ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4508 ทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล1
หยวนจื่อซูเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ: “ทำไมผมดูไม่ออกเลยว่าคุณเย่เจ็บปวดใจกับคุณหลิวท่านนั้นล่ะ?”
เฟ่ยเข่อซินยิ้มเล็กน้อย พลางเอ่ยว่า: “นั่นก็เพราะว่าคุณสังเกตไม่ละเอียดพอละมั้ง”
หยวนจื่อซูยิ้มเยาะตัวเอง จากนั้นค่อยเอ่ยถามเฟ่ยเข่อซินว่า: “คุณหนู ในเมื่อคุณเองก็ชอบคุณเย่เหมือนกัน ถ้างั้นคุณหลิวก็เป็นคู่แข่งกับคุณน่ะสิ แล้วทำไมคุณถึงอยากไปเป็นเพื่อนกับเธอเองแบบนั้นล่ะ?”
เฟ่ยเข่อซินยิ้ม เอ่ยว่า: “ถ้าคุณเย่ยังไม่แต่งงาน หล่อนก็คือศัตรูหัวใจของฉัน แต่ปัญหาคือคุณเย่แต่งงานแล้วน่ะสิ เพราะงั้นหล่อนก็คือเพื่อนรบของฉัน เป็นมิตรสหายกัน เป็นเพื่อนสาวของฉัน”
สิ้นเสียง เธอก็ถามอีกว่า: “ระหว่างผู้ชายมีคำหนึ่งที่ว่าเพื่อนตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน ฉันกับหล่อนก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่อยู่ในชะตาเดียวกันเหมือนกัน”
หยวนจื่อซูต้องอึ้งไปกับความตรงไปตรงมาของเฟ่ยเข่อซิน ทว่าหากมาคิดดูดีๆ แล้ว คุณหนูท่านนี้เดิมทีก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป การที่กระทำอันใดแล้วเป็นตัวของตัวเองและตรงไปตรงมาแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
คิดได้ดังนี้ เขาจึงเอ่ยขึ้นมาโดยไม่คิดอะไรมาก: “คุณหนู ได้ยินมาว่าเพื่อนสนิทต่างเพศของคุณเย่มีเยอะมาก ทั้งกู้ชิวอี๋ดาราชื่อดัง ซูจือหยูจากตระกูลซูแล้วก็ยังมีคุณอิโตะ นานาโกะจากตระกูลอิโตะอีก พวกเขาเหล่านี้ก็เหมือนกับคุณ เป็นผู้สืบทอดตระกูลยิ่งใหญ่”
“ใช่ค่ะ” เฟ่ยเข่อซินเอ่ยตัดพ้อ: “ที่คุณว่ามาเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น มีคู่แข่งเยอะเลยแหละ! อีกอย่างนะแต่ละคนก็สุดยอดกันทั้งนั้น เหมือนว่านอกจากที่ฉันจะฉลาดแล้วก็ไม่มีข้อดีอื่นแล้ว…”
สิ้นเสียง เธอก็หันหน้าไปมองหยวนจื่อซู พร้อมเอ่ยถามว่า: “อาจารย์ซู คุณว่ามีวิธีพิชิตด้วยกลเม็ดอันแยบยลอะไรอยู่ไหม?”
“แค่กๆ …” หยวนจื่อซูกระแอมสองครั้งอย่างทำตัวไม่ถูก เขาเอ่ยว่า: “คุณหนู พูดจากใจเลยนะ คุณเย่เป็นคนโดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ใช่คนที่คนอย่างผมจะมองออกได้ทะลุเลย ถ้าพูดถึงเรื่องความฉลาด คุณฉลาดกว่าผมเยอะเลย ถ้าคุณคิดกลเม็ดอันแยบยลอะไรไม่ออกจริงๆ ผมก็ยิ่งคิดไม่ออกใหญ่เลย”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยอย่างจนปัญญา: “ถ้าเป็นเรื่องที่ว่าจะปฏิเสธผู้ชายที่ตามจีบฉันยังไงล่ะก็ ประสบการณ์ของฉันแน่นหนาแน่นอนอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องจีบผู้ชายยังไงเนี่ย ฉันไม่มีประสบการณ์นี้แม้แต่น้อย…”
สิ้นเสียง เธอก็ถอนหายใจ ส่ายหน้า แล้วเอ่ยว่า: “ช่างมันเถอะ ทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน…”
พูดถึงตรงนี้ เฟ่ยเข่อซินก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำเสียงเบา: “ฉันเห็นว่าก่อนจะไปคุณเย่เหมือนจะจำใจอยู่มากเลย ฉันว่าตอนนี้ช่วยคุณเย่ปรับความเข้าใจกับคุณหลิวก่อนจะดีกว่า”
หยวนจื่อซูไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่: “คุณหนู คุณเดิมพันด้วยอะไรกันแน่…”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยด้วยความจริงจัง: “ไม่ใช่การเดิมพัน ฉันแค่อยากแบ่งเบาความทุกข์ให้คุณเย่จากใจจริงเท่านั้นเอง ฉันเองก็ไม่ได้มีความคิดอื่น เป็นแค่การมอบให้คุณเย่หมดใจก็เท่านั้น ต่อให้จะขึ้นไปบนแท่นสูงสุดไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้ตอบแทนคุณแล้ว”
……
ในเวลานี้เอง
เย่เฉินกำลังนั่งอยู่ในรถยนต์ของว่านพั่วจวินกับเฉินจ้างโจง บึ่งไปยังโรงพยาบาลเจียวหุ้ย
ตลอดทาง เฉินจ้างโจงกระวนกระวายใจอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อหน้าผากไหลลงมาต่อเนื่อง
หยวนจื่อซูเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ: “ทำไมผมดูไม่ออกเลยว่าคุณเย่เจ็บปวดใจกับคุณหลิวท่านนั้นล่ะ?”
เฟ่ยเข่อซินยิ้มเล็กน้อย พลางเอ่ยว่า: “นั่นก็เพราะว่าคุณสังเกตไม่ละเอียดพอละมั้ง”
หยวนจื่อซูยิ้มเยาะตัวเอง จากนั้นค่อยเอ่ยถามเฟ่ยเข่อซินว่า: “คุณหนู ในเมื่อคุณเองก็ชอบคุณเย่เหมือนกัน ถ้างั้นคุณหลิวก็เป็นคู่แข่งกับคุณน่ะสิ แล้วทำไมคุณถึงอยากไปเป็นเพื่อนกับเธอเองแบบนั้นล่ะ?”
เฟ่ยเข่อซินยิ้ม เอ่ยว่า: “ถ้าคุณเย่ยังไม่แต่งงาน หล่อนก็คือศัตรูหัวใจของฉัน แต่ปัญหาคือคุณเย่แต่งงานแล้วน่ะสิ เพราะงั้นหล่อนก็คือเพื่อนรบของฉัน เป็นมิตรสหายกัน เป็นเพื่อนสาวของฉัน”
สิ้นเสียง เธอก็ถามอีกว่า: “ระหว่างผู้ชายมีคำหนึ่งที่ว่าเพื่อนตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน ฉันกับหล่อนก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่อยู่ในชะตาเดียวกันเหมือนกัน”
หยวนจื่อซูต้องอึ้งไปกับความตรงไปตรงมาของเฟ่ยเข่อซิน ทว่าหากมาคิดดูดีๆ แล้ว คุณหนูท่านนี้เดิมทีก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป การที่กระทำอันใดแล้วเป็นตัวของตัวเองและตรงไปตรงมาแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
คิดได้ดังนี้ เขาจึงเอ่ยขึ้นมาโดยไม่คิดอะไรมาก: “คุณหนู ได้ยินมาว่าเพื่อนสนิทต่างเพศของคุณเย่มีเยอะมาก ทั้งกู้ชิวอี๋ดาราชื่อดัง ซูจือหยูจากตระกูลซูแล้วก็ยังมีคุณอิโตะ นานาโกะจากตระกูลอิโตะอีก พวกเขาเหล่านี้ก็เหมือนกับคุณ เป็นผู้สืบทอดตระกูลยิ่งใหญ่”
“ใช่ค่ะ” เฟ่ยเข่อซินเอ่ยตัดพ้อ: “ที่คุณว่ามาเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น มีคู่แข่งเยอะเลยแหละ! อีกอย่างนะแต่ละคนก็สุดยอดกันทั้งนั้น เหมือนว่านอกจากที่ฉันจะฉลาดแล้วก็ไม่มีข้อดีอื่นแล้ว…”
สิ้นเสียง เธอก็หันหน้าไปมองหยวนจื่อซู พร้อมเอ่ยถามว่า: “อาจารย์ซู คุณว่ามีวิธีพิชิตด้วยกลเม็ดอันแยบยลอะไรอยู่ไหม?”
“แค่กๆ …” หยวนจื่อซูกระแอมสองครั้งอย่างทำตัวไม่ถูก เขาเอ่ยว่า: “คุณหนู พูดจากใจเลยนะ คุณเย่เป็นคนโดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ใช่คนที่คนอย่างผมจะมองออกได้ทะลุเลย ถ้าพูดถึงเรื่องความฉลาด คุณฉลาดกว่าผมเยอะเลย ถ้าคุณคิดกลเม็ดอันแยบยลอะไรไม่ออกจริงๆ ผมก็ยิ่งคิดไม่ออกใหญ่เลย”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยอย่างจนปัญญา: “ถ้าเป็นเรื่องที่ว่าจะปฏิเสธผู้ชายที่ตามจีบฉันยังไงล่ะก็ ประสบการณ์ของฉันแน่นหนาแน่นอนอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องจีบผู้ชายยังไงเนี่ย ฉันไม่มีประสบการณ์นี้แม้แต่น้อย…”
สิ้นเสียง เธอก็ถอนหายใจ ส่ายหน้า แล้วเอ่ยว่า: “ช่างมันเถอะ ทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน…”
พูดถึงตรงนี้ เฟ่ยเข่อซินก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำเสียงเบา: “ฉันเห็นว่าก่อนจะไปคุณเย่เหมือนจะจำใจอยู่มากเลย ฉันว่าตอนนี้ช่วยคุณเย่ปรับความเข้าใจกับคุณหลิวก่อนจะดีกว่า”
หยวนจื่อซูไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่: “คุณหนู คุณเดิมพันด้วยอะไรกันแน่…”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยด้วยความจริงจัง: “ไม่ใช่การเดิมพัน ฉันแค่อยากแบ่งเบาความทุกข์ให้คุณเย่จากใจจริงเท่านั้นเอง ฉันเองก็ไม่ได้มีความคิดอื่น เป็นแค่การมอบให้คุณเย่หมดใจก็เท่านั้น ต่อให้จะขึ้นไปบนแท่นสูงสุดไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้ตอบแทนคุณแล้ว”
……
ในเวลานี้เอง
เย่เฉินกำลังนั่งอยู่ในรถยนต์ของว่านพั่วจวินกับเฉินจ้างโจง บึ่งไปยังโรงพยาบาลเจียวหุ้ย
ตลอดทาง เฉินจ้างโจงกระวนกระวายใจอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อหน้าผากไหลลงมาต่อเนื่อง
เย่เฉินเห็นว่าเขาร้อนรนใจ จึงเอ่ยปลอบใจว่า: “ลุงโจง คุณไม่ต้องเป็นห่วงเกินไปหรอก นายหญิงใหญ่จะต้องรอดพ้นจากหายนะไปได้แน่”
เฉินจ้างโจงถอนหายใจ: “แม่ของผมอายุแปดสิบกว่าปีแล้ว เป็นโรคหลอดเลือดในสมองเอาตอนอายุเท่านี้ เกรงว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยสู้ดี”
เย่เฉินยิ้ม: “คุณไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
เฉินจ้างโจงพยักหน้าเบาๆ ทว่าสีหน้าก็ยังคงเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย
ว่านพั่วจวินขับรถมาอยู่หน้าโรงพยาบาลเจียวหุ้ยอย่างรวดเร็ว
เฉินจ้างโจงไม่รอให้รถจอดสนิทดี รีบผลักเปิดประตูลงรถ พร้อมบึ่งไปยังห้องโถงใหญ่
เขามาสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแม่ที่เคาน์เตอร์พยาบาล พยาบาลเข้าเวรก็เช็กห้องแผนกและหมายเลขเตียงของนายหญิงใหญ่เจออย่างรวดเร็ว