึงบอกเฟ่ยเข่อซินว่า “หลังจากส่งคนตระกูลอานไปที่ที่ปลอดภัยแล้ว จะต้องอธิบายไป อ้อไม่สิ จะต้องเตือนพวกเขาไปว่า อย่าพยายามตรวจสอบตัวตนของฉันไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด ๆ แค่บอกว่าฉันเป็นพวกชอบพิทักษ์ความยุติธรรม
ไม่ชอบให้ใครรู้จัก อีกทั้งยังไม่ชอบให้ใครมาสืบหา ไม่อย่างนั้นก็จงรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง”
เฟ่ยเข่อซินลังเลอยู่ครู่หนึ่งและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในไม่ช้าก็ล้มเลิกความคิดไปและพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ฉันรู้แล้วค่ะคุณเย่ คุณวางใจได้!”
เย่เฉินมองไปที่หยวนจื่อซูอีกครั้งและพูดอย่างจริงจังว่า “คุณหยวน คืนนี้ลำบากคุณหน่อยแล้ว”
หยวนจื่อซูรู้สึกปลื้มปีติและพูดว่า “คุณเย่คุณเกรงใจเกินไปแล้ว ขอบคุณที่คุณเล็งเห็นความสำคัญของผม ผมจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน!”
เย่เฉินพยักหน้าและพูดกับเฉินตัวตัวว่า “ตัวตัว
หน้าที่ของเธอตอนนี้คือทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อคอนเสิร์ตของหนานหนาน หลังจากคอนเสิร์ตจบลงรีบติดต่อครอบครัวของพนักงานที่เสียชีวิตไป
จากนั้นก็ให้เงินบำนาญและค่าปิดปากที่เพียงพอ ให้พวกเขาอย่าได้เปิดโปงเรื่องนี้ออกไป เข้าใจไหม?”
เฉินตัวตัวลังเลอยู่บ้างและพูดว่า “คุณเย่…ถ้าหากมีสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาไม่เห็นด้วยขึ้นมาและต้องการคำชี้แจงจะทำยังไง…”
เย่เฉินพูดอย่างจริงจังว่า “หนึ่งคนให้เงิน 10 ล้านดอลลาร์ เงินนี้ฉันจะจ่ายเอง ในเวลาเดียวกันก็ต้องชี้แจงความสัมพันธ์ที่ร้ายแรงให้กับครอบครัวของพวกเขาอย่างชัดเจน เรื่องนี้พวกเขาสามารถแจ้งตำรวจได้
แต่ตำรวจนิวยอร์กโดยพื้นฐานแล้วไม่น่าจะให้ความยุติธรรมแก่พวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น
หากพวกเขาแจ้งตำรวจก็จะยิ่งมีแนวโน้มที่จะดึงดูดการตอบโต้จากผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องที่กล่าวเกินจริง เพราะท้ายที่สุดแล้วเรายังไม่เคยพบเห็นระดับความโหดเหี้ยมขององค์กรนี้มาก่อน แม้แต่คนในตระกูลอานพวกเขายังไม่เห็นอยู่ในสายตา อย่างนั้นครอบครัวของเหยื่อพวกนั้น ก็ยิ่งไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาแน่ ”