ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4420 ไม่ต้องมาญาติดีกันอีก!
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากธุรกิจของจงหยุนชิวเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงอยากที่จะตัดความสัมพันธ์ของเขากับสำนักฮงเหมินอย่างจริงๆ จังๆ แต่ฮงหยวนซานเป็นคนฉลาดที่ฉลาดไปอีกขั้น อีกฝ่ายไม่อยากเป็นกระโถนของจงหยุนชิว พอไม่ใช้แล้วก็คิดที่จะโยนทิ้ง
จงหยุนชิวเองก็รู้ดีว่า ตอนนี้ฮงหยวนซานเห็นเขาเป็นบ่อเงินบ่อทอง เช่นเดียวกับที่เขาเคยเห็นอีกฝ่ายเป็นที่พึ่งในตอนแรก ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาวิธีทำให้ฮงหยวนซานรู้สึกมั่นคง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฮงหยวนซานทำเงินได้มากมายในธุรกิจการลักลอบนำเข้าเนื้อแช่แข็ง แต่เนื่องจากขนาดของสินค้าเล็กไป เขาจึงอยากให้จงหยุนชิวช่วยออกหน้าจดทะเบียนเป็นบริษัทขนส่งเพื่อช่วยเขารับสินค้าจากต่างประเทศมาที่เกาะฮ่องกาง
นอกจากนี้ เขายังต้องการให้จงหยุนชิว ใช้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อซื้อเรือสปีดโบ๊ทที่ให้เขา เพื่อที่เขาจะได้ลักลอบนำเข้าเนื้อแช่แข็งไปยังแผ่นดินใหญ่ได้โดยตรง
เพื่อไม่ให้จงหยุนชิวมีโอกาสปฏิเสธ ฮงหยวนซานจึงอาศัยความเป็นพ่อเลี้ยง เชิญลูกบุญธรรมและหลานชายเข้าร่วมงานเลี้ยง เพื่อเสนอข้อเรียกร้องที่โต๊ะอาหารค่ำ เขาคิดว่ายังไงจงหยุนชิวก็ไม่สามารถปฏิเสธได้แน่
แต่ว่า ฮงหยวนซานรออยู่ที่บ้านนานแล้ว ขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของจงหยุนชิว
เขาจึงกดโทรหาอีกฝ่าย แล้วพูดว่า “หยุนชิว! พอตอนนี้เป็นใหญ่เข้าหน่อย เลยไม่คิดที่จะเห็นหัวฉันแล้วใช่ไหม ฉันนั่งรอแกมากินข้าวที่บ้านด้วยกันมาชาติเศษละ จนตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาแกเลย แกทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง? ไม่เห็นค่าพ่อบุญธรรมคนนี้แล้วก็พูดออกมาตรงๆ ฉันจะได้ไม่ไปทำให้แกลำบากใจอีก ส่วนบุญคุณที่ฉันเคยช่วยแกเอาไว้จะถือซะว่าป้อนข้าวหมาแล้วกันนับจากนี้เราสองคนอย่ามาญาติดีกันอีกเลย”
ทำไมจงหยุนชิวจะไม่รู้ว่านี่คือลูกไม้ของฮงหยวนซาน
ฮงหยวนซานเจ้าแผนการซะขนาดนั้น
เหตุผลที่เขาพูดมาอย่างนี้ก็เพื่อให้ตายใจทั้งนั้น
เขารู้ดีว่าจงหยุนชิวไม่สามารถใช้อำนาจหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ถึงได้พูดว่าจะไม่มีวันญาติดีกันอีก ดังนั้นเขาจึงจงใจแสดงความอ่อนแอออกมา เพื่อเป็นฝ่ายที่อยู่เหนือกว่าในด้านศีลธรรม
เมื่อเป็นแบบนี้ จงหยุนชิวก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องขอโทษเขา
จงหยุนชิวจึงรีบพูดอย่างนอบน้อม: “พ่อ ผมจะไม่เห็นค่าพ่อได้ยังไง พ่อจะเป็นพ่อบุญธรรมของผมไปตลอดชีวิต จงหยุนชิวคนนี้คงมาถึงวันนี้ไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากพ่อ!”
ฮงหยวนซาน ถามว่า: “แล้วทำไมแกยังไม่มา? จะยกเลิกนัดก็ไม่บอกฉันสักคำหน่อยเหรอ มันมากเกินไปแล้วหรือเปล่า!”
จงหยุนชิวรีบพูด: “ไม่ใช่อย่างนั้น! เดิมทีผมน่าจะไปถึงเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่จื่อทาวหายหัวไปตั้งแต่บ่าย ตอนนี้ยังไม่กล้บมาเลย ผมโทรหาก็ไม่รับสาย ผมเลยกังวลว่าเขาจะเป็นอะไรไป!”
เมื่อฮงหยวนซานได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ตะโกนทันที: “ให้ตาย! ใครมันกล้ามาแตะต้องหลานของฮงหยวนซาน ฉันจะทุบหัวมันซะ! แม้ว่าฉันจะไม่มีอำนาจไปมากกว่านี้ แต่ก็จะเล่นมันให้ถึงชีวิต หยุนชิวแกไม่ต้องห่วง ถ้ามีคนกล้าที่ทำอะไรจื่อทาว ฉันจะฆ่ามันให้เอง!”
คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายอย่างฮงหยวนซาน เวลาพูดอะไรไม่ได้มีความหมายเดียวซะทีเดียว
เหตุผลที่เขาพูดออกมาอย่างฮึกเหิมแบบนี้ ด้านหนึ่งก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับจงหยุนชิว แต่ในทางกลับกัน เขากำลังข่มจงหยุนชิวต่างหากล่ะ
ความหมายของคำนั้นง่ายมาก แม้ว่าฉันจะแก่แล้ว แต่ฉันก็ยังกล้าเล่นกับคนอื่น ถ้าแกกล้าเล่นกลับฉัน ฉันก็กล้าเล่นกับแก!
จงหยุนชิวก็เป็นคนฉลาดเช่นกัน และเขาเข้าใจว่าฮงหยวนซานหมายถึงอะไร แต่เขาไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจมันในเวลานี้ จึงรีบพูดว่า: “พ่อ ทำไมพ่อไม่ส่งลูกน้องไป ช่วยตรวจสอบด้วยอีกแรงล่ะ ผมกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับจื่อทาวจริงๆ เขาไม่เคยไม่รับสายผม”
ฮงหยวนซานพูดอย่างใหญ่โต: “หยุนชิว ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง ฉันจะส่งคนไปตรวจสอบว่าจื่อทาวอยู่ที่ไหน แกบอกฉันมาว่าเขาออกจากบ้านไปตอนบ่ายเวลาไหน ฉันจะได้ให้คนเริ่มสืบจากช่วงเวลานั้น รับรองว่าสามารถติดตามและค้นหาเบาะแสของเขาได้อย่างแน่นอน!