ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4409 อึ้งกันเป็นแถบ
เย่เฉินพูดออกมาลอยๆ แต่ทำให้หลิวม่านฉงเครียดถึงขีดสุด
ในมุมมองของเธอ ยังไงเย่เฉินก็ไม่มีทางสู้คนสิบกว่าคนนี้ได้แน่ๆ เห็นๆกันอยู่ว่าคนพวกนี้เป็นคนของสำนักฮงเหมิน ที่ฆ่าคนได้อย่างไม่กะพริบตา ถ้าเกิดพวกเขาลงมือจริงๆ เย่เฉินก็คงไม่รอดแน่
ทางด้านเหล่าชายฉกรรจ์เมื่อเห็นเย่เฉินยืนอวดเก่งอยู่ตรงหน้า แต่ละคนก็เผยสีหน้าดุร้ายออกมา
ในตอนนี้เองจงจื่อทาวก็เอ่ยพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าดูแคลนว่า “ได้เลยไอ้อ่อน แกนี่มันมั่นหน้าจริงๆ! ใกล้จะตายอยู่แล้ว ยังจะมาอวดเก่งต่อหน้าผู้หญิงอยู่ได้!”
เย่เฉินพูดยิ้มๆว่า “ใครกันแน่ที่จะตาย กองทัพกุ้งแห้งที่นายพามาด้วย ในสายตาฉันก็ไม่ต่างอะไรกับฝูงหมาหรอกนะ”
หนึ่งในชายฉกรรจ์ตะคอกออกมาอย่างโกรธจัด “แม่งเอ้ย! พวกฉันเป็นคนของสำนักฮงเหมินนะ นี่แกกล้ามาพูดจาหมาไม่แดกใส่พวกฉันเหรอ!”
เย่เฉินเอ่ยขึ้นอย่างเรียบนิ่ง “ทำไม? แค่บอกว่าไม่ต่างอะไรกับฝูงหมา นายก็ดิ้นแล้วเหรอ?”
ลูกน้องของชายฉกรรจ์คนนั้นตะคอกอย่างเดือดดาล “ไอ้เหี้ย!พี่ไก่เป็นถึงนักสู้มือทองของสำนักฮงเหมินเลยนะ แกยังไม่คุกเข่าสำนึกผิดอีกเหรอ!”
เย่เฉินยิ้มอย่างดูแคลน “ที่แท้ก็เป็นไก่นี่เอง เทียบกับหมาไม่ติดจริงๆด้วย”
ราวกับพี่ไก่ได้เจอกับความอัปยศขั้นสุด ชี้หน้าเย่เฉินพร้อมตะคอกออกมาเสียงแหบเสียงแห้ง “ฉันจะฆ่าแก!”
พูดจบได้ไม่ทันไร เขาก็พุ่งเข้าใส่เย่เฉินทันที ซัดหมัดหนักๆใส่สันดั้งเย่เฉิน
เขาเป็นหนึ่งในอันธพาลยอดฝีมือของสำนักฮงเมิน ความสามารถส่วนตัวแกร่งกล้าเป็นอย่างมาก เคยขึ้นสังเวียนใต้ดินในเกาะฮ่องกางมาแล้วหลายที่ สถิติการเอาชนะคู่ต่อสู้มีเกินครึ่ง
ในสายตาของเขา หมัดนี้แรงมากพอที่จะต่อยเย่เฉินหน้าหงาย เลือดสาดกระจาย!
และตัวเขา ไม่ใช่แค่สามารถใช้พละกำลังทำให้เย่เฉินต้องชดใช้กับคำพูดเมื่อสักครู่ แต่ยังจะได้ความดีความชอบต่อหน้าจงจื่อทาวเพราะเป็นฝ่ายบุกก่อนอีกด้วย
แต่ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถัดจากนั้นกลับพลิกเปลี่ยนจากที่เขาคาดการณ์ไว้จากหน้ามือเป็นหลังมือ!
เย่เฉินอมยิ้ม มองมาที่เขานิ่งๆไม่ขยับไปไหน แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ลายสักบนตัวก็แค่กุ้งตัวหนึ่ง ยังมีหน้ามาทำตัวอาจหาญต่อหน้าฉันอีกนะ!”
พูดจบได้ไม่ทันไร หมัดของไก่ก็รุกคืบเข้ามาใกล้
เย่เฉินที่ตอนแรกไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ พลันสวนหมัดรับแรงปะทะจากอีกฝ่าย
หมัดนี้ไวปานสายฟ้าฟาด คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครมองทันเลย
ชั่ววินาทีหลังจากนั้น เสียงปั่กก็ดังขึ้นมา ตามมาด้วยเสียงโหยหวนเหมือนต้นไผ่ผลิแตกของชายหนุ่มนักล่าคนนั้น!
แขนของเขาแทบแตกออกเป็นผุยผง
สีหน้าของเขา บิดเบี้ยวสุดขีดเพราะความเจ็บ
มองกลับมาที่เย่เฉิน กลับมีท่าทางผ่อนคลาย ราวกับว่าคนที่ออกหมัดเมื่อสักครู่ไม่ใช่เขาอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเห็นว่าไก่เจ็บจนน้ำตาไหล เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเหน็บแนม “อันธพาลยอดฝีมือเก่งได้แค่นี้เองเหรอ? ถ้านายเป็นหมา ก็คงเป็นได้แค่หมาไม่แดก!”
คราวนี้ ทุกคนต่างนิ่งอึ้งกันเป็นแถบ
ใครก็ไม่คาดคิด ว่าพี่ไก่ที่เก่งกาจที่สุด จะถูกอีกฝ่ายสวนหมัดใส่จนหมดสภาพแบบนี้
จงจื่อทาวก้าวถอยหลังอย่างตกใจ ตหวดใส่คนที่เหลือว่า “เข้าไปจัดการมันสิ!ฉันให้พวกแกสิบล้าน!”
เมื่อมีรางวัลจูงใจย่อมมีผู้กล้า
แม้ว่าคนที่เหลือจะตกตะลึงอ้าปากค้างกับการกระทำของเย่เฉินเมื่อสักครู่ แต่เมื่อได้ยินจำนวนเงินรางวัลที่จงจื่อทาวเสนอมา พวกเขาก็รีบพุ่งเข้าไปหาเย่เฉินเหมือนผึ้งแตกรัง
พวกเขาคิดว่า ต่อให้เย่เฉินจะเก่งกาจแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาที่มีหลายสิบคนด้วยตัวคนเดียวได้หรอก
ดังนั้น ขอแค่ทุกคนพร้อมใจร่วมมือกัน ก็ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีชั่วข้ามคืน!
ในตอนนี้เอง คนที่พุ่งเข้าไปข้างหน้าเป็นคนแรก ก็กระโดดยกเท้าขึ้นถีบเย่เฉิน
ตามที่เขาคิดเอาไว้ หลังจากที่ฝ่าเท้าอรหันต์นี้ประทับลงบนหน้าของเย่เฉิน พรรคพวกที่เหลือก็จะสามารถเข้ามารุมยำเย่เฉินได้ท่วงทันเวลา เย่เฉินจะได้ไม่มีโอกาสโจมตีกลับ และเพียงพอที่จะทำให้เย่เฉินปางตายได้
แต่เย่เฉินกลับไม่แม้แต่จะขยับหลบ ตรงกันข้ามจู่ๆก็ยื่นมือออกมา ใช้มือทั้งสองข้างจับขาของเขาเอาไว้!