ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4507 เมื่อรักคนคนหนึ่งเข้าแล้ว ก็จะรักและใส่ใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา 3
- Home
- ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
- บทที่ 4507 เมื่อรักคนคนหนึ่งเข้าแล้ว ก็จะรักและใส่ใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา 3
“โอเค” เย่เฉินพยักหน้าตอบรับอย่างตรงไปตรงมา เขาวางแผนว่าหลังจากที่ครอบครัวลุงโจงย้ายบ้านใหม่แล้ว ก็จะกลับสหรัฐอเมริกาทันที ในเมื่อเฟ่ยเข่อซินไม่รีบร้อนที่จะกลับ ถึงเวลาก็โดยสารเครื่องบินกลับไปพร้อมเธอก็ได้
เฟ่ยเข่อซินถามเย่เฉินอีกครั้งว่า: “คุณเย่พักที่โรงแรมอะไรเหรอ?”
เย่เฉินมองหลิวเจียฮุยและหลิวม่านฉง เอ่ยว่า: “ผมยังหาโรงแรมไม่เจอเลย”
เฟ่ยเข่อซินเองก็เหมือนจะมองออกถึงสาเหตุคร่าวๆ จึงเอ่ยว่า: “ถ้างั้นเดี๋ยวตอนฉันหาโรงแรม จะจองห้องให้คุณด้วยก็แล้วกัน”
เย่เฉินพยักหน้าหงึก: “ถ้างั้นก็ต้องลำบากคุณเฟ่ยแล้วนะครับ”
หลิวม่านฉงเงยหน้ามองเย่เฉิน ราวกับจะพูดอะไร ทว่ากลับพูดไม่ออก
หลิวเจียฮุยที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แม้เมื่อครู่จะถูกเย่เฉินทรมานไป ทว่าภายในใจของเขากลับอยากเชิญเย่เฉินและเฟ่ยเข่อซินไปพักที่บ้านของตนต่อด้วยเจตนาร้ายแอบแฝง
เพียงแค่ เขาเองก็ทราบดีว่า สถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ตนก็ควรจะรักษาเกียรติไว้บ้าง จึงไม่กล้าเอ่ยปากขึ้น หลังจากที่ครุ่นคิดลังเลนานสองนานก็ไม่ได้เอ่ยอันใดอยู่ดี
เย่เฉินเองก็ไม่ได้เสียเวลาอยู่ต่อ จากไปพร้อมกับเฉินจ้างโจงและว่านพั่วจวินแล้ว
เฟ่ยเข่อซินเองก็เตรียมจะจากไป ทว่าก่อนไปนั้น เธอได้เดินมาอยู่เบื้องหน้าหลิวม่านฉงอย่างตั้งใจ พร้อมควักนามบัตรออกมาจากกระเป๋า ยื่นไปให้หลิวม่านฉง ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “คุณหลิว ฉันคือเฟ่ยเข่อซิน นี่คือนามบัตรของฉัน วันหน้าถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือก็ติดต่อฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ”
หลิวม่านฉงยังดมดิ่งอยู่กับความตกตะลึงและความเจ็บปวด เมื่อเห็นเฟ่ยเข่อซินยื่นนามบัตรมาให้กะทันหัน ก็รู้สึกประหลาดใจ
เธอนั้นเพิ่งจะเร่งมาในช่วงหลัง เพราะฉะนั้นเธอแทบจะไม่ได้คุยอะไรกับเฟ่ยเข่อซินเลยด้วยซ้ำ เธอไม่รู้ว่าทำไมคนถือหางเสือเรืออย่างตระกูลเฟ่ยผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนนี้ถึงได้มอบนามบัตรให้ตนด้วยตัวเองเช่นนี้
หลิวเจียฮุยที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าลูกสาวยืนเหม่อลอยอยู่ จึงรีบเอ่ยตักเตือนเสียงเบา: “ม่านฉง คุณเฟ่ยพูดกับลูกอยู่นะ!”
หลิวม่านฉงเพิ่งจะรู้ตัว จึงรีบเอ่ยขึ้นว่า: “ขอบคุณค่ะคุณเฟ่ย…”
เฟ่ยเข่อซินยิ้มอย่างมีไมตรี จากนั้นเอ่ยอย่างตั้งใจว่า: “ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอกค่ะ”
สิ้นเสียง เธอก็ยัดนามบัตรไว้ในมือของม่านฉง ยิ้มพร้อมเอ่ยอย่างราบเรียบ: “คุณหลิว ฉันมีธุระต้องขอตัวก่อนนะคะ ไว้เราค่อยติดต่อกันนะคะ”
หลิวม่านฉงพยักหน้าเบาๆ หลังจากที่พิธีรีตองตั้งนานสองนาน ค่อยมองส่งเฟ่ยเข่อซินจากไป
เฟ่ยเข่อซินพาหยวนจื่อซูออกจากสนามบิน หยวนจื่อซูค่อยเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจว่า: “คุณหนู เหมือนว่าคุณจะให้ความสนใจคุณหลิวคนนี้นะ?”
เฟ่ยเข่อซินอมยิ้ม ส่ายหน้าและพูดว่า: “คุณเย่ต่างหากที่ให้ความสนใจหล่อน ฉันก็แค่ เมื่อรักคนคนหนึ่งเข้าแล้ว ก็จะรักและใส่ใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา”
“แค่กๆ …คุณหนู เมื่อกี้คุณพูดว่า เมื่อรักคนคนหนึ่งเข้าแล้ว ก็จะรักและใส่ใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขางั้นเหรอ?!”
หยวนจื่อซูมองเฟ่ยเข่อซินด้วยความตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะพูดได้เรียบเฉยขนาดนี้
เมื่อเฟ่ยเข่อซินเห็นหยวนจื่อซูตกตะลึงเช่นนี้ จึงยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “อาจารย์หยวน อย่างน้อยคุณก็คือผู้เก่งกาจวิชาบู๊ที่มีประสบการณ์มากคนหนึ่ง เมื่อกี้ฉันพูดชัดเจนขนาดนี้ หรือว่าคุณยังฟังไม่ชัดเจน?”
หยวนจื่อซู รีบเอ่ยว่า: “ไม่ใช่ๆ …ผมแค่คิดไม่ถึงว่าคำพูดนี้จะออกมาจากปากของคุณหนู ก็เลยอึ้งหน่อยๆ …”
เฟ่ยเข่อซินหัวเราะ จากนั้นก็เอ่ยด้วยความจริงจัง: “อาจารย์หยวนไม่ต้องอึ้งไปหรอกค่ะ คนที่ชอบคุณเย่ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวสักหน่อย คุณได้สังเกตไหมคะ สายตาที่คุณหลิวคนเมื่อกี้มองคุณเย่มันคับแค้นใจแค่ไหน ผู้หญิงคนหนึ่งยิ่งสายตามองผู้ชายแบบคับแค้นใจแค่ไหน ก็แสดงว่าในใจรักเขามากเท่านั้น”
หยวนจื่อซูพยักหน้า ยิ้มพลางเอ่ยว่า: “ก็จริงของคุณ…”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวตัดพ้อขึ้นมา: “เฮ้อ คุณเย่เพิ่งจะมาเกาะฮ่องกางสองวันเท่านั้น การที่เธอชอบคุณเย่ภายในสองวันได้เนี่ยฉันไม่ประหลาดใจเลย แต่การที่เธอทำให้คุณเย่เจ็บปวดใจได้ภายในสองวันนี่สิ ทำให้ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ”