ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4429 คุณเป็นใครมาจากไหนกันแน่?
บทที่ 4429 คุณเป็นใครมาจากไหนกันแน่?
หลิวม่านฉงเห็นปรากฏการณ์แปลก ๆ ทันที พนักงานเสิร์ฟในไนท์คลับทั้งหมด ดูเหมือนจะกระซิบอะไรบางอย่างกับแขกโต๊ะอื่น
หลังจากนั้นไม่นาน แขกที่เคยคุยกับพนักงาน จะลุกขึ้นและออกไปทันที
เธออดไม่ได้ที่จะประหม่าอยู่ครู่หนึ่ง และพูดเสียงต่ำกับเย่เฉินว่า:”พวกเขามาแล้วใช่ไหม? ฉันว่าพนักงานเหล่านั้นดูเหมือนจะแปลกๆ นะ”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า:”ไม่ต้องประหม่า หนังเพิ่งจะเริ่ม”
พูดจบ เขาก็เทแชมเปญอีกแก้วแล้วจิบเอง
ไม่นาน แขกคนอื่นๆ ในไนท์คลับก็ออกไปเกือบจะหมดแล้ว เหลือเพียงโต๊ะของเยเฉินกับหลิวม่านฉง
หลังจากนั้น ไฟทั้งหมดบนเพดานก็สว่างขึ้นในเวลานี้ ทำให้ล็อบบี้ไนต์คลับสลัวๆ สว่างไสวราวกับกลางวัน
เพลงสนุกก็จบลงอย่างกะทันหัน ดีเจและพนักงานเสิร์ฟก็ออกจากช่องทางพนักงานอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น กลุ่มกู๋หว่าไจ๋ที่ถือมีดพร้า ก็เข้ามาล้อมรอบ ๆ เย่เฉินและหลิวม่านฉง จนแน่นแทบออกไม่ได้
เย่เฉินไม่รีบร้อนหรือตื่นตระหนก ใบหน้าของเขามีรอยยิ้ม ขณะที่หลิวหม่านฉงที่อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะถามว่า:”พวกคุณจะทำอะไร? ! ระวังนะ ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
ทันทีที่พูดจบ ก็ได้ยินเสียงติดตลก:”คุณหลิว คุณช่างอารมณ์แรงจริงๆ”
หลังจากประโยคนี้ ชายชราในวัยหกสิบเศษสวมชุดจีน เดินเข้ามาแบบเอามือไขว้หลัง
บุคคลนี้คือฮงหยวนซาน หัวหน้าสำนักของสำนักฮงเหมินของเกาะฮ่องกง
คนที่เข้ามากับฮงหยวนซาน ยังมีจงหยุนชิวพ่อของจงจื่อทาว รวมถึงครูฝึกหลินที่ฮงหยวนซานใช้ความพยายามอย่างมาก เพื่อดึงมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาได้
หลิวม่านฉงไม่เคยเห็นฮงหยวนซาน แน่เนื่องจากฮงหยวนซานมีชื่อเสียงมากบนเกาะฮ่องกง เธอจึงจำเขาได้ทันที
เมื่อเห็นว่าฮงหยวนซานมาเองเลย หลิวม่านฉงรู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง เพราะเธอรู้ว่า ดูจากท่าทีนี้แล้ว ปัญหาในตอนนี้อาจแก้ได้ยากแล้ว
ดังนั้น เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงเคารพเล็กน้อยว่า:”คุณท่านฮง ไม่ทราบว่าท่านมาที่นี่เพื่อเหตุใด?”
“เพื่อเหตุใด?”ฮงหยวนซานร้องฮึ และถามว่า:”พวกคุณทำร้ายคนของฉันใช่ไหม? แล้วยังลักพาตัวหลานของฉันไปด้วย?”
หลิวม่านฉงรีบอธิบาย:”คุณฮง เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด เรื่องทั้งหมดนี้จงจื่อทาวเป็นคนยั่วยุก่อนเอง……”
จงหยุนชิวที่อยู่ข้างๆ โกรธสุดๆ และตะโกนออกมาว่า:”หลิวม่านฉงสินะ คุณรีบบอกฉันมาจะดีกว่า ว่าลูกชายของฉันอยู่ที่ไหน! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกชายของฉัน คุณโดนแน่!”
ตอนนี้เย่เฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ อดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ และพูดว่า:”ผมว่านะพวกคุณสองคนก็น่าจะอายุประมาณ 50- 60 ปีแล้ว สองคนรวมกันคงจะ100กว่าปี แล้วแม่งเป็นคนที่จะฝังดินแล้ว กลับมารวมหัวหาเรื่องกับผู้หญิง ถ้าหลุดออกไป ไม่กลัวจะถูกหัวเราะเยาะเหรอ?”
เมื่อฮงหยวนซานได้ยินแบบนี้ ก็โกรธทันที เขาตะโกนอย่างเคร่งขรึม:”ไอ้หนู! แกนี่มันช่างกล้าจริงๆ ฉันได้ยินมาว่านายมาจากที่อื่น นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
เย่เฉินพูดนิ่งๆ :”ในสายตาของผม ฉันเป็นแค่สุนัขแก่ๆ ที่ฟันใกล้จะร่วงจนหมดแล้ว ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นใคร”
“เชี่ย!”เหล่าลูกน้องโกรธทันที และหนึ่งในนั้นโพล่งออกมา:”มึง กล้ามาด่าหัวหน้าสำนักของพวกกู กูจะฆ่ามึง!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า:”เดี๋ยวนะ มาถึงก็จะฆ่าเลย? เข้าจุดสุดยอดเร็วขนาดนี้ มันก็ไม่สนุกสิ?”
ฮงหยวนซานมองไปที่เย่เฉินด้วยท่าทางที่น่ากลัว และพูดว่า:”อีหนู! แกกล้ามากจริงๆ! ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ แกเป็นใครมาจากไหนกันแน่?”
เย่เฉินเยาะเย้ย:”ฉันมาจากไหน คุณยังไม่คู่ควรที่จะถาม พวกคุณจะมาแก้ปัญหาไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ฉันจะให้วิธีแก้ปัญหาหนึ่งอย่างกับพวกคุณ ในฐานะพี่ใหญ่ของสำนักฮงเหมิน คุณรู้เห็นเป็นใจลูกน้องของคุณทำความชั่ว ก่อกรรมทำชั่ว เห็นแก่อายุของคุณ วันนี้คุณโค้งคำนับและขอโทษที่นี่ เรื่องนี้ฉันสามารถปล่อยผ่านไปได้”
พูดจบ เขาชี้ไปที่จงหยุนชิวที่อยู่ข้างๆ และพูดอย่างเย็นชาว่า:”คุณเป็นพ่อของจงจื่อทาวสินะ? วันนี้ลูกชายของคุณคิดจะทำมิดีมิร้ายต่อคุณม่านฉง และคุณในฐานะพ่อ กลับไม่มีการสั่งสอนลูกชายเลย จึงหนีความรับผิดชอบไม่ได้ ดังนั้นถ้าตอนนี้คุณคุกเข่าลง และก้มหัวให้คุณม่านฉงสามครั้ง ฉันก็สามารถปล่อยผ่านความรับผิดชอบของคุณได้”