ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4466 ขอโทษ ที่ทำให้ท่านผิดหวังแล้ว
บทที่ 4466 ขอโทษ ที่ทำให้ท่านผิดหวังแล้ว
เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะสวยงามยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้เข้าในสายตาของเขาเลยจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เคยชอบผู้หญิงประเภทที่ไม่รู้จะสงวนตัว ดังนั้นเขาจึงได้แต่พยักหน้าอย่างเย็นชา และไม่พูดอะไรเลย
หลิวเจียฮุยมองไปที่การแสดงของเย่เฉิน และรู้ว่าเขาต้องไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้แน่นอน ดังนั้นเขาจึงพูดกับผู้หญิงคนที่สองทันทีว่า “คุณ มาทักทายคุณเย่เร็วเข้า”
เด็กผู้หญิงขี้อายเล็กน้อย แต่หยางเทียนเซิงกระแอ๋ม ร่างกายของนางก็สั่นเทาเล็กน้อย และนางก็ทำได้เพียงกัดฟันและเดินเข้าไปต่อหน้าเย่เฉิน และกล่าวอย่างขี้อายว่า “คุณ……..คุณ……..สวัสดีคุณเย่…….ฉัน……ฉันชื่อเซวีย……….เซวียจื่อฉี……”
หลิวเจียฮุยไม่พอใจเล็กน้อย และพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันให้แกทักทายคุณเย่ คุณไม่กล้าแม้แต่จะมองตาของคุณเย่เลย คุณรู้จักคำว่ามารยาทหรือไม่?”
หญิงสาวตกใจและรีบมองขึ้นไปที่เย่เฉิน ในเวลานี้ สีหน้าของเธอตกใจมากจนพูดไม่ออก และเธอก็พูดโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า“ฮ๊ะ! ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ!”
เย่เฉินก็จำเด็กผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว
ไม่นึกเลยว่า มันคือตอนที่ตัวเองไปญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ อยู่แถวใกล้กับมหาวิทยาลัยโตเกียว และได้พบกับสาวหัวเซี่ย ที่กำลังร้องเพลงอยู่บนถนน
เย่เฉินเห็นว่าเธอก็เป็นเหมือนเด็กผู้หญิงในตอนเมื่อกี้นี้ ใส่เสื้อผ้าที่เซ็กส์ซี่ และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถามว่า “คุณไม่ได้เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นเหรอ? ทำไมถึงมาที่นี่ได้?”
หลิวเจียฮุยถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณเย่ คุณรู้จักกับผู้หญิงคนนี้เหรอ?”
เย่เฉินพยักหน้า และพูดเบาๆ ว่า “ฉันเคยพบกับเธอครั้งเดียว”
ในเวลานี้เด็กหญิงรู้สึกละอายใจมากจึงพูดว่า “ฉัน…….ฉัน…….ฉันเพิ่งเรียนจบเมื่อเดือนที่แล้ว…….ดิมที……ฉันอยากอยู่เพื่อเรียนต่อปริญญาโทที่ญี่ปุ่น แต่คุณหยางเต้มใจเซ็นต์สัญญาจ้างกับฉัน และทำอัลบั้มให้ฉัน ดังนั้นฉันจึงมาที่เกาะฮ่องกางและเซ็นสัญญาเข้าบริษัทของคุณหยาง…..”
เย่เฉินพูดพร้อมกับตำหนิเล็กน้อยว่า “ร้องเพลงก้ร้องเพลงดีๆ แต่งเพลงก็แต่งให้มันดีๆ และทำอัลบั้มก็ทำอัลบั้มดีๆ การมาที่นี้และแต่งตัวแบบนี้ หรือว่าก็เป็นส่วนหนึ่งของการออกอัลบั้มงั้นหรือ?”
ดวงตาของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างกะทันหัน เธอยกคอเสื้อขึ้นอย่างประหม่า และหนีบขาของเธอให้แน่มากที่สุด เธอสำลักด้วยความละอายและพูดว่า “ฉันขอโทษคุณเย่…….ฉันทำให้คุณผิดหวังแล้ว……”
สำหรับเย่เฉิน ในหัวใจของเธอรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ
ย้อนกลับไปตอนที่เขาร้องเพลงและขอเงินอุดหนุนการเรียนตามท้องถนนในต่างประเทศด้วยตัวเอง เย่เฉินก็ทุ่มเงินสดทั้งหมดให้ตัวเองอย่างไม่เห็นแก่ตัว
หลังจากนั้น ตัวเองก็เข้าไปพัวพันกับสมาคมไฮกิงบุงเกียวในโตเกียว และก็เพราะเย่เฉินเป็นผู้ทำความยุติธรรมให้กับตัวเอง
เพียงแต่ในครั้งนั้น เธอก็ไม่เคยลืมเย่เฉินเลย แต่เธอก็รู้ด้วยว่า ตัวเองอาจไม่มีโอกาสได้เจอเย่เฉินในชีวิตของเธออีกแล้ว
ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ได้ร้องเพลงตามท้องถนน ในเวลาว่างทุกวันโดยเสี่ยงที่จะถูกพวกสมาคมไฮกิงบุงเกียวกลับมาแก้แค้น เพียงเพื่อจะได้เห็นเงาร่างเย่เฉินอีกครั้ง ในท่ามกลางฝูงชน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา เย่เฉินก็ได้ออกจากญี่ปุ่น และไม่เคยไปเดินบนถนนสายนั้นอีกเลย
จู่ๆ เธอก็ได้เจอเย่เฉินอยู่ที่นี่ นอกจากความประหลาดใจแล้ว เธอยังรู้สึกละอายใจมากขึ้น
เย่เฉินเหลือบมองหยางเทียนเซิง เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับการกระทำของไอ้โจรเฒ่าคนนี้มาแล้ว น่าตาก็พอจะดูดีอยู่บ้าง แต่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นไอ้สัตว์นรกที่มีใบหน้ามนุษย์เท่านั้น แต่เดิมวงการบันเทิงก้สกปรกอย่างยิ่งอยู่แล้ว เขาก็ยิ่งเป็นเหมือนมารในความสกปรกเลยทีเดียว
ดังนั้น เขาจึงยกนิ้วขึ้นและชี้ไปที่หยางเทียนเซิง ขมวดคิ้วและถามว่า “ไอ้แก่คนนี้บังคับให้คุณแต่งตัวแบบนี้ใช่ไหม?”
ทันทีที่หยางเทียนเซิงได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ด่าอย่างโกรธเคืองว่า “มึงแม่งว่าใครเป็นไอ้แก่เหรอ?”