ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4398 แขกย่อมตามเจ้าบ้าน
เย่เฉินไม่คาดคิดว่า หลิวม่านฉงจะขับรถไฟฟ้าที่มีมูลค่าแค่สองแสนกว่าหยวน ในใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
หลิวม่านฉงเองก็มองเห็นความประหลาดใจในสายตาของเย่เฉินเช่นกันและกล่าวว่า “คุณเย่ รถของฉันค่อนข้างหยาบ คุณอย่าได้ถือสา”
“ไม่หรอก” เย่เฉินโบกมือและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันไม่ได้เรื่องเยอะเรื่องรถ อย่าว่าแต่รถยนต์ไฟฟ้าสี่ล้อเลย ต่อให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสองล้อ ฉันไม่มีปัญหา”
หลิวม่านฉงพยักหน้าและพูดอย่างเย็นชาเล็กน้อย “อย่างนั้นก็ดี รบกวรคุณเย่ช่วยฉันเก็บของไว้ที่ด้านหลังเถอะ”
“ได้” เย่เฉินตกลงอย่างสบายๆ จากนั้นก็นำของวางไว้ที่ด้านหลังรถ แล้วค่อยเปิดประตูผู้โดยสารและนั่งเข้าไป
หลิวม่านฉงรออยู่ที่ที่นั่งคนขับแล้ว หลังจากที่เย่เฉินขึ้นรถมา เธอก็ขับเทสลาออกจากคฤหาสน์ไปทันที
ขณะที่เธอขับรถไปตามถนนชือซุน เธอก็เอ่ยถามเย่เฉินว่า “ไม่ทราบว่าบ่ายนี้คุณเย่อยากจะไปเดินเล่นที่ไหน?”
“ฉันได้ทั้งนั้น” เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แขกย่อมตามเจ้าบ้าน คุณหนูหลิวจัดการตามสบายเถอะ”
หลิวม่านฉงพยักหน้า เธอเหลือบมองเย่เฉินและถามว่า “ใช่สิคุณเย่ มีคำถามที่ฉันอยากถามคุณมาตลอด ไม่ทราบว่าสะดวกไหม?”
เย่เฉินถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูม่านฉงอยากถามว่าตอนนี้ฉันโสดหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่” หลิวม่านฉงขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันแค่อยากถามคุณเย่ว่า เมื่อครู่นี้ที่คุณพูดถึงห่านย่างอยู่หลายครั้งบนโต๊ะอหารคุณรู้ความหมายเบื้องหลังของมันใช่รึเปล่า?”
เย่เฉินรู้สึกว่า หลิวม่านฉงคล้ายกำลังสำรวจตนอยู่ ดังนั้นเขาจึงส่ายหัว “ฉันก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น ไม่รู้ว่าเบื้องหลังมันมีความหมายยังไง ไม่ทราบว่าคุณหนูม่านฉงช่วยให้ความกระจ่างหน่อยได้หรือไม่?”
หลิวม่านฉงเอ่ยเสียงเรียบว่า “พ่อของฉันเมื่อก่อนเคยมีลูกน้องชื่อเฉินจ้างโจง ต่อมาเฉินจ้างโจงหนีไปสหรัฐอเมริกากับแม่เลี้ยงของฉันในตอนนี้ และเปิดร้านห่านย่างที่ไชน่าทาวน์ในสหรัฐอเมริกา เรื่องที่พวกเขาสองคนหนีตามกันไป สำหรับพ่อของฉันแล้ว ถือเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากมาตลอด ดังนั้นห่านย่างสำหรับเขาแล้วก็เป็นคำต้องห้ามเช่นกัน”
เย่เฉินเอ่ยเบี่ยงประเด็นไปว่า “คุณหนูม่านฉง ผมขอพูดตามตรงแม่เลี้ยงของคุณคนนั้น ดูแล้วไม่เหมือนคนที่สามารถทนต่อความยากลำบากได้”
“แน่นอน” หลิวม่านฉงเอ่ย “ในเวลาปกติเธอขี้เกียจแม้กระทั่งจะซักชุดชั้นในของตัวเองด้วยซ้ำ ทุกๆ วันจะมีคนใช้จำนวนมากล้อมรอบเธอ”
ขณะที่พูดไปหลิวม่านฉงก็อดถอนหายใจไม่ได้เช่นกัน “อย่างไรก็ตาม นิสัยชอบกินดีอยู่ดีแบบนี้ แต่ยังสามารถติดตามเฉินจ้างโจงไปเปิดร้านห่านย่างในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เช้าจรดค่ำได้เป็นเวลาหลายปี เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันคาดไม่ถึงอยู่บ้าง”
เย่เฉินเอ่ยปากว่า “ดูเหมือนว่าเธอกับเฉินจ้างโจงต่างหากถึงจะเป็นรักแท้”
หลิวม่านฉงส่ายหัวและพูดว่า “ฉันไม่รู้แล้ว”
พูดไป เธอก็มองไปที่เย่เฉินอีกครั้งและถามว่า “คุณเย่ คุณไม่รู้เรื่องเหล่านี้จริงๆ หรือ?”
เย่เฉินยักไหล่แล้วพูดว่า “ฉันรู้แค่ว่าคุณนายหลิวเคยหนีไปกับใครมาก่อน แต่เรื่องนี้ก็น่าจะได้ยินกันหมดทั่วฮ่องกาง ผู้ประกอบการรายใหญ่หลายคนมักจะพูดเรื่องซุบซิบกันหลังอาหาร แต่เรื่องที่เธอไปทำอะไรหลังจากหนีตามคนไปต่างประเทศนั้น ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน”
เย่เฉินเห็นว่า หลิวม่านฉงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้ หลิวม่านฉงสังเกตเห็นแรงจูงใจที่แท้จริงของตน
นั่นเพราะ เรื่องที่เฉินจ้างโจงเปิดร้านห่านย่างในสหรัฐอเมริกา แม้กระทั่งหลิวเจียฮุยเองก็เพิ่งจะรู้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็ไม่ได้รับการเผยแพร่ออกไปในเกาะฮ่องกาง ถ้าคนนอกอย่างเขายอมรับว่ารู้ อย่างนั้นก็เท่ากับยอมรับว่าเขามีความสัมพันธ์กับเฉินจ้างโจง
หลิวม่านฉงรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง เธอรู้สึกเสมอว่าที่เย่เฉินพูดถึงห่านย่างที่โต๊ะอาหารนั้นดูเหมือนจะจงใจทำ แต่เมื่อเธอได้ยินเย่เฉินพูดอบบนี้ กลับรู้สึกว่าตรรกะของเขาก็ไม่มีช่องโหว่ตรงไหน