ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4396 การสนับสนุนอย่างแน่วแน่
อย่างไรก็ตาม ปรมาจารย์ล่อเหยื่อ นั้นแตกต่างออกไป ปรมาจารย์ล่อเหยื่อ ใช้แค่เหยื่อจำลองเท่านั้น เมื่อปลากินเหยื่อจำลองเข้าปากแล้วถูกเกี่ยวได้ เหยื่อนั้นก็ยังสามารถนำมาใช้ได้อีกหลังจากถอดมันออกมาแล้ว ขอแค่ฝีมือดี ก็จะสามารถใช้ซ้ำได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องมีต้นทุนเพิ่มใดๆ
ดังนั้น เขาในเวลานี้ ก็เขาจึงไม่กล้าโต้เถียงกับเย่เฉินในเรื่องนี้อีกต่อไป
นั่นเพราะท้ายที่สุด เขาก็วางแผนที่จะจับปลาตัวใหญ่อย่างบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด ดังนั้นเขาจึงพยายามไม่ไปตีสีหน้าใส่เย่เฉิน ขอแค่เย่เฉินไม่ได้ชี้ชัดว่าเขากำลังหัวเราะเยาะเต่าถูกสวมเขาอย่างตน อย่างนั้นตนก็จะปฏิบัติต่อเขาประหนึ่งว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้
ดังนั้น เขาก็รีบเปลี่ยนท่าทีและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง คุณเย่ ดูเหมือนว่าผมจะเข้าใจคุณผิดไป ผมขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว!”
พูดจบ เขาก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมา จากนั้นก็ดื่มเหล้าขาวลงไปทันที
เย่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า แค่ห่านย่างจะทำให้คุณหลิวไม่พอใจขนาดนี้ อย่างนั้น คินนี้ก็อย่ากินห่านย่างเลย”
หลิวเจียฮุยคาดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะยังทิ้งคำว่า “ห่านย่าง” ออกไปจากปากไม่ได้ เขาได้แต่ต้องฝืนยิ้ม “ได้ได้ได้ อย่างนั้นคืนนี้ผมจะให้คนเตรียมอาหารฝรั่งที่บ้าน!”
เย่เฉินโบกมือ เขามองหลิวม่านฉงและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูหลิวจะพาผมไปเที่ยวรอบเกาะฮ่องกางบ่ายนี้ไม่ใช่หรือ? ถ้าสะดวก เย็นนี้พวกเราไปทานอาหารข้างนอกกันไหม?”
หลิวม่านฉงถูกเย่เฉินทำเอาทำอะไรไม่ถูกไปอยู่บ้าง
เธอเชื่อมั่นว่า เย่เฉินจะต้องรู้ความหมายเบื้องหลังคำว่าห่านย่างแน่ ดังนั้นถึงได้จงใจชี้นำให้เขายอมรับ แต่ไม่คาดคิดว่า หลังจากหยอกล้อพ่อของเธออยู่รอบหนึ่ง เขาก็กลับวกเรื่องนี้ให้กลับเข้ามาได้
ในขณะนี้ หลิวม่านฉงรู้สึกว่าชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้ ไม่ใช่ธรรมดาเลย
จนถึงขั้นที่เธอเริ่มสงสัยในจุดประสงค์การมาที่เกาะฮ่องกางของเย่เฉิน
ถ้าเขามาคุยเรื่องความร่วมมือจริง ๆ ทำไมเขาจะต้องจี้ใจดำพ่อของตนแล้วกระทืบมันซ้ำ ๆ ด้วย? ดูราวกับว่าเขาจงใจพยายามทำให้พ่อของเธอไม่สบายใจ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็คิดอยากจะสืบหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของเย่เฉินมากเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างยินดีว่า “ในเมื่อคุณเย่ต้องการทานอาหารนอกบ้านในตอนเย็น อย่างั้นฉันจะพาคุณไปลองของทานเล่นแบบฮ่องกางแท้ๆ”
“ดี!” เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตกลงตามนี้!”
หลิวเจียฮุยมองไปที่รอยยิ้มของเย่เฉินในตอนนี้ ในที่สุดในใจของเขาก็ค่อยโล่งอก
อันที่จริงเขาไม่แน่ใจว่าเย่เฉินจงใจเสียดสีตัวเองหรือไม่ แต่เขาก็ไม่ต้องการจะไปซักไซ้ในตอนนี้ ตามแผนของเขา วันนี้ให้เย่เฉินรู้จัก หลิวม่านฉงก่อน จากนั้นก็ให้เวลาพวกเขาได้รู้จักกัน ก่อนที่พรุ่งนี้เช้าเขาจะพาเย่เฉินไปที่บริษัทโดยตรงและเริ่มพูดถึงความร่วมมือกับเขา
เขาคิดในใจว่า “ขอแค่สามารถพูดคุยถึงความร่วมมือได้ อย่างนั้นที่คนแซ่เย่กำลังเหน็บแนมฉันใช่หรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว”
“แต่ถ้าไม่สามารถเจรจาความร่วมมือได้ อย่างนั้นฉันก็ไม่มีทางโดนเอาเปรียบแน่ ในเมื่อเขามาถึงเกาะฮ่องกางแล้ว คิดจะออกไปจากที่นี่ก็มีราคาที่ต้องจ่าย!”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ยิ้มออกมาทันทีแล้วพูดว่า “อย่างนั้นคืนนี้คนหนุ่มสาวอย่างพวกคุณสองคนก็กินข้าวนอกบ้านกันลำพังเถอะ พวกเราอายุมากแล้ว ไม่ค่อยชินกับอาหารข้างนอก ไม่ไปกับพวกคุณแล้ว”
พูดไป เขาก็มองไปที่ หลิวม่านฉงและพูดว่า “ม่านฉง ตอนบ่ายให้ไอ้หมิงเอาขบวนรถไปพร้อมกับแกด้วย มีเรื่องอะไรก็สั่งเขาได้โดยตรง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” หลิวม่านฉงส่ายหัวแล้วพูดว่า “หนูจะขับรถพาคุณเย่ไปเอง ไม่ต้องให้ไอ้หมิงตามพวกเรามา คนเยอะเกินไปมันอึดอัด”
พูดจบ เธอก็มองขึ้นไปที่เย่เฉินและถามว่า “คุณเย่คิดอย่างไร?”
เย่เฉินรู้ว่า หลิวม่านฉงต้องการหาโอกาสที่จะสืบหาเป้าหมายของตนเป็นการส่วนตัว ดังนั้นเขาจึงแล่นไปตามน้ำกับเธอและบอกว่า “แน่นอนว่าผมสนับสนุนการตัดสินใจทั้งหมดของคุณหนูหลิว”