ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4393 ทุ่นระเบิด
เมื่อคุณเฉินพูดถึงห่านย่าง สีหน้าของหลิวเจียฮุยและฟางเจียซินก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ในฐานะชาวเกาะฮ่องกางแท้ๆ ก่อนหน้านี้หลิวเจียฮุยเคยชอบห่านย่างมากที่สุด
แต่หลังจากที่เขารู้ว่าเฉินจ้างโจงผู้มีพรสวรรค์ทางธุรกิจ ถึงกับไปเปิดร้านขายห่านย่างในไชน่าทาวน์ของอเมริกามา 20 ปีแล้ว เขาจึงเกลียดห่านย่างถึงกระดูกดำ
นั่นเพราะ ตราบใดที่เขานึกถึงห่านย่าง เขาก็จะนึกถึงเฉินจ้าวโจง
และเมื่อเขาคิดถึงเฉินจ้างโจงขึ้นมา เขาก็จะนึกถึงเรื่องฟางเจียซินที่หนีไปกับเขาจนทำให้คนทั้งเกาะฮ่องกางรู้
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้เขาหดหู่ใจมากขึ้นก็คือฟางเจียซินที่เป็นอยู่ราวกับเจ้าหญิงนั้นกลับเต็มใจที่จะติดตามเฉินจ้างโจงและขายห่านย่างในไชน่าทาวน์ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเป็นเวลาหลายปี จุดนี้ทำให้หัวใจของเขาเจ็บอยู่ลึกๆ
และคนที่เคยบาดเจ็บมาก่อน ต่อให้ภายนอกเขาจะดูแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ในใจก็ต้องอ่อนแอหรือมีจุดที่อ่อนไหวอยู่
แม้ว่าหลิวเจียฮุยจะมีความแข็งแกร่งและมีอำนาจมากล้นบนเกาะฮ่องกาง แต่ก็เป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เขายิ่งถือสาเรื่องที่ตนถูกนอกใจในตอนนั้นมากขึ้นไปอีก
ส่วนฟางเจียซินที่มีสีหน้าอึดอัดก็เพราะเรื่องนี้เช่นกัน
เธอได้รับความโปรดปรานจากหลิวเจียฮุยอย่างมากมาตลอดหลายปีที่อยู่ข้างเขา บวกกับหลังจากให้กำเนิดลูกชายของหลิวเจียฮุย เธอก็ยิ่งถูกเขาประคองเอาไว้ในอุ้งมือ
อย่างไรก็ตาม เรื่องเดียวที่เคยเกิดขึ้นในตอนนั้น ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
นั่นเพราะเธอรู้ว่า มันคือทุ่นระเบิดของหลิวเจียฮุยมาโดยตลอด และสาเหตุหลักๆที่หลิวเจียฮุยแบ่งทรัพย์สินของเขากับตนออกมาก็เพราะการมีอยู่ของทุ่นระเบิดนี้ด้วย
หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ตอนนี้เธอก็จะกลายเป็นคนสำคัญและน่าไว้วางใจที่สุดของหลิวเจียฮุย ส่วนทรัพย์สินของหลิวเจียฮุยครึ่งหนึ่งก็ย่อมเป็นของเธอโดยธรรมชาติ
แต่เมื่อติดกระดุมผิดไปเม็ดหนึ่ง เม็ดที่ตามมาก็ผิดไปด้วย
เย่เฉินเห็นว่าท่าทีของทั้งสองดูกล้ำกลืน ในใจของเขาก็หัวเราะออกมา แต่ปากของเขากลับถามด้วยความสงสัยว่า “คุณสองคนเป็นอะไรไป? ห่านย่างมีปัญหาอะไรหรือ?”
หลิวเจียฮุยพูดอย่างอึดอัด “ไม่มีไม่มี หลักๆก็เป็นเพราะวันนี้ที่บ้านไม่ได้เตรียมห่านย่างเอาไว้ ถ้าคุณเย่ชอบกิน คืนนี้ผมจะให้คนจัดเตรียมให้ในตอนเย็น!”
“ดี!” เย่เฉินพยักหน้าและถอนหายใจ “ฉันชอบรสชาติห่านย่างที่ทั้งกรอบและมันที่สุด กินกับน้ำจิ้มกุ้ยฮวา เรียกได้ว่าถึงรสชาติ…”
การแสดงออกของหลิวเจียฮุยยิ่งหดหู่ จนถึงขั้นที่เขาคิดว่าเย่เฉินจงใจยกห่านย่างมาเพื่อยุแหย่ตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อลองคิดดู เรื่องการขายห่านย่างของเฉินจ้างโจงในสหรัฐอเมริกาก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เท่านั้น
ยังไงเสีย ข่าวที่ว่าเฉินจ้างโจงกำลังจะถูกส่งตัวกลับประเทศก็เพิ่งได้รับการปล่อยออกไปโดยเขาเมื่อไม่นานมานี้เอง และตอนที่เขาปล่อยข่าวออกไป เขาก็ไม่ได้เปิดเผยไปว่าเฉินจ้างโจงทำอะไรในสหรัฐอเมริกา
ดังนั้น เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ค่อยโล่งใจเล็กน้อยและคิดว่าเย่เฉินก็แค่พูดถึงห่านย่างโดยบังเอิญก็เท่านั้นเอง
จากนั้น เขาก็ฝืนยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณเย่จะมีความรู้ในอาหารกวางตุ้ง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมจะให้คนเตรียมน้ำซุบมากหน่อย มีห่านย่างและก็มีนกพิราบย่างในคืนนี้!”
เย่เฉินยิ้มอย่างพอใจ เขายกนิ้วโป้งแล้วพูดว่า “คุณหลิวทำอะไรใส่ใจจริงๆ! บอกตามตรง เมื่อตอนที่ฉันยังเด็กเคยมาที่เกาะฮ่องกางกับพ่อของฉัน ถึงแม้ว่าความทรงจำมากมายจะเลือนราง แต่ความทรงจำเกี่ยวกับห่านย่างยังคงแจ่มชัด!”
หลิวเจียฮุยถามด้วยความสงสัย “โอ้? ไม่ทราบว่าคุณเย่ยังจำร้านห่านย่างที่กินตอนเด็กได้หรือเปล่าว่าเป็นร้านไหน? หากยังเปิดอยู่ ผมจะให้คนไปซื้อมาให้!”
เย่เฉินพยักหน้า เขานึกอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างจริงจังว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด ร้านห่านย่างนั้นน่าจะชื่อว่าห่านย่างเฉินจี้ สถานที่ตั้งอยู่ที่ไหนฉันเองก็จำไม่ได้จริงๆ แต่ฉันยังจำรสชาติได้เสมอ เพราะรสชาตินั้นน่าอัศจรรย์จริงๆ จนถึงตอนนี้ฉันยังรับรู้ได้ถึงรสชาตินั้นอยู่เลย!”